บีทีเอส เตรียมทำ “สถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่” ใต้สถานีรถไฟฟ้า รองรับการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
รศ.ดร.วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 2/2566 โดยมี คณะกรรมการบริหารโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักการจราจรและขนส่ง สำนักการโยธา และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ชั้น 31 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง
ขอปรับปรุงทางเชื่อม และสร้างทางเชื่อมใหม่
โดยที่ประชุมมีการพิจารณาขออนุญาต 3 เรื่อง ดังนี้ เรื่องแรก บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ขอปรับปรุงทางเชื่อมระหว่างระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร บริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสชิดลมกับอาคารเกษรพลาซ่า โรงแรมแกรนด์ไฮแอทเอราวัณ กรุงเทพฯ และอาคารอัมรินทร์พลาซ่า เพื่อให้มีรูปแบบสวยงาม ทันสมัย เหมาะกับสภาพปัจจุบันมากขึ้น รวมถึงเพิ่มความปลอดภัยต่อประชาชนทั่วไป ซึ่งกทม.เห็ยชอบในหลักการ
เรื่องที่สอง บริษัท บิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ขอก่อสร้างทางเชื่อมระหว่างระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร บริเวณสถานีรถไฟฟ้าแพรกษากับห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาสมุทรปราการ เพื่อประโยชน์ของประชาชนและการเดินทางสัญจร โดยที่ประชุมเห็นชอบในหลักการ พร้อมกำชับพิจารณารายละเอียดเงื่อนไขให้ทางห้างดูแลเรื่องความสะอาด ความปลอดภัย รวมไปถึงควรมีข้อสงวนสิทธิ์การขอยกเลิก หรือตั้งเงื่อนไขระยะเวลาแจ้งขอยกเลิก เป็นต้น เนื่องจากเป็นประโยชน์สาธารณะ
ทำสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ ใต้สถานีรถไฟฟ้า
เรื่องที่สาม บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ขอปรับปรุงห้องเก็บขยะ (Refuse Room) บริเวณสถานีรถไฟฟ้าของโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเพิ่มเติม เพื่อจัดทำเป็นสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ (Battery Swapping Station) และจุดพักรถสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่
สำหรับทำโครงการส่งเสริมให้ประชาชนทั่วไปและวินมอเตอร์ไซค์เปลี่ยนมาใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะสอดคล้องกับนโยบายของกรุงเทพมหานครในด้านสิ่งแวดล้อมดีและเดินทางดี และเป็นมหานครสีเขียวปลอดมลพิษ อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนให้เกิดการใช้พลังงานไฟฟ้าทดแทนการใช้พลังงานเชื้อเพลิง
ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการ พร้อมสั่งการให้สำนักการจราจรและขนส่งตรวจสอบว่า ตามข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกทม.มีสิทธิอนุญาตในพื้นที่ดังกล่าวหรือไม่ เป็นไปตามสัญญาสัมปทานข้อใด และเมื่อได้จุดที่จะดำเนินการแล้วต้องขออนุญาตมาที่สำนักการโยธาด้วย เนื่องจากอยู่บนพื้นที่ทางเท้า (ใต้ทางขึ้น-ลงสถานีรถไฟฟ้า) นอกจากนี้ต้องพิจารณาด้วยว่าจะทำให้จราจรติดขัดหรือไม่ กระทบคนใช้ทางเท้าหรือไม่
ทั้งนี้ ให้เป็นการทดลองนำร่องเพียงระยะเวลา 1 ปี เพื่อดูผลการดำเนินการก่อนว่ามีผู้ใช้บริการมากหรือน้อยอย่างไร โดยหากมีผู้ใช้บริการน้อยก็ไม่ควรทำต่อ หากมีผู้ใช้บริการมากจึงค่อยนำมาพิจารณาขยายผลต่อไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สยามพิวรรธน์ หนุน ‘สังคมคาร์บอนต่ำ’ เพิ่ม ‘สถานีชาร์จรถไฟฟ้า’ ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการรถยนต์ EV
- 3 มิ.ย. คนกรุงเตรียมนั่ง ‘รถไฟฟ้าสายสีเหลือง’ ฟรี 1 เดือน
- รฟม. เปิดตัว ‘PAPA Care’ รณรงค์ผู้ใช้รถไฟฟ้า MRT เอื้อเฟื้อที่นั่งแก่กลุ่มบุคคลพิเศษ
