ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ รายงานดัชนีราคาค่าก่อสร้างบ้าน ไตรมาส 3 ปี 2566 เพิ่มขึ้น 1.5% ขณะที่ราคาเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กลดลงมากที่สุดถึง 9.6%
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) รายงานดัชนีราคาค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐาน ไตรมาส 3 ปี 2566 มีค่าดัชนีเท่ากับ 134.2 เพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 และเพิ่มขึ้น 1.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า หมวดราคาวัสดุก่อสร้างที่ลดลงมี 4 รายการ ได้แก่ เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก สุขภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์คอนกรีตและอุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา
ทั้งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กที่ลดลงมากที่สุดถึง 9.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี โดยเป็นผลมาจากราคาตลาดโลกที่เริ่มมีการปรับตัวลดลงตามอุปสงค์และอุปทานของเหล็ก เนื่องจากมีปริมาณเหล็กส่วนเกินจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ในจีนที่ส่งผลให้อุปสงค์ของเหล็กภายในประเทศจีนลดลง ทำให้มีอุปทานเหล็กส่วนเกินจากจีนบางส่วนมีการระบายสต๊อกมาที่ประเทศไทยมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังเป็นผลมาจากราคาน้ำมันดีเซลต่ำลง ซึ่งมีผลต่อต้นทุนการผลิตและราคาวัสดุก่อสร้างหมวดต่าง ๆ จึงส่งผลให้ราคาเหล็กในประเทศไทยลดลง

ขณะที่ดัชนีราคาหมวดกระเบื้อง ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ และวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ เพิ่มขึ้น เนื่องจากสินค้าวัสดุก่อสร้างส่วนใหญ่มีต้นทุนเพิ่มขึ้นทั้งจาก ราคาวัตถุดิบและค่าดำเนินการที่สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่วนหมวดแรงงานมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 1.1% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
จำแนกต้นทุนของงานก่อสร้างในแต่ละหมวด
1. หมวดงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบ
- งานวิศวกรรมโครงสร้าง มีอัตราค่าตอบแทนลดลง 2.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และลดลง 0.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 โดยมีสัดส่วน 27.6% ของหมวดงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบ
- งานสถาปัตยกรรม มีอัตราค่าตอบแทนเพิ่มขึ้น 3.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 โดยมีสัดส่วน 66.1% ของหมวดงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบ
- งานระบบสุขาภิบาล มีอัตราค่าตอบแทนลดลง 1.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 โดยมีสัดส่วน 2.7% ของหมวดงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบ
- งานระบบไฟฟ้าและระบบสื่อสาร อัตราค่าตอบแทนลดลง 0.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และลดลง 0.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 โดยมีสัดส่วน 3.6% ของหมวดงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบ
2. หมวดวัสดุก่อสร้าง คิดเป็นสัดส่วน 60.3% ของค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐาน มีการเปลี่ยนแปลงดังนี้
- ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ราคาเพิ่มขึ้น 4.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 โดยมีสัดส่วน 27.9% ของหมวดวัสดุก่อสร้าง
- ผลิตภัณฑ์คอนกรีต ราคาลดลง 1.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และลดลง 0.4% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 โดยมีสัดส่วน 7.1% ของหมวดวัสดุก่อสร้าง
- เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ราคาลดลง 9.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และลดลง 3.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 โดยมีสัดส่วน 8.9% ของหมวดวัสดุก่อสร้าง
- กระเบื้อง ราคาเพิ่มขึ้น 16.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 3.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 โดยมีสัดส่วน 5.8% ของหมวดวัสดุก่อสร้าง
- สุขภัณฑ์ ราคาลดลง 8.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และลดลง 8.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 โดยมีสัดส่วน 3% ของหมวดวัสดุก่อสร้าง
- อุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา ราคาลดลง 1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และลดลง 0.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 โดยมีสัดส่วน 6.1% ของหมวดวัสดุก่อสร้าง
- วัสดุก่อสร้างอื่น ๆ ราคาเพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 0.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 โดยมีสัดส่วน 41.2% ของหมวดวัสดุก่อสร้าง
3. หมวดแรงงาน คิดเป็นสัดส่วน 39.7% ของค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐาน โดยค่าแรงงานมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 1.1% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน หวังรัฐบาลใหม่กระตุ้นเศรษฐกิจ-จับตาดอกเบี้ย
- อาการน่าเป็นห่วง!! วิกฤติกำลังซื้อฉุดยอดสั่งสร้างบ้านตก วอนจัดตั้งรัฐบาลด่วน ฟื้นเชื่อมั่น
- ค่าแรงพุ่ง 5.8% ดัน ‘ดัชนีราคาค่าก่อสร้างบ้าน’ ไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 2.1% ชี้หาก ‘ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ’ กระทบต้นทุนสูง