Business

ข่าวดี!! ราคาหมูเริ่มปรับขึ้นในทุกตลาด

นักวิเคราะห์ มองราคาหุ้น CPF พร้อมประเมินราคาหมูปรับขึ้นในทุกตลาด ได้อานิสงส์จากราคาต้นทุนวัตถุดิบการเลี้ยงที่ปรับลดลง

ในปีนี้ความเคลื่อนไหวของหุ้น CPF หรือ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) วิ่งเป็นขาลง (Downtrend) ชัดเจน โดยราคาหุ้น  13.82% นับตั้งแต่ต้นปี (Year to Date ณ วันที่ 6 กันยายน 2566) และลงไปอยู่แถวบริเวณ 19 บาท เป็นช่วงราคาที่ต่ำสุดในรอบ 3 ปี

การปรับตัวลดลงของราคาหุ้น CPF สะท้อนความกังวลในเรื่องผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2566 ที่ขาดทุน  2,725 ล้านบาท ต่อเนื่องมาถึงไตรมาส 2/2566 ที่ขาดทุน 792 ล้านบาท เนื่องด้วยบริษัทยังคงเผชิญความท้าทายรอบด้าน อาทิ ราคาหมูที่ร่วงลงค่อนข้างมาก ปัญหาการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน ตลอดจนต้นทุนวัตถุดิบเลี้ยงสัตว์ที่แพงขึ้น

ราคาหมู

ปัญหาของ CPF คือธรรมชาติของธุรกิจโภคภัณฑ์ ยากแก่การควบคุมต้นทุน ไม่สามารถกำหนดราคาสินค้าเองได้เองทั้งหมด ทำให้ผลงานขึ้น ๆ ลง ๆ หากอยู่ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจผันผวน อย่างไรก็ตาม ภาพที่นักลงทุนอยากเห็นในตอนนี้ คือผลการดำเนินงานของธุรกิจหลักของบริษัทที่กลับมาทำกำไรแบบจริง ๆ และเพิ่มอัตรากำไรให้มากขึ้นเพียงพอ

คำถามคือขณะนี้หุ้น CPF ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้วหรือยัง มีโอกาสพลิกฟื้นกลับมาทำกำไรไหม และการที่ราคาหุ้นค่อนข้าง Undervalue แบบนี้ ควรเข้าลงทุนหรือไม่?

มุมมองนักวิเคราะห์ บล. หยวนต้า ประเมินว่า ราคาหมูทั้งในประเทศและต่างประเทศเริ่มฟื้นตัว และปรับดีขึ้นในทุกตลาดหลัก โดยไตรมาส 3/2566 เห็นสัญญาณการฟื้นตัวของหมูเวียดนาม ปัจจุบันอยู่ที่ 60,000 ดอง/กิโลกรัม (+9.1% QoQ) ส่วนราคาหมูจีนอยู่ที่ 17 หยวน/กิโลกรัม (+18.9% QoQ) ทั้งหมดล้วนเป็นระดับที่สูงกว่าราคาต้นทุนการเลี้ยงแล้วที่ราว 50,000 ดอง/กิโลกรัม และ 16 หยวนต่อกิโลกรัม ตามลำดับ

ขณะเดียวกัน ราคาหมูในประเทศไทยก็เริ่มปรับตัวขึ้น 2 สัปดาห์ต่อเนื่อง ถือว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกับภูมิภาค ปัจจุบันอยู่ที่ 70 บาท/กิโลกรัม สูงขึ้นจากระดับต่ำสุดในเดือนกรกฎาคมที่ 58 บาท/กิโลกรัม สะท้อนสถานการณ์การลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนที่คลี่คลายไปมากแล้ว ประกอบกับจะได้อานิสงส์จากราคาต้นทุนวัตถุดิบการเลี้ยงที่ปรับลดลง อาทิ ข้าาวโพด 8.6% QoQ และกากถั่วเหลือง  8.5% QoQ

ราคาหมู

ทำให้แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/2566 อาจได้เห็น CPF มีโอกาสจะพลิกกลับมามีกำไรได้อีกครั้ง และประเมินกำไรไตรมาส 4/2566 จะทำระดับสูงสุดของปี  จะทำให้ตลาดมีความมั่นใจต่อภาพการฟื้นตัวมากขึ้น

ทั้งนี้ ประมาณการกำไรปี 2566 ของ CPF จะมีรายได้อยู่ที่ 632,886 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อน และมีผลขาดทุนราว  72 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ดี มองว่าภาพรวมผลประกอบการปี 2567 จะกลับมาโดดเด่นอีกครั้ง เพราะราคาหมูทั้งในและต่างประเทศที่มีทิศทางฟื้นตัว รวมถึงแนวโน้มราคาต้นทุนที่เริ่มลดลง

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน CPF มุมมองของ บล. หยวนต้า เชื่อว่าราคาหุ้น Bottom Out แล้ว และเลือกให้เป็น Top pick ของกลุ่มอาหาร แนะนำ “ซื้อ” พร้อมปรับไปใช้ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นไตรมาส 2/2567 ที่ 24 บาทต่อหุ้น มองว่าราคาหุ้นปัจจุบันมี Downside Risk จำกัด ซื้อขายบน P/BV ต่ำเพียง 0.6 เท่า อีกทั้งราคาหุ้นก็สะท้อนผลประกอบการปี 2566 ที่อ่อนแอไปแล้ว คาดว่าราคาหุ้นจะทยอยฟื้นตัวตามการกลับมาเป็นวงจรขาขึ้นของธุรกิจฟาร์มสัตว์ตั้งแต่ครึ่งหลังของปีนี้ และต่อเนื่องไปจนถึงปี 2567

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน