กลุ่มAMATA กางแผนปี 2568 เตรียมลงทุนในประเทศกว่า 7 พันล้านบาท ขยายพื้นที่และพัฒนาระบบสาธารณูปโภค ตั้งเป้ายอดขายที่ดินเติบโตกว่า 15% รุกนิคมสปป.ลาว เปิดขายพื้นที่ นิคมอมตะ ซิตี้ นาหม้อ เขตเศรษฐกิจใหม่ เฟสแรก 5,600 ไร่ ตั้งเป้าขายปีนี้ 500 ไร่
นางสาวเด่นดาว โกมลเมศ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA เปิดเผยว่ากลุ่มอมตะ ได้เตรียมความพร้อมในการเพิ่มประสิทธิภาพ การให้บริการด้านสาธารณูปโภค และโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ก็เพราะปี 2568 เป็นปีที่มีความท้าท้าย จากปัจจัยต่างๆ ทั้งภายในประเทศที่เศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวช้า ปัญหาค่าครองชีพ และหนี้ครัวเรือน และปัจจัยภายนอกประเทศ จากภาวะเศรษฐกิจโลก ความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ ความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าและภาษีของสหรัฐ ทำให้เกิดการขยายฐานการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง ไปยังประเทศที่มีศักยภาพ ต้นทุนการผลิตที่ต่ำ และมีความพร้อมทางโครงสร้างพื้นฐาน
ทั้งนี้ อมตะ เตรียมงบลงทุนโดยการซื้อที่ดินใหม่ประมาณ 7,000 ล้านบาท เป็นพื้นที่ที่รองรับการขายและรองรับการลงทุนจากภาคอุตสาหกรรม โดยพื้นที่นิคมฯในแต่ละแห่งตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ทางด้านการค้า ส่วนสถานการเงินปัจจุบันกลุ่มอมตะ มีความแข็งแกร่ง โดยสิ้นปี 2567 มีกระแสเงินสดประมาณ 5 พันล้านบาท และยอดขายที่รอรับรู้รายได้จากการโอนมากกว่า 2 หมื่นล้านบาท รายได้ที่เกิดจากการให้เช่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Utility ที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งลูกค้าใหม่ที่ขายได้ เราก็จะสามารถเพิ่มรายได้ให้กับปีนี้ได้
AMATA มั่นใจการเงินแกร่ง-ยอดขายโตปีนี้15%
ส่วนหนี้สินเมื่อสิ้น ปี 2567 มีหนี้อยู่ประมาณ 17,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายก็น่าจะลดภาระหนี้ไปได้เรื่อย ๆ มีทั้งหนี้ระยะสั้น หนี้ระยะยาว หุ้นกู้เหลือประมาณ 2,000 กว่าล้านบาท เราก็พยายามจะลดภาระหนี้ให้ได้มากที่สุด
สำหรับในปี 2568 ตั้งเป้าหมายยอดขายที่ดินทั้งในไทยและต่างประเทศ 3,500 ไร่ เติบโตจากปีก่อนมากกว่า 15% โดยเฉพาะในเวียดนาม ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก ทั้งญี่ปุ่น จีน เกาหลี และยุโรป
สำหรับแผนการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทยทั้ง 3 แห่ง ประกอบด้วย นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี ,นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง และนิคมอุตสาหกรรม ไทย- จีนนั้น ทางกลุ่มอมตะ จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรมทางด้านพลังงานสะอาด ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตามหลักปรัชญา “ALL WIN” ถือเป็นการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
ด้านนายโอซามู ซูโด รักษาการประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่มอมตะให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ ที่สร้างผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (climate change) ดังนั้นแผนการการดำเนินงานในปี 2568 จึงได้เตรียมความพร้อมในด้านการพัฒนาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานและนำนวัตกรรมพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาใช้ โดยกลุ่มเป้าหมายสำคัญ ได้แก่ จีน และญี่ปุ่น รวมถึงกลุ่มประเทศแถบยุโรป โดยเฉพาะจีนยังมีทิศทางของการย้ายฐานการลงทุนต่อเนื่อง เป็นผลมาจากมาตรการการขึ้นภาษีของ สหรัฐ ทำให้ผู้ประกอบการจีนมีการวางแผนย้ายฐานการผลิต เพื่อการบริหารความเสี่ยงด้านต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น

“ด้วยระบบ Supply Chain และสาธารณูปโภคที่ทันสมัย รวมถึงความมั่นคงด้านพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสิทธิประโยชน์จากนโยบายการส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐ เช่น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทำให้กลุ่มอมตะได้รับความสนใจจากนักลงทุน โดยเฉพาะใน 5 อุตสาหกรรมเป้าหมายหลักตามนโยบายของรัฐบาล
1. อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และชิ้นส่วน
2. อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (PCB)
3. อุตสาหกรรมดิจิทัล Data Center และ Cloud Region
4. อุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต
5. อุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน”
ขณะที่ นายวรงค์ ตังประพฤทธิ์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อมตะซิตี้ ลาว จำกัด กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรม อมตะ สมาร์ท แอนด์ อีโค ซิตี้ นาหม้อ ในสปป.ลาว ปัจจุบันมีทั้งหมด 20,000 ไร่ เป็นที่ดินที่พร้อมพัฒนาแล้ว 5,600 ไร่ ซึ่งนิคมฯดังกล่าวถือว่าเป็นเขตเศรษฐกิจแห่งใหม่ของสปป.ลาว ที่กลุ่มอมตะได้นำนวัตกรรมที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนมาพัฒนาและจะผลักดันให้เป็นศูนย์กลางของการพัฒนาอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี เพื่อเป็นประตูการค้าสู่ประเทศจีนตอนใต้ โดยอาศัยเส้นทางรถไฟความเร็วสูงลาว-จีน เนื่องจากนิคมอุตสาหกรรมดังกล่าวอยู่ห่างจากชายแดนจีนเพียง 40 กิโลเมตร
AMATA รุกหนักนิคมสปป.ลาว
ล่าสุด นิคมอุตสาหกรรม อมตะ สมาร์ท แอนด์ อีโค ซิตี้ นาหม้อ ในสปป.ลาว ได้รับสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนสูงสุดในภูมิภาค และสิทธิการส่งเสริมการลงทุนของนักลงทุน โดยการได้รับยกเว้นภาษี 30 ปี สำหรับผู้ลงทุนใน 7 ปีแรก ที่ครอบคลุมอุตสาหกรรมแปรรูปผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตร เพื่อสนับสนุนการใช้วัตถุดิบภายในให้มีมูลค่ามากขึ้น, อุตสาหกรรมผลิตอุปกรณ์พลังงานทดแทน, อุตสาหกรรมผลิตยานยนต์และอาหาร, อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า แนวทางการพัฒนาของกลุ่มอมตะใน สปป.ลาว นำไปสู่การพัฒนาเป็นเมืองที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนในระยะยาว ที่จะช่วยส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของ สปป.ลาว และภูมิภาคในอนาคต

นายวรงค์ กล่าวว่าเป้าหมายที่จะทำคือ เป็นอุตสาหกรรมสะอาด Eco Friendly Industrial Zone ได้รับการยกเว้นภาษีกำไรในการลงทุนของนิคมแห่งนี้ 7 ปีแรก ภาษีรายได้บุคคลธรรมดา 5% หรือว่าเลือกได้ ถ้าเป็นแรงงานที่ไม่เสียภาษีครึ่งหนึ่งของเรททั่วไปก็ 24% ได้สิทธินำเข้าแรงงาน ภาษีมูลค่าเพิ่ม 1% ให้เฉพาะโรงงานใหม่ที่ไปตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะเท่านั้น
โดยคาดว่าโรงงานสามารถก่อสร้างได้ประมาณเดือนกรกฎาคม และเปิดใช้ได้ประมาณปี 2569 กลุ่มลูกค้าก็จะเป็นกลุ่มลูกค้าเก่าของอมตะ และเป็นกลุ่มลูกค้าที่สนใจจะย้ายจากประเทศจีนมาเพิ่มสาขา ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องของเกษตร อาหาร อิเล็กทรอนิกส์ ข้อดีของที่นิคมนี้ คือ ไฟฟ้าจะถูกกว่าไทย น้ำก็ถูกกว่าไทย ที่ดินก็ถูก แล้วเป็นไฟฟ้าสีเขียว เป็นต้นทุนการลงทุนที่ถูกกว่าทั้งหมด
นายวรงค์ กล่าวว่าตอนนี้อยู่ในช่วงการขายเพิ่งเริ่ม เพราะเพิ่งชดเชยที่ดินเสร็จ 6,000 ไร่ เราจะทำทีละประมาณ 600 ไร่ เป้าหมายอยากจะขายให้ได้ 500 ไร่ ถ้าขายได้เร็วก็จะนำเงินไปลงทุนต่อไปเรื่อย ๆ เราจะทำแบบ Made to Order เพราะเราไม่แน่ใจว่าใครจะมาล๊อตแรกบ้าง แต่ก็มั่นใจว่าปีนี้ต้องขายได้ 500 ไร่
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- อีสท์ วอเตอร์-อมตะ ยู ลงนามซื้อขายน้ำอุตสาหกรรม
- ‘อมตะ’ ฉลอง 50 ปี เมืองอุตสาหกรรมสมบูรณ์แบบ ภายใต้แนวคิด ‘Eternal Dreams’
- ‘GDSI’ ทุ่มงบ 1 พันล้านดอลลาร์ สร้างศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ไฮเปอร์สเกล ที่นิคมฯ อม ตะซิตี้ ชลบุรี
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์ : https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- Twitter: https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yx