Business

SingularityU ‘อนันดา’ร่วมขับเคลื่อนสังคมสู่ยุค4.0  

thumbnail K.Chanond New
ชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์

“เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงเร็วจะ Disrupt ทุกสิ่ง ต้องดูว่าจะเร็วและแรงแค่ไหน”  คือโจทย์หลักที่ทำให้ “ชานนท์ เรืองกฤตยา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ลุกขึ้นมาตี่นตัวเรียนรู้พัฒนาทีมงานและองค์กร เพื่อให้รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงในยุคเทคโนโลยี

1435665552 653959 1435665656 noticia normal

สิ่งที่ซีอีโออนันดาฯได้ทำด้วยตัวเองตลอด 3 ปีที่ผ่านมา และเตรียมความพร้อมให้กับทีมบริหารบริษัทก็คือ การนำตัวเองและทีมบริหารอนันดากว่า 20 คน ไปเรียนรู้แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่ Singularity University ศูนย์แห่งการเรียนรู้ความเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีจากซิลิคอนวัลเลย์ สหรัฐอเมริกา ซึ่ง ชานนท์ ย้ำว่า “เป็นอะไรที่เทคกี้มาก” เพราะมันคือเรื่องของเทคโนโลยีล้วนๆ คือเทคโนโลยีที่จะเข้ามาเปลี่ยนโลก เป็นสิ่งที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่าจะเร็วและแรงขนาดไหน อาจเปลี่ยนไปจนคาดไม่ถึง และจะเห็นว่าทุกวันนี้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทต่อการใช้ชีวิตในทุกเรื่องมากขึ้นเรื่อยๆ

จัดสัมมนาขับเคลื่อนสังคมรู้เท่าทันเทคโนโลยี

ไม่เพียงสร้างความพร้อมให้ทีมงาน แต่ซีอีโออนันดา ยังให้ความสำคัญกับการร่วมเสริมสร้างความรู้ให้กับสังคมควบคู่ไปด้วย โดยล่าสุดได้ร่วมกับพันธมิตรจัดสัมมนาระดับโลกเป็นครั้งแรกในไทยด้วยเวที ”SingularityU Thailand Summit 2018” ซึ่งจัดขึ้นเพื่อปั้นนักคิด นักพัฒนานวัตกรรม เตรียมความพร้อมสังคมไปสู่การเปลี่ยนแปลงยุค 4.0 ซึ่ง ชานนท์ บอกว่ากิจกรรมที่จัดขึ้นนี้เป็นการทำ Social Enterprise หรือธุรกิจเพื่อสังคม โดยความร่วมมือกับ 4 พันธมิตรหลัก คือ ธนาคารไทยพาณิชย์, ทรู คอร์ปอเรชั่น, เมืองไทยประกันชีวิต, ปตท. และอนันดาเป็นความร่วมมือของ 5 องค์กรที่ร่วมสปอนเซอร์รายละ 15 ล้านบาทรวมเป็นเม็ดเงิน 75 ล้านบาท สำหรับจัดกิจกรรมเพิ่มพูนความรู้ด้านการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีให้กับสังคม

งานสัมมนานี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 มิถุนายน 2561 ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล แบ็งคอก ประกอบด้วยหัวข้อที่น่าสนใจ เช่น อนาคตของปัญญาประดิษฐ์ (AI-Artificial Intelligence) วงการแพทย์ยุคดิจิทัล อุตสาหกรรมพลังงาน อุตสาหกรรมการเงิน ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ระดับโลก ซึ่งเป็นการนำมันสมองระดับโลกมาร่วมแลกเปลี่ยนในเวทีสัมมนาที่เมืองไทย ซึ่งถือเป็นการจัดเจ้าแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ซีอีโออนันดา กล่าวว่า เทคโนโลยีคือปัจจัยที่จะนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ การพัฒนาประเทศเราอาจวางแผน 10 ปี 20 ปีข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น แต่การไหลบ่าของเทคโนโลยี เราไม่อาจประเมินเวลาที่ชัดเจนได้ ดังเช่นการ Disrupt ของหลายๆ ธุรกิจที่เกิดขึ้นแล้ว การหายไปจากตลาดของเครื่องโทรศัพท์มือถือบางยี่ห้อ ล่าสุดรุกคืบสู่งานครีเอทีฟ เช่น โซนี่มิวสิค กำลังจะออกอัลบัมเพลงใหม่ที่แต่งโดย AI หรือปัญญาประดิษฐ์ จะเห็นว่าเทคโนโลยีกำลังเข้ามาแทนที่ได้แทบทุกสิ่ง

Empire State View

เกาะติดเมกะโปรเจ็ครัฐจุดเปลี่ยนการลงทุน

เมื่อย้อนมองมาที่การพัฒนาประเทศ แผนพัฒนาประเทศไทยขึ้นอยู่กับการลงทุนของภาครัฐในโครงสร้างพื้นฐาน *ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ 20 ปี ประกอบด้วยแผนพัฒนาเศรษฐกิจและแผนพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทยระยะ 20 ปี (2560-2579) วงเงินรวมกว่า 8.95 แสนล้านบาท มีทั้งการพัฒนารถไฟฟ้า รถไฟชานเมือง รถไฟรางคู่ ทางด่วนและมอเตอร์เวย์ รวมถึงโครงการคมนาคมทางน้ำ โครงการพัฒนาศูนย์ขนถ่ายสินค้าและสนามบิน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดทำเลใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ อาทิ โซนนอกเขตศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ เขตชานเมือง รวมถึงต่างจังหวัด โดยเฉพาะเขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งผู้ประกอบการหลายรายรุกคืบเข้าสู่จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง เปิดโครงการรองรับตลาดที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

นับตั้งแต่กรุงเทพฯ เปิดให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสเมื่อปี 2542 และต่อมารถไฟฟ้าใต้ดินเปิดให้บริการในปี 2547 จากวันนั้นการให้บริการยังกระจุกตัวอยู่ใจกลางเมือง วันนี้เส้นทางรถไฟฟ้าเริ่มขยายออกรอบนอกเมือง และคาดการณ์ว่าในปีนี้ กรุงเทพฯ จะมีรถไฟฟ้า 5 สาย 87 สถานี รวมระยะทาง 121.6 กิโลเมตร สิ่งที่มาพร้อมกับการขยายเส้นทางรถไฟฟ้า คือ การเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างเมือง และตลาดอสังหาริมทรัพย์

ทำเลตามแนวรถไฟฟ้ากลายเป็นทำเลทอง ยิ่งใจกลางเมืองก็ยิ่งเป็นทำเลทองฝังเพชร ที่นับวันราคาที่ดินมีแต่จะพุ่งขึ้นมหาศาล ทั้งยังเปลี่ยนวิถีชีวิต และรูปแบบการอยู่อาศัยของคนในเมือง ให้กลายเป็น “Vertical Living” หรือการอยู่อาศัยในแนวดิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ และในปี 2570 เป็นปีสุดท้ายของแผนการพัฒนาโครงข่ายรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ เมื่อถึงเวลานั้นกรุงเทพฯ จะมีรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 11 สาย 297 สถานี ระยะทางรวม 466.1 กิโลเมตร

โดยแผนธุรกิจของอนันดาฯ จะสืบเนื่องมาจากการพัฒนาของระบบรถไฟฟ้า ซึ่งในอนาคตประชากรจะย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองมากขึ้น ปริมาณรถยนต์บนท้องถนนก็จะเพิ่มมากขึ้น ปัญหาการจราจรติดขัดยิ่งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ อนันดาฯ ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในเมืองหลวง ซึ่งถือเป็นความท้าทายที่จะมุ่งมั่นสู่ Urban Living Solutions อันเป็นปรัชญาในการดำเนินธุรกิจของบริษัท ซึ่งการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพบนทำเลศักยภาพสูงและมีความสะดวกสบายในการเดินทางจะช่วยให้ค่าใช้จ่ายในการเดินทางถูกลง พร้อมพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อนำไปเป็นส่วนหนึ่งของที่อยู่อาศัยที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัย และสะดวกสบายสู่คุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นของคนเมือง

เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงเร็วจะ Disrupt ทุกสิ่ง ต้องดูว่าจะเร็วและแรงแค่ไหน

architecture buildings city 373893

UrbanTech เป้าหมายการพัฒนาอสังหาฯ

ปัจจุบันได้มีการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อให้ตอบสนองความต้องการรอบด้านของผู้อยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น โดยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ ตั้งแต่ขั้นตอนของการก่อสร้าง การบริการหลังการขาย สิ่งอำนวยความสะดวกสบายสำหรับประจำวันภายในบ้านด้านต่างๆเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและเพิ่มคุณค่าให้กับโครงการมากยิ่งขึ้น ดังเช่นแนวคิดในการปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจสู่ UrbanTech ของอนันดาฯ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือสู่ความเปลี่ยนแปลงด้านบวกของโลกผ่านกระบวนการคิดแบบก้าวกระโดด ซึ่งเป็นความท้าทายระดับโลก การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะสามารถเปลี่ยนโฉมทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตประจำวันของมนุษย์ได้อย่างคาดไม่ถึง ผู้ประกอบการต้องมีการเรียนรู้และปรับตัวเพื่อให้ทัน และสร้างรากฐานธุรกิจอสังหาฯ เติบโตไปเรื่อยๆ และไม่หยุดนิ่ง เป็นการลดต้นทุนแต่ยังสร้างคุณค่าให้กับสิ่งแวดล้อม

ต้องยอมรับว่าเทรนด์โลกปัจจุบัน นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามามีส่วนในการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีที่เรียกว่าปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligent) หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า AI ถือเป็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวงกว้างในทุก ๆ ด้าน มีการคาดการณ์ว่า AI จะช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้วขยายตัวได้ถึง 1.7 เท่า ในปี 2578 และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของแรงงานโลกได้ถึง 30-40% โดยแวดวงที่ AI เริ่มเข้ามาเกี่ยวข้องในปัจจุบัน ได้แก่ แวดวงการเงิน แวดวงการแพทย์ และแวดวงธุรกิจ โดยมีการใช้ AI จัดเก็บข้อมูลเพื่อรับทราบพฤติกรรมมนุษย์ นำไปสู่การนำเสนอสินค้าได้ตรงตามกลุ่มเป้าหมาย

“เราคาดว่าในระยะเวลา 5-10 ปีต่อจากนี้ เทคโนโลยีจะมีความก้าวหน้าและพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว และยังมีผลต่อกระบวนการก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็น วิธีการก่อสร้าง การออกแบบ สิ่งอำนวยความสะดวก ฯลฯ ที่จะเข้ามาบูรณาการการใช้ชีวิต สร้างสรรค์นวัตกรรมที่ช่วยประหยัดเวลา มีนวัตกรรมที่ช่วยดูแลสุขภาพ ช่วยดูแลเด็กและผู้สูงอายุ เรียกว่าเทคโนโลยีจะเข้าไปมีบทบาทในทุกแง่มุมของการใช้ชีวิต”

 

 

 

Avatar photo