Business

การยาสูบฯ หนีตลาดบุหรี่หดตัว ปั้น ‘กัญชา-กัญชง’ เป็นสินค้าใหม่

ยาสูบหนีตลาดบุหรี่หดตัว ปั้น ‘กัญชา-กัญชง’ ทางการแพทย์เป็นสินค้าตัวใหม่ ลั่นพร้อมสนับสนุนตั้งแต่ต้นน้ำ ยันปลายน้ำ

น.ส.ดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) เปิดเผยว่า นโยบายปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตบุหรี่ 40% ของรัฐบาล จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยาสูบ และยสท. เป็นอย่างมาก ดังนั้น ยสท. จึงต้องปรับตัวและหาทางเพิ่มรายได้จากธุรกิจอื่น

ดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์

กฎหมายใหม่ที่จะเปลี่ยนโรงงานยาสูบให้เป็นนิติบุคคล ภายใต้ชื่อ ยสท. จะส่งผลให้ ยสท. สามารถดำเนินธุรกิจอื่นๆ เพิ่มเติมได้ ซึ่งเบื้องต้นก็วางแผนการดำเนินงานไว้ทั้งหมด 5 แนวทาง ได้แก่

  1. สนับสนุนการปลูกกัญชาและกัญชงตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมการแพทย์และเวชภัณฑ์ โดยจะนำร่องใช้กัญชากับโรงพยาบาลของ ยสท. ซึ่งอยู่ระหว่างขออนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข
  2. ดำเนินการขายยาเส้นและใบยา ซึ่งตอนนี้มีสต็อกเพียงพอใช้ได้ถึงปี 2566
  3. เปิดตลาดบุหรี่ในต่างประเทศเพิ่มขึ้น
  4. วางแผนการขายยาเส้น
  5. ร่วมทุนกับบริษัทต่างประเทศในกระบวนการผลิตยาสูบ

ทั้งนี้ เชื่อว่าแนวดังกล่าวจะทำให้ ยสท. กลับมาทำกำไรได้ 2-3 พันล้านบาทภายใน 3 ปีข้างหน้า

กัญชา2กัญชา1

น.ส.ดาวน้อย ยังกล่าวถึงการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตบุหรี่ในอัตรา 40% ว่า เรื่องนี้จะส่งผลให้บุหรี่ของ ยสท. มีราคาสูงขึ้น 33 บาทต่อซอง เป็นไม่ต่ำกว่า 93 บาทต่อซอง ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคหันไปสูบบุหรี่เถื่อน และยาเส้นมากขึ้น

ยสท. จึงจะเสนอให้รัฐบาลขยายเวลาบังคับใช้ภาษีสรรพสามิตอัตราใหม่ ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 1 ตุลาคม 2562 ออกไปก่อน เนื่องจากถ้าไม่ขยายเวลา ก็จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยาสูบเป็นอย่างมาก

Avatar photo