กลุ่ม SME อสังหาฯ สุดทน รวมตัวสู้วิกฤติ เสนอ 7 มาตรการหวังเป็นยาแรงกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง
กลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก ที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวเนื่องกับภาคอสังหาริมทรัพย์ ทั้งผู้รับเหมาก่อสร้าง ผู้ออกแบบ โรงงานวัสดุก่อสร้าง กลุ่มผู้ประกอบการด้านการตกแต่งสถานที่และการจัดสวน ได้รวมตัวกันเพื่อแสดงจุดยืน ขอความเห็นใจและเรียกร้องทุกภาคส่วนร่วมเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ
พร้อมกันนี้ ยังส่งเสียงถึงรัฐบาลเร่งมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ให้มากขึ้นอย่างเร่งด่วน เพื่อให้สามารถพยุงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้เดินหน้าผ่านวิกฤติเศรษฐกิจชะลอตัวในครั้งนี้ไปได้
ที่ผ่านมา แม้จะมีการเตรียมพร้อมและวางแผนการทำงานอย่างรอบคอบ ยืดหยุ่น เพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่องแล้ว แต่ปัจจุบันภาคอสังหาริมทรัพย์เองก็ได้รับผลกระทบมาเป็นระยะ ๆ ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ทั้งต้นน้ำและปลายน้ำของ Supply Chain ได้รับผลกระทบแบบโดมิโน จนอาจถึงขั้นต้องปิดกิจการเป็นจำนวนมาก
สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการที่รวมตัวกันในครั้งนี้ ประกอบด้วย ผู้ประกอบการระดับสตาร์ตอัปที่เปิดดำเนินกิจการมาไม่ถึง 10 ปี ไปจนถึงกลุ่ม SMEs และโรงงานที่ดำเนินกิจการมาแล้วกว่า 60 ปี มีพนักงานสูงถึงระดับห้าร้อยคน
กลุ่มผู้ประกอบการเหล่านี้ ระบุว่า วิกฤตที่เผชิญอยู่ในขณะนี้รุนแรงที่สุดตั้งแต่เคยเผชิญมา และเทียบได้กับวิกฤติต้มยำกุ้งในปี 2540 ถึงแม้ว่าวิกฤติครั้งนี้จะมองดูผิวเผินไม่ได้รุนแรงเท่าปี 2540 นั่นเพราะว่าปี 2540 เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้มองเห็นความเสียหายได้ชัดเจน
แต่ในวิกฤติครั้งนี้เกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งเริ่มชัดเจนในช่วงโควิด-19 และในครั้งนั้นผู้ประกอบการได้ปรับตัวรอบใหญ่ไปแล้ว ทั้งการปรับโครงสร้างพนักงาน การปรับลดสวัสดิการ ลดเวลาการทำงาน การขยายฐานลูกค้าใหม่
อย่างไรก็ตาม ภาระเงินกู้และดอกเบี้ยธนาคารที่กู้ยืมในช่วงโควิด-19 ยังคงส่งผลให้การเงินในปัจจุบันมีความฝืดเคือง ซึ่งหลายแห่งพยายามบริหารจัดการและรับมืออย่างเต็มกำลัง แต่หากสถานการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจ และตลาดอสังหาฯ ยังไม่ได้รับการกระตุ้นอย่างเร่งด่วน เชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นครั้งนี้ จะส่งผลกระทบลุกลามไปสู่การปลดพนักงานก็เป็นได้
เสนอ 7 มาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์และ Supply Chain
1. มาตรการซอฟท์โลนสำหรับผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้สามารถนำมาเป็นเงินทุนหมุนเวียน ให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ลูกหนี้การค้าค้างชำระเงินนานขึ้นได้
2. มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรก รวมถึงยกเลิกมาตรการ LTV สำหรับผู้ซื้อบ้านหลังที่ 2 และที่ 3
3. มาตรการดึงกำลังซื้อจากกลุ่มคนทำงานที่เป็นต่างชาติ (Expat) เช่น ขยายเพดานการถือครองที่ดิน เป็น 99 ปี และขยายเพดานสัดส่วนการซื้อคอนโดมิเนียมสูงขึ้นเป็น 75%
4. มาตรการกระตุ้นกำลังซื้อประชาชน ด้วยการลดค่าใช้จ่ายค่าธรรมเนียมการโอนและการลดหย่อนภาษี
5. ลดภาษีนำเข้าสำหรับภาคการผลิต เพื่อช่วยลดราคาต้นทุนการผลิต
6. ลดค่าสาธารณูปโภคสำหรับภาคอุตสาหกรรม รวมถึงลดเงินสมทบในการนำส่งประกันสังคม
7. จัดตั้งหน่วยงานหรือองค์กรเพื่อคุ้มครองผู้ประกอบการ เพื่อช่วยเหลือและให้คำแนะนำ
นอกจากนี้ มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่รัฐบาลออกมา รวมถึงอยู่ระหว่างการพิจารณา มองว่าจะเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้เป็นอย่างดี ซึ่งอยากจะร้องขอภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันในการทำงาน สนับสนุนให้เกิดขึ้นจริง เพื่อบรรเทาปัญหาที่อาจจะก่อให้เกิดวิกฤติในกลุ่ม SME อสังหาฯ ในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งปัจจุบันผู้ประกอบการหลายภาคส่วนได้ทำการปลดพนักงานไปแล้วจำนวนมาก บางแห่งลดพนักงานไปมากกว่าครึ่ง
ก่อนหน้านี้ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจเติบโตดี ผู้ประกอบการได้เกิดแนวคิดในการจ้างงานแนวใหม่ที่จะเติบโตได้ ในขณะเดียวกันก็สามารถมีส่วนช่วยเหลือสังคมได้ เช่น ผู้ประกอบการรายหนึ่งที่มีนโยบายสร้างงานให้กับกลุ่มชาวบ้านที่เดิมยึดอาชีพทำไร่ ซึ่งกิจกรรมบางส่วนกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งการ เผาป่า เผาหญ้า และการถางป่าเพิ่มพื้นที่ทำกิน
อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างมากในขณะนี้ส่งผลให้ต้องลดการจ้างงานและแรงงานจำนวนมากต้องกลับภูมิลำเนาเดิม จึงมีความเสี่ยงที่แรงงานเหล่านั้นจะหันกลับไปยึดอาชีพเดิมที่ยังมีกิจกรรมทำลายสิ่งแวดล้อม
ขณะเดียวกันผู้ประกอบการบางรายได้นำเงินทุนสะสมมาใช้ในการจ่ายภาระที่เป็นค่าใช้จ่ายคงที่ (Fixed cost) ซึ่งหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นเงินทุนสะสมก็จะหมดลงไปและนำไปสู่การปลดคนงานทั้งหมด ซึ่งจะกระทบต่อกำลังซื้อของประเทศในวงกว้าง
สำหรับกลุ่ม SME อสังหาฯ ที่ร่วมยื่นข้อเสนอในครั้งนี้ ประกอบด้วย บริษัท กรีนสเปซ จำกัด, บริษัท คริสตัลวิว วินโดว์แอนด์ดอร์ จำกัด, บริษัท จินดาโชติ จำกัด, บริษัท ไทย สแทร์ จำกัด, บริษัท ใบหญ้า สตูดิโอ จำกัด, บริษัท ฟายด์ เวอร์ค จำกัด, บริษัท เฟรมเทค วินโดว์ แอนด์ ดอร์ จำกัด, บริษัท สยามแกรนด์ อลูมิเนียม จำกัด, บริษัท เอส.เอช.แอล.พาราวู้ด จำกัด และบริษัท เอ็ม.เอ็ม. เค คอมเมอร์เชียล จำกัด
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ปัจจัยลบรุมเร้า ทุบดัชนีอสังหาฯ ไตรมาส 1/2567 ที่อาศัยหดตัวทั้งฝั่งผู้ซื้อ-คนขาย
- ส่องดัชนีเชื่อมั่นซื้อที่อยู่อาศัย ไตรมาส 1 ปี 2567 ลดลงจากปัจจัยลบรุมเร้า
- บ้านล้านหลัง ขยับราคา จับตากำลังซื้อตลาดที่อยู่อาศัย กระตุ้นภาคอสังหาฯ
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg