Business

ไฟเขียว พม. ใช้งบกว่า 7,700 ล้าน ช่วยที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย 2.7 หมื่นครัวเรือน ถูกไล่รื้อจากระบบราง

​ครม.เห็นชอบโครงการที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย ที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบราง ช่วยผู้มีรายได้น้อยที่ถูกไล่รื้อกว่า 2.7 หมื่นครัวเรือน วงเงิน 7,718.94 ล้านบาท 

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566  เห็นชอบหลักการโครงการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย ในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบราง วงเงิน 7,718.94 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินโครงการ 5 ปี ตั้งแต่ปี 2566 -2570 ตามที่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอ

ที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย

โครงการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย ผู้มีรายได้น้อย ในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบรางนี้ มีวัตถุประสงค์ ดังนี้

1. เพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาที่อยู่อาศัย ผู้มีรายได้น้อย ที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาระบบราง

2. เพื่อสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้มีรายได้น้อย

3. เพื่อพัฒนาการจัดการพื้นที่ร่วมกันระหว่างชุมชน ท้องถิ่น และหน่วยงานต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรม

ขณะที่กลุ่มเป้าหมายของโครงการ คือ ชุมชนผู้มีรายได้น้อย ฐานะยากจน ไม่มีเงินออม และถูกไล่รื้อหรือต้องรื้อย้ายเพื่อเตรียมพื้นที่ในการก่อสร้างระบบราง ในพื้นที่ 35 จังหวัด 300 ชุมชน จำนวน 27,084 ครัวเรือน

เปิด 3 รูปแบบการพัฒนาโครงการ

1. สร้างความมั่นคงในที่ดิน โดยทำสัญญาเช่าระยะยาวในที่ดินเดิม หรือที่ดินใหม่กับเจ้าของที่ดิน เช่น การรถไฟแห่งประเทศไทย กรมธนารักษ์ ภาคเอกชน หรือการจัดซื้อที่ดินเพื่อสร้างชุมชนใหม่นอกพื้นที่ชุมชนเดิม

2. พัฒนาความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัย โดยกำหนดรูปแบบการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่หลากหลาย เช่น อาคารชุด บ้านเดี่ยว ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตและบริบทของชุมชน

3. พัฒนาความมั่นคงของชุมชนด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยมีแผนงานในการพัฒนาทั้งด้านสังคม อาชีพ การอยู่ร่วมกัน การจัดการด้านการเงิน และการจัดระบบสวัสดิการดูแลสมาชิกและผู้ด้อยโอกาสในชุมชน

รัชดา 3

กำหนดค่าใช้จ่ายงบประมาณโครงการ 7,718.94 ล้านบาท

1. งบสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภค อุดหนุนที่อยู่อาศัยเฉลี่ยครัวเรือนละ 8 หมื่นบาท เพื่อใช้ดำเนินการด้านสาธารณูปโภค สาธารณูปการที่จำเป็นของชุมชน

2. งบสนับสนุนผู้ได้รับผลกระทบเฉลี่ยครัวเรือนละ 8 หมื่นบาท เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ในการจัดการที่อยู่อาศัยชั่วคราว หรือเช่าบ้านหอพัก ระหว่างการรอปลูกสร้างบ้านถาวร การรื้อถอน ขนย้ายสิ่งของอุปกรณ์ระหว่างรอที่อยู่อาศัยมายังที่อยู่อาศัยชั่วคราว ค่าขนส่งวัสดุ และการย้ายเข้าในที่อยู่อาศัยที่พัฒนาใหม่

3. งบสนับสนุนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสาหรับสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ ซื้อที่ดินใหม่พร้อมสร้างที่อยู่อาศัยใหม่เฉลี่ยไม่เกินครัวเรือนละ 2.5 แสนบาท

ส่วนแหล่งที่มาของบประมาณ ในปีงบประมาณ 2566 จะใช้จ่ายจากเงินทุนหมุนเวียนของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ปีงบประมาณ 2567 -2570 จะเสนอขอรับการอุดหนุนจากงบประมาณประจำปี 50% และเงินทุนหมุนเวียนของ พอช. 50%

นางสาวรัชดา กล่าวด้วยว่า โครงการนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการช่วยให้ชุมชนผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบจากโครงการรัฐ มีความมั่นคงในชีวิตและที่อยู่อาศัย มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถแก้ปัญหาชุมชนแออัดและสร้างสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่ของเมืองและชุมชนได้

ขณะเดียวกัน ยังเป็นการลดผลกระทบและความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นจากโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ของภาครัฐ รวมถึงเป็นการสร้างโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงสวัสดิการขั้นพื้นฐานด้านที่อยู่อาศัย และเปลี่ยนสถานะจาก ผู้บุกรุกที่ดินของรัฐ เป็นสถานะ ผู้อยู่อาศัยในชุมชน อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo