Business

กสทช. แจงแนวทางขอใบอนุญาตกิจการวิทยุ ระบบ FM ป้องกันเสียงดับหลัง 31 ธ.ค. 67

กสทช. ชี้แจงแนวทางการขอรับใบอนุญาตกิจการกระจายเสียงวิทยุ ระบบ FM สำหรับวิทยุทดลองออกอากาศที่ปัจจุบันมีอยู่ 3,720 สถานี เพื่อไม่ให้เสียงดับหลังวันที่ 31 ธันวาคม 2567

พลอากาศโท ดร.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ชี้แจงแนวทางการดำเนินการขอรับใบอนุญาตกิจการกระจายเสียงในระบบ FM สำหรับวิทยุทดลองออกอากาศที่ปัจจุบันมีอยู่ 3,720 สถานี (ชุมชน 151 สาธารณะ 555 และ ธุรกิจ 3,014 สถานี) ลดลงจากเดิม ณ วันที่ 1 เมษายน 2567 ที่มี 3,809 สถานี ซึ่งต้องยุติการทดลองออกอากาศ หลังวันที่ 31 ธันวาคม 2567

ใบอนุญาตกิจการกระจายเสียง

สำหรับแนวทางในการดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการกระจายเสียง ที่ผ่าน มติ กสทช. แล้ว สรุปดังนี้

1. จำนวนคลื่นความถี่ที่อนุมัติ ในแผนความถี่วิทยุ หลังรับฟังความคิดเห็นมีจำนวนทั้งสิ้น 3,346 คลื่น ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายที่ต้องไม่ก่อให้เกิดการรบกวนกับสถานีวิทยุหลักที่ได้รับอนุญาตแล้ว และต้องมีสัดส่วนไม่น้อยกว่า 25% สำหรับภาคประชาชนและประโยชน์สาธารณะ ทำให้รองรับสถานีวิทยุกระจายเสียงประเภทชุมชนและสาธารณะได้ 854 สถานี เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มี 706 สถานี และรองรับสถานีประเภทธุรกิจได้ 2,492 สถานี ลดลงจากปัจจุบันที่มี 3,014 สถานี

2. คลื่นความถี่ที่นำมาอนุญาตในครั้งนี้เป็นระดับท้องถิ่น จึงกำหนดการใช้งานแต่ละคลื่นความถี่ในระดับอำเภอ โดยกำหนดกิจการที่ใช้งานชัดเจนว่า เป็นประเภทชุมชน สาธารณะ หรือ ธุรกิจ ดังนั้นผู้ประสงค์ทั้งรายเก่าและรายใหม่สามารถยื่นคำขอได้ตามประเภทและตามอำเภอที่กำหนดในตารางแผนความถี่วิทยุ

กสทช 1

สำหรับ ประเภทชุมชนและธุรกิจ กำหนดให้ 1 นิติบุคคล ต่อ 1 คลื่นความถี่ เพื่อไม่ต้องการให้มีนายทุนมาครอบงำ ส่วนประเภทสาธารณะกำหนดให้ 1 นิติบุคคล ได้หลายคลื่นความถี่ เพื่อให้เผยแพร่เนื้อหาที่เกิดประโยชน์ในภาพรวม

3. การพิจารณาอนุญาตประเภทชุมชนและสาธารณะใช้วิธีเปรียบเทียบคุณสมบัติ โดยหลักเกณฑ์การพิจารณาประกอบด้วย ข้อมูลกลุ่มคน/นิติบุคคล ความพร้อมทางด้านเทคนิค ด้านการบริหารจัดการ ผังและเนื้อหารายการ เป็นต้น

ขณะที่ประเภทธุรกิจใช้วิธีประมูล โดยหลักเกณฑ์และวิธีการประมูลจะมีการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะต่อไป แต่หากมีการแก้ไข พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ ฯ มาตรา 41 วรรคสามที่บัญญัติให้ประเภทธุรกิจไม่ต้องใช้วิธีประมูลนี้ได้ทันภายในปีนี้ก็จะปรับเปลี่ยนวิธีให้เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ

4. เมื่อมีประกาศเชิญชวนให้ยื่นคำขออนุญาตแล้ว ก็สามารถยื่นขออนุญาตในความถี่ตามประกาศเชิญชวนนั้นได้ ทั้งรายเก่าและรายใหม่ หรือในกรณีที่คลื่นความถี่ไม่มีในแผนความถี่วิทยุหรือในประกาศเชิญชวน ก็สามารถยื่นได้ทั้งรายเก่าและรายใหม่เช่นกัน โดยสามารถยื่นคำขอการอนุญาตฯ ในคลื่นความถี่อื่น ๆ ในอำเภออื่นหรือพื้นที่ใกล้เคียงในการให้บริการแทน

กสทช1

ทั้งนี้ จะทำให้มีสิทธิออกอากาศวิทยุกระจายเสียงในคลื่นความถี่ปัจจุบัน ตามเงื่อนไขการทดลองออกอากาศต่อไปได้ ในระหว่างการพิจารณาคำขอดังกล่าว จนกว่า กสทช. จะสั่งไม่ออกใบอนุญาตในคลื่นความถี่ใหม่ที่ได้ยื่นคำขอฯ ไว้หรือจนกว่า กสทช. จะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น แต่หากผู้ทดลองออกอากาศเดิมไม่ยื่นคำขอฯ ในคลื่นความถี่ใด ๆ จะต้องสิ้นสุดการทดลองออกอากาศ หลังวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ทันที

ด้านแผนการดำเนินงานเพื่อรองรับการอนุญาตนั้น ในเดือนสิงหาคมนี้ จะมีการเชิญชวนให้ยื่นคำขอฯ สำหรับผู้ประสงค์ในสถานีวิทยุกระจายเสียงประเภทชุมชนและสาธารณะ จึงขอให้ผู้ประสงค์จะยื่นคำขอฯ ได้ศึกษาหรือสอบถามเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม รวมทั้งเงื่อนไขในการขอรับอนุญาต

ในส่วนของเงื่อนไขการประมูล กรณีประเภทธุรกิจ จะมีการรับฟังความคิดเห็นในเดือนสิงหาคมนี้เช่นกัน หลังจากนั้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ จะมีการเชิญชวนให้ยื่นคำขอฯ สำหรับประเภทธุรกิจ ต่อไป

กสทช. จำเป็นต้องดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดในปัจจุบัน ส่วนกรณีหากมีการแก้ไขกฎหมาย กสทช. ไม่ขัดข้อง พร้อมดำเนินการตามกฎหมายใหม่

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้กิจการกระจายเสียง สามารถดำเนินการต่อไปได้ภายใต้กฎหมายปัจจุบัน โดยเฉพาะสถานีวิทยุประเภทชุมชนและประเภทสาธารณะ ที่จะได้รับการอนุญาตเพิ่มมากขึ้นอีก 148 สถานี ก็จะได้รับประโยชน์ นอกเหนือจากการลดค่าธรรมเนียมลงจากเดิมแล้ว จะได้รับการสนับสนุนทั้งด้านการอบรมผู้บริหารสถานีให้มีความเป็นมืออาชีพ รวมทั้งการสนับสนุนการผลิตเนื้อหารายการที่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนผู้ฟัง

นอกจากนี้ จะมีการชี้แจงรายละเอียดหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตวิทยุ ระบบ FM เช่นนี้อีกในพื้นที่ภาคต่างๆ เพื่อให้มีความเข้าใจ เช่น ในวันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม ที่จังหวัดอุบลราชธานี และมีแผนจะไปชี้แจงที่หาดใหญ่และเชียงราย ทั้งออนไซต์และออนไลน์ต่อไป

ดังนั้น จึงขอให้ผู้ประกอบการกระจายเสียงรายเดิม รวมทั้งผู้ที่สนใจจะยื่นคำขอใบอนุญาตกิจการกระจายเสียง รายใหม่ ได้ทำความเข้าใจ และติดต่อสอบถามมาที่สำนักงาน กสทช. โดยตรง อย่าไปหลงเชื่อคำชี้แจงจากกลุ่มบุคคลที่แอบอ้าง ทำให้หลงเชื่อ และเกิด Fake News ได้

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo