“เศรษฐา ทวีสิน” ประเดิมงานแรก นำทีมเศรษฐกิจ หารือหอการค้าไทย-จีน ลั่นหน้าที่นายกฯ ต้องไปเปิดตลาดใหม่ๆ ในต่างประเทศ เพื่อนำโควตาการค้าขายกลับมาเป็นรายได้ให้ประเทศไทยอีกครั้งให้ได้
นายเศรษฐา ทวีสิน ที่ปรึกษาคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) พรรคเพื่อไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรคเพื่อไทย นายวิชาญ มีนชัยนันท์ กลุ่มงานบริหารพื้นที่ กทม. ศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้ง ส.ส. พรรคเพื่อไทย นายดนุพร ปุณณกันต์ ประธานรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง กทม.พรรคเพื่อไทย และ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เข้าพบปะหารือ แลกเปลี่ยนความเห็นด้านการค้ากับ นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการหอการค้าไทย-จีน ณ หอการค้าไทย-จีน อาคารไทยซี.ซี.ทาวเวอร์ สาทรใต้ กรุงเทพ
นายเศรษฐา กล่าวว่าการพบหอการค้าไทย-จีน ในวันนี้ ถือเป็นงานแรกอย่างเป็นทางการ หลังจากได้รับตำแหน่ง ทั้งนี้ประเทศไทยและประเทศจีน มีความสัมพันธ์กันมาอย่างยาวนาน ไทยเป็นประเทศที่มีความผูกพันธ์กับจีนในเชิงพาณิชย์การสร้างมูลค่าเศรษฐกิจการค้าระหว่างกันอย่างมหาศาล โดยประเทศจีน ถือเป็นประเทศคู่ค้าลำดับต้น ๆ และสำคัญที่สุดของประเทศไทยประเทศหนึ่ง
พรรคเพื่อไทยและหอการค้าไทย-จีน ได้แลกเปลี่ยนความเห็น 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ นโยบายด้านการคมนาคม ท่องเที่ยว เกษตร และสังคมผู้สูงอายุ โดยนโยบายคมนาคมของพื่อไทยนั้น จะเชื่อมต่อรถไฟฟ้าความเร็วสูงของไทยกับรถไฟฟ้าความเร็วสูงของจีนและลาว รวมถึงในเขตเศรษฐกิจพิเศษนำร่องทั้ง 4 จังหวัดคือ กรุงเทพ เชียงใหม่ ขอนแก่น และหาดใหญ่ ก็จะมีการพัฒนารถไฟให้เป็นรถไฟความเร็วปานกลางเชื่อมเศรษฐกิจนี้ไปพร้อมกัน ส่วนนโยบายด้านการเกษตรนั้น พรรคเพื่อไทยจะใช้นโยบายเพิ่มผลิตภาพ ราคาและการลงทุนเพื่อเพิ่มผลิตและมูลค่าให้ได้ 3 เท่า ทั้งสนับสนุนต้นทุนให้ลดต่ำและสนับสนุนราคาและหาตลาดใหม่ให้สินค้าเกษตร และส่งเสริมเกษตรโซนนิ่ง เพื่อให้เกษตรกรได้ทราบราคาสินค้าเกษตรล่วงหน้าได้
ส่วนนโยบายด้านการคลัง จะส่งเสริมวินัยการเงิน การคลัง ส่งเสริมให้ความสำคัญมากขึ้น เพราะหากมีวิกฤตสำคัญที่กระทบต่อการผลิตและความต้องการ จึงเข้าไปสนับสนุนด้านราคา เพราะในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลไม่ได้ทำหน้าที่ที่ดีในการเป็นเซลแมน ไทยเป็นประเทศขนาดเล็ก ต้องถ่อมตัว ต้องมีความภาคภูมิใจในตัวเรา ซึ่งเป็นหน้าที่นายกรัฐมนตรีที่ต้องไปเปิดตลาดใหม่ๆ ในต่างประเทศ เพื่อนำโควตาการค้าขายกลับมาเป็นรายได้ให้ประเทศไทยอีกครั้ง
ทั้งนี้ ในการเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ ถือเป็นจุดเปลี่ยนของประเทศไทย ประเด็นการค้าต่างประเทศและภูมิรัฐศาสตร์ จะถือเป็นเรื่องสำคัญและมีความเปราะบางเป็นอย่างมาก นโยบายในอดีตของพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทย ให้ความสำคัญกับการค้าการลงทุนระหว่างประเทศสูงสุด การค้าระหว่างประเทศในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตนไม่อยากลงรายละเอียดมากนัก แต่หากพรรคเพื่อไทย ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว เรามั่นใจว่าจะทำได้ดี และดีมากกว่านี้ด้วย การเปิดตลาดการค้า พบปะนักธุรกิจและผู้นำต่างประเทศ รวมทั้งนโยบายเปิดประเทศนำสินค้าไทย ไปขายในต่างประเทศได้มากขึ้นแน่นอน
ด้าน ณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล กล่าวว่า จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการในหอการค้าไทย-จีน พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวก่อนสิ้นปี 2566 ดังนั้นรัฐบาลใหม่ควรมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ การแก้ไขปัญหาแรงงานต่างชาติ ไปพร้อมกับการดึงดูดแรงงานไทยที่ถูกเลิกจ้างในช่วงการระบาดของโควิด-19 กลับเข้าสู่ตลาดแรงงานอีกครั้ง รวมทั้งการส่งเสริมธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ดูแลควบคุมค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น มีมาตรการใหม่ๆ เพื่อส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศเพิ่มขึ้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เศรษฐา’ ลั่น! ต้องได้ตำแหน่งนายกฯ เท่านั้น ตำแหน่งอื่นไม่เอา
- ‘เพื่อไทย’ เตรียมลุยหาเสียงอีสานใต้ ‘โคราช-บุรีรัมย์-สุรินทร์’ 2 วัน 5 เวที
- ‘เศรษฐา’ เข้าพรรรคเพื่อไทย ไม่ตอบเป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่
