Business

ภาครัฐผนึกเอกชน ขับเคลื่อนปี 2568 ปีแห่งการท่องเที่ยวและกีฬา

ปักหมุดหมายปี 2568 ปีแห่งการท่องเที่ยวและกีฬา ภาครัฐผนึกกำลังทุกภาคส่วน ผลักดันท่องเที่ยวไทย จัดแคมเปญต่อเนื่องตลอดปี หวังต่างชาติเข้าไทยแตะ 40 ล้านคน 

ปิดปี 2567 ดูเหมือนว่าเครื่องยนต์เศรษฐกิจสำคัญอย่างภาคการท่องเที่ยว จะเป็นเครื่องยนต์เดียวที่ฟื้นตัว เห็นได้จากตัวเลขนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-15 ธันวาคม 2567 ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติทะลุ 33 ล้านคนแล้ว สร้างรายได้จากการใช้จ่ายต่างชาติ 1,573,080 ล้านบาท และคาดว่าจนถึงสิ้นปี น่าจะแตะ 35 ล้านคน สร้างรายได้รวมกับคนไทยเที่ยวในประเทศ 2.8 -2.9 ล้านล้านบาท

ท่องเที่ยวและกีฬา

ขณะที่ในปี 2568 นับเป็นอีกปีที่ภาครัฐ โดยเฉพาะกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดหวังว่า ภาคการท่องเที่ยวจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยวางหมุดหมายตัวเลขนักท่องเที่ยวไว้ถึง 40 ล้านคนเป็นครั้งแรก สูงกว่าปี 2562 อยู่ที่กว่า 39.9 ล้านคน

จากเป้าหมายดังกล่าว ทำให้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และ ททท. ต้องวางยุทธศาสตร์และแผนการดำเนินงานเต็มสูบ เพื่อให้กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยตามเป้าหมายที่วางไว้

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประกาศจุดพลังการท่องเที่ยวไทย ปี 2568 ให้เป็น ปีแห่งการท่องเที่ยวและกีฬาของประเทศไทย Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 ภายใต้ IGNITE Thailand’s Tourism

ทั้งนี้ จะมุ่งยกระดับมาตรการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง ส่งเสริมเมืองน่าเที่ยว (Hidden Gem Cities) และเผยแพร่เสน่ห์ไทย ผสานกับแนวคิด 5 Must Do in Thailand เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ท่องเที่ยวที่มีคุณค่าและความหมาย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก

สรวงศ์ เทียนทอง
สรวงศ์ เทียนทอง

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทย สู่เป้าหมายรายได้สูงสุดที่ 3.4 ล้านล้านบาท ด้วย 4 หัวใจหลัก ดังนี้

1. มุ่งสู่การเป็นผู้นำการท่องเที่ยวระดับโลก โดยรัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกในการเดินทางท่องเที่ยว (Ease of Traveling) ทั้งการปรับมาตรการวีซ่า และส่งเสริมการเชื่อมโยงเครือข่ายการเดินทางภายในภูมิภาค ให้นักท่องเที่ยวมีความสะดวกสบาย ราบรื่นไร้รอยต่อ ผ่านนโยบาย  6 ประเทศ 1 จุดหมาย

2. ประชาสัมพันธ์จุดหมายปลายทางที่มีอัตลักษณ์และประสบการณ์เชิงวัฒนธรรม โดยเฉพาะในพื้นที่ Hidden Gem Cities เมืองน่าเที่ยวที่มีความพิเศษไม่เหมือนใคร อาทิ จังหวัดน่าน แพร่ สกลนคร สร้างประสบการณ์ความหลากหลายในการเดินทางท่องเที่ยว

3. เผยแพร่ทุนทางวัฒนธรรมเป็นเสน่ห์ (Soft Power) แต่ละท้องถิ่น ในแง่มุมของการอนุรักษ์และส่งเสริมประเพณี ศิลปะ และหัตถกรรมไทย

4. ขยายผลด้วยแนวคิด 5 Must Do in Thailand ได้แก่ Must Taste Must Try Must Buy Must See Must Seek เพื่อให้ได้สัมผัสเสน่ห์ความเป็นไทยที่ช่วยเติมเต็มประสบการณ์การท่องเที่ยวไทยในทุกมิติ

shutterstock 2384124703 1

ดันไทยสู่ศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูมิภาค 

ใน ปี 2568 รัฐบาลจะส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง เดินหน้าพลิกฟื้นศักยภาพท่องเที่ยวไทยทั้งระบบ พาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ผลักดันให้เศรษฐกิจไทย สังคมไทย และคนไทยเติบโตไปด้วยกันอย่างมีความสุขและยั่งยืน นำประเทศไทยสู่จุดหมายปลายทางทางการท่องเที่ยวระดับโลก

นอกจากนี้ยังมุ่งผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของอีเวนต์และความบันเทิงระดับโลก ผ่านสุดยอดอีเวนต์ เทศกาลและงานประเพณีตลอดทั้งปี อาทิ Amazing Thailand Countdown 2025 งาน MotoGP ในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม และงานสงกรานต์ในเดือนเมษายน เพื่อยกระดับกิจกรรมในประเทศไทยสู่ Global Event

นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน และการสร้างโอกาสการลงทุนใหม่ๆ พร้อมร่วมผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูมิภาค (Tourism Hub) และจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก

ททท. วางหมากอัดกิจกรรม 5 Grand ครอบคลุมตลอดปี

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า แนวโน้มการท่องเที่ยวในปี 2568 ของประเทศไทยจะมีทิศทางที่ดีขึ้นจากปีนี้ เนื่องจากรัฐบาลมีนโนบายกระตุ้นเศรษฐกิจและการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศ

นอกจากนี้ คาดว่าจะเป็นปีที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะมาเยือนเมืองไทยแตะ 40 ล้านคนเป็นครั้งแรก ตามนโยบายของนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ต้องการให้ช่วยกันส่งเสริมการตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้สูงกว่าเป้าหมายเดิมที่ ททท.ตั้งไว้ 39.5 ล้านคน

การวางเป้าหมายสูงกว่าเป้าหมายเดิม เนื่องจากรัฐบาลประกาศแคมเปญใหญ่ Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025 ที่ทุกกระทรวงจะมาร่วมมือกันส่งเสริมการท่องเที่ยว และไทยจะเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ วันที่ 9-20 ธันวาคม 2568 และการแข่งขันวอลเลย์บอล FIVB Women’s World Championships 2025 วันที่ 22 สิงหาคม-7 กันยายน 2568 ซึ่งจะเป็นอีเว้นท์สำคัญระดับโลกที่ดึงนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น

379513784 10162714405416756 5
ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์

ทั้งนี้ คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศจากตลาดระยะใกล้ จะมีจำนวน 29 ล้านคน และนักท่องเที่ยวจากตลาดระยะไกลจำนวน 11 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนนักท่องเที่ยวตลาดระยะใกล้ 77.5% และสัดส่วนจากนักท่องเที่ยวระยะไกล 22.5% ขณะที่รายได้รวมจากการท่องเที่ยวทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศของปี 2568 จะมีอัตราเพิ่มขึ้น 7.5% จากปี 2567

ในปี 2568 จะมีความร่วมมือของกระทรวงต่างๆ ดำเนินการทั้งหมด 5 Grand เพื่อให้มีกิจกรรมครอบคลุมตลอดทั้งปี ทั้งด้านการท่องเที่ยวและกีฬา ได้แก่

1. Grand Festivity จัดกิจกรรมใหญ่ตลอดทั้งปีเป็นจุดขายหลักในการดึงนักท่องเที่ยวท่องเที่ยวพร้อมอำนวยความสะดวกการเดินทางให้ครบทุกช่องทางมากที่สุด

2. Grand Moment นำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวที่มอบประสบการณ์ประสบการณ์ใหม่ใหม่และพิเศษสุดแบบ VERY VIP

3. Grand Privilege รวมช้อปปิ้ง แพ็คเกจทัวร์ ตั๋วเครื่องบิน ช่องทางการจ่ายเงินที่สะดวกไร้รอยต่อ

4. Grand Invitation เชิญบุคคลระดับโลกมาเมืองไทยตลอดทั้งปี อาทิ นักร้อง นักดนตรีระดับโลก นักกีฬาระดับตำนานนักเขียนรางวัลโนเบล มาท่องเที่ยวและแชร์ประสบการณ์

5. Grand Celebration การจัดงานเฉลิมฉลองในเทศกาลต่าง ๆ เพื่อดึงการท่องเที่ยว

shutterstock 2429905219

เปิดแผนการส่งเสริมการท่องเที่ยว

1. เสน่ห์ไทย

  • Must Taste: อาหารไทยและวิถีการกินของแต่ละภาค
  • Must Try: มวยไทยและศิลปะการต่อสู้
  • Must Buy: แฟชั่น ผ้าไทย และงานฝีมือ
  • Must Seek: สถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ และเรื่องราวใหม่ ๆ
  • Must See: เทศกาลและประเพณีทั่วไทย

2. เมืองน่าเที่ยว:

  • ใช้กลยุทธ์ City Marketing พัฒนาเมืองต่าง ๆ ให้เป็นเมืองหลักด้านการท่องเที่ยว
  • ค้นหาจุดขายและบอกเล่าเรื่องราวความเป็นไทยของแต่ละพื้นที่ เพื่อทำให้ประเทศไทยเป็น High Season ตลอดทั้งปี

ตลาดในประเทศ “ไทยเที่ยวไทย”

  • แคมเปญ สุขทันที ที่เที่ยวไทย กระตุ้นการเดินทางทันที เพิ่มความถี่และการใช้จ่าย
  • นำเสนออัตลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ เช่น ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้

ตลาดต่างประเทศ

  • มุ่งผลักดันการเติบโตของตลาดศักยภาพ 23 ตลาดทั่วโลก
  • เพิ่มจำนวนตลาด 7 digits ให้ได้ถึง 13 ตลาดในปี 2568
  • ส่งเสริม “เมืองน่าเที่ยว” ที่มีศักยภาพรองรับนักท่องเที่ยว
  • เฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีน ด้วยกิจกรรมต่าง ๆ

พร้อมกันนี้ จะเน้นสร้างความยั่งยืนให้กับการท่องเที่ยวไทย ด้วยการพัฒนาแบรนด์ Amazing Thailand ให้เป็นแบรนด์ท่องเที่ยวที่มุ่งสู่ความยั่งยืน และเดินหน้าโครงการสำคัญ ได้แก่ โครงการ STGs STAR, CF Hotels และรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards)

ททท. เชื่อมั่นว่าปี 2568 จะเป็น Amazing Thailand Grand Tourism Year ที่ยิ่งใหญ่ แข็งแกร่ง และทรงพลังยิ่งกว่าเดิม

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

 

Avatar photo