ส่องแนวโน้มผู้บริโภคไทย รถ SUV ยังครองใจ ขณะที่รถอีวี มาแรงในกลุุ่ม LGBTQIA+ ชี้สถานีชาร์จ ปัจจัยหลักกระตุ้นตลาดยานยนต์ไฟฟ้าเติบโต
ตลาดรถยนต์ไทยกำลังกลับมาคึกคัก เพราะอุปสงค์ที่เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย เห็นได้จากในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขยายตัวสูงขึ้นจากปีก่อน 3.9% สอดคล้องกับความต้องการสินเชื่อเช่าซื้อรถที่เพิ่มขึ้นตามแรงสนับสนุนจากโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย ที่จัดขึ้นเพื่อเร่งการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น
อย่างไรก็ดี การแข่งขันในตลาดรถยนต์ก็ทวีความรุนแรงมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากกระแสยานยนต์ไฟฟ้า หรือรถอีวี ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประเด็นดังกล่าวจะส่งผลต่อแนวโน้มการเลือกซื้อพาหนะส่วนตัวของผู้บริโภคในตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป
จากผลสำรวจของ SCB EIC Consumer survey พบว่า โดยภาพรวมแล้ว ยานยนต์ที่มีแนวโน้มได้รับความนิยมสูงสุดกระจุกตัวอยู่ในกลุ่ม รถ SUV และ รถเก๋งขนาดกลาง ขณะที่ เครื่องยนต์ประเภทสันดาป ยังคงเป็นตัวเลือกหลักสำหรับแผนการซื้อยานยนต์ในระยะ 1-2 ปีนี้
อย่างไรก็ดี หากเจาะลึกตัวเลือกการขับขี่โดยจำแนกตามข้อมูลประชากร อาทิ เพศ และระดับรายได้ จะพบรูปแบบและแนวโน้มความสนใจยานยนต์ที่แตกต่างกัน ดังนี้
กลุ่มตัวอย่าง เพศชายและหญิง ส่วนใหญ่ยังคงนิยมยานยนต์ในระบบสันดาป ขณะที่ กลุ่ม LGBTQIA+ ค่อนข้างตื่นตัวกับกระแสยานยนต์ไฟฟ้า ส่วนหนึ่งเพราะถูกดึงดูดจากเทคโนโลยีการขับขี่ และรูปลักษณ์ภายนอกที่ทันสมัย
ระดับรายได้ครัวเรือน มีส่วนทำให้ความสนใจต่อยานยนต์แต่ละประเภทแตกต่างกันไป โดยยานยนต์ไฟฟ้าเป็นที่นิยมในครอบครัวที่มีรายได้สูง ขณะที่รถสันดาปยังคงเป็นตัวเลือกหลัก สำหรับครอบครัวที่มีรายได้น้อย-ปานกลาง
ทั้งนี้ คาดว่าส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคาขายโดยเฉลี่ยของรถ EVs ที่สูงกว่า ประกอบกับสถานีชาร์จที่ยังไม่ครอบคลุม อีกทั้ง การติดตั้ง EV Charger ณ ที่พักอาศัย มีขั้นตอนที่ค่อนข้างยุ่งยากและมีต้นทุนสูง
ตลาดรถมือ 2 ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง แต่เริ่มมีความเสี่ยงและความท้าทายด้านต่าง ๆ มากขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจจำเป็นต้องเร่งปรับตัว
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังพบว่า รถมือ 2 ถือเป็นขวัญใจของผู้ประกอบอาชีพอิสระ เนื่องจากบางส่วนซื้อไว้เพื่อทำธุรกิจ ทั้งการค้าขายและเพื่อรับส่งคนและสิ่งของบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ขณะที่ผู้บริโภคบางกลุ่ม วางแผนซื้อรถมือ 2 ไว้ใช้ชั่วคราว เพื่อรอเปลี่ยนเป็นรถ EVs ในอนาคต
SCB EIC Consumer survey พบคุณลักษณะร่วมบางประการของผู้บริโภคกลุ่มนี้ ได้แก่
1. มีรายได้เฉลี่ยสูงกว่าผู้วางแผนซื้อรถมือ
2 เพื่อใช้งานระยะยาว
3. ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถ EVs ทั้งด้านสมรรถนะการขับขี่และความคุ้มค่า รวมถึงรอความพร้อมของสถานีชาร์จให้ครอบคลุมมากขึ้น
ดังนั้น จึงคาดว่าอุปสงค์ในตลาดรถมือ 2 จะยังสามารถเติบโตได้ แต่ความเสี่ยงของธุรกิจมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นเนื่องจาก อุปสงค์ที่เปราะบางเพราะพึ่งพากำลังซื้อจากกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และผู้มีรายได้ผันผวนเป็นหลัก และ การเปิดตัวรถ EVs รุ่นใหม่ ๆ ที่ทำให้รถมือ 2 ตกรุ่น และมีราคาลดลงอย่างรวดเร็ว
ข้อมูลดังกล่าว ทำให้ธุรกิจเต็นท์รถ จำเป็นต้องปรับกลยุทธ์การขาย เพื่อให้สามารถเข้าถึง และดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงปรับแผนบริหารจัดการสต็อกรถ โดยเน้นเลือกรถรุ่นที่ตอบโจทย์ฐานลูกค้าหลัก
สถานีชาร์จ ปัจจัยหลักกระตุ้นยานยนต์ไฟฟ้า
ความครอบคลุมของสถานีชาร์จ คือ ปัจจัยหลักที่จะช่วยกระตุ้นความสนใจของตลาด และทำใหอุปสงค์ยานยนต์ไฟฟ้าเติบโตได้ดีต่อเนื่อง
จากผลสำรวจพบว่า คนไทยส่วนใหญ่ค่อนข้างตื่นตัวกับกระแสยานยนต์ไฟฟ้า ส่วนหนึ่งเพราะราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงเทรนด์ใส่ใจสิ่งแวดล้อมที่กำลังมาแรง
อย่างไรก็ตาม สัดส่วนการครอบครองรถอีวี ในปัจจุบันยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำ และกระจุกตัวในกลุ่มผู้มีรายได้สูงเป็นหลัก แต่คาดว่าในระยะถัดไป ตลาดจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับความสนใจและความเชื่อมั่นที่ทยอยปรับตัวดีขึ้น
สะท้อนจากประสบการณ์ตรงจากผู้ใช้งานที่ระบุว่าการขับขี่รถ EVs ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน และการบำรุงรักษา ขณะที่สมรรถนะการขับขี่ก็ดีขึ้นเพราะมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย อาทิ ระบบ Autopilot
นอกจากนี้ เราเริ่มเห็นถึงโอกาสสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย ที่จะสามารถเติบโตเกาะไปกับกระแสยานยนต์ไฟฟ้า นี้ได้ เนื่องจากผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับรถอีวีมากขึ้น อาทิ อู่ซ่อมเฉพาะทาง ร้านขายอะไหล่ รวมถึงร้านขายอุปกรณ์ตกแต่ง
ขณะที่มาตรการรัฐที่กำลังดำเนินการอยู่ถือว่ามีตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ดี แต่ต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการเร่งสร้างสถานีชาร์จให้มีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- บีโอไอ เผยยอดส่งเสริมลงทุนผลิต ‘รถยนต์ EV’ ทั้งระบบกว่า 1.1 แสนล้าน จดทะเบียนเพิ่มขึ้น 8 เท่า
- ไทยเนื้อหอม ‘GAC AION’ ยักษ์ใหญ่จีน เล็งปักหมุดลงทุน 6.4 พันล้าน สร้างโรงงานผลิต ‘รถยนต์ EV’
- บอร์ดอีวี อัด 2.4 หมื่นล้าน หนุนลงทุนผลิต ‘แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า’ พร้อมลดภาษีสรรพสามิตเหลือ 1%