Business

เปิดโผ 7 เทรนด์โซเชียล กำหนดทิศทางธุรกิจไทยปี 2566

ผู้บริหารเฟซบุ๊ก ประเทศไทย เผย 7 เทรนด์โซเชียล กำหนดทิศทางธุรกิจไทยในปี 2566 เอไอยังมาแรง อีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน เติบโต

แพร ดํารงค์มงคลกุล Country Director ของ Facebook ประเทศไทย จาก Meta กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา ธุรกิจต่าง ๆ ต้องเผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลก แต่สำหรับประเทศไทยเชื่อว่าธุรกิจจะมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในปี 2566

เทรนด์โซเชียล

ทั้งนี้เนื่องจากการที่ธุรกิจในประเทศ ยังคงขับเคลื่อนด้วยพลังในการก้าวข้ามอุปสรรค อีกทั้งให้ความสำคัญกับการพัฒนาประสิทธิภาพในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง จากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา

สำหรับโลกดิจิทัล มีการคาดการณ์ว่าราว 60% ของผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียทั่วโลก จะอาศัยอยู่ในพื้นที่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในปีนี้ ด้วยภูมิทัศน์ดิจิทัลที่มีการแข่งขันเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน โอกาสในการเชื่อมต่อกับลูกค้าผ่านช่องทางที่พวกเขาใช้รับสารจึงเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง

นั่นหมายถึงช่องทางต่าง ๆ เช่น แพลตฟอร์ม ครีเอเตอร์ เพื่อน และครอบครัว ที่จะเป็นผู้ผลักดันการค้นพบและการพิจารณาสินค้าและบริการจากแบรนด์ระดับท้องถิ่นต่าง ๆ

ธุรกิจที่สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้อย่างเต็มที่ ปรับตัวต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง และให้ความสำคัญกับการพัฒนาประสิทธิภาพในการดำเนินงาน มีแนวโน้มที่จะได้รับโอกาสในช่วงสภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจมากกว่าธุรกิจอื่น ๆ

Prae Dumrongmongcolgul
แพร ดํารงค์มงคลกุล

เปิดเทรนด์โซเชียลที่น่าจับตามองปี 2566 

1. ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI: Generative AI เป็นเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในช่วงปลายปีที่ผ่านมา

ในปัจจุบัน AI ถูกนำมาใช้งานอย่างแพร่หลายมากขึ้น ในขณะที่เทคโนโลยีดังกล่าวยังคงได้รับการพัฒนาประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ด้วยเหตุนี้ ทำให้หลายผลิตภัณฑ์และบริการในปัจจุบันได้ผสานเทคโนโลยี AI เข้าไว้ด้วย เช่น อุปกรณ์สมาร์ทโฮม รถยนต์ไร้คนขับ และผู้ช่วยเสมือนจริง เป็นต้น

การนำเทคโนโลยี AI มาใช้เพื่อวิเคราะห์ จัดการ เข้าถึง และให้บริการเชิงให้คำปรึกษาจากข้อมูลที่ไร้โครงสร้างยังคงมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีการคาดการณ์ว่าการลงทุนเพื่อพัฒนาระบบ AI ของ International Data Corporation หรือ IDC จะเพิ่มขึ้นจาก 17.6 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2565 เป็น 32 พันล้านดอลลาร์ ภายในปี 2568

shutterstock 1931158067

ปัจจุบัน ธุรกิจยังให้ความสนใจกับระบบการทำงานอัตโนมัติ (automation) เพื่อพัฒนาประสบการณ์ลูกค้าและประหยัดเวลาในการดำเนินงานมากขึ้น และด้วยเหตุนี้ Meta จึงได้แนะนำเครื่องมือใหม่ ๆ ผ่าน Meta Advantage เพื่อช่วยให้ผู้ลงโฆษณาทุกคนได้ใช้ประโยชน์จากพลังของ AI และระบบการทำงานอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดให้กับงบที่ใช้ลงทุนโฆษณา

2. การส่งข้อความเชิงธุรกิจ

จากสถิติทั่วโลก มีผู้คนจำนวนกว่าหนึ่งพันล้านคนที่ส่งข้อความหาธุรกิจในแต่ละสัปดาห์ผ่าน WhatsApp Messenger และ Instagram Direct โดยเป็นการส่งข้อความส่วนตัวหาแบรนด์ต่าง ๆ เลือกชมแคตตาล็อตสินค้า ขอความช่วยเหลือ หรือตอบโต้กับ Stories ของธุรกิจ

ทั้งนี้ มูลค่าของโฆษณาที่คลิกต่อไปยังการทักแชททาง Messenger กับธุรกิจอยู่ที่ประมาณ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่อปี ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก การส่งข้อความเชิงธุรกิจกำลังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศออสเตรเลีย อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน ไทย และเวียดนาม

2023 Social Trend Cover Photo

ในประเทศไทย เรายังเล็งเห็นว่าการส่งข้อความเชิงธุรกิจได้ปลดล็อคโอกาสครั้งใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจและลูกค้า โดยผลการศึกษาที่จัดทำขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้แสดงให้เห็นว่า 76% ของคนไทยกล่าวว่าการส่งข้อความเชิงธุรกิจเป็นช่องการสื่อสารกับธุรกิจที่พวกเขาชอบมากที่สุด

ในขณะที่ 78% ของคนไทยกล่าวว่า พวกเขาได้ส่งข้อความไปหาธุรกิจต่าง ๆ แล้วอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อสัปดาห์

3. การช้อปปิ้งข้ามพรมแดน

ในปัจจุบัน โลกของเราสามารถเชื่อมต่อกันได้ง่ายขึ้น เนื่องจากเทคโนโลยีเปิดโอกาสให้ผู้คนสามารถเลือกซื้อสินค้าจากที่ใดก็ได้บนโลก และผู้คนรู้สึกสบายใจกับการซื้อสินค้าจากต่างประเทศเป็นอย่างมาก

ปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้การค้าอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน เติบโตกว่าการค้าอีคอมเมิร์ซภายในประเทศถึง 5 เท่า ภายในปี 2569 มีการคาดการณ์ว่าตลาดการค้าอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนทั่วโลก จะมีมูลค่าสูงถึง 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปีที่ 17% นับตั้งแต่ปี 2562

shutterstock 1926284309

ขณะที่ Meta ได้ร่วมมือกับ YouGov ในการสำรวจความคิดเห็นนักช้อปจำนวนกว่า 16,000 คนจาก 8 ประเทศ โดยผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนกว่าครึ่งกล่าวว่า พวกเขาเคยซื้อสินค้าจากธุรกิจในต่างประเทศ และ 82% กล่าวว่า มีโอกาสที่จะซื้อสินค้าจากธุรกิจในต่างประเทศ

ข้อมูลดังกล่าว ตอกย้ำให้เห็นถึงโอกาสในการซื้อขายข้ามพรมแดนในอนาคต นอกจากนี้ โซเชียลมีเดียยังมีบทบาทที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งในการค้นพบสินค้า โดย 58% ของนักช้อปข้ามพรมแดนที่ตอบแบบสอบถามกล่าวว่าพวกเขาค้นพบสินค้าจากธุรกิจในต่างประเทศผ่านทางโซเชียลมีเดีย

4. Virtual และ Augmented Reality

ปีที่ผ่านมา ธุรกิจมากมายเปิดรับการใช้งานเทคโนโลยี AR/VR เพื่อเสริมประสบการณ์ลูกค้ามากขึ้น ธุรกิจต่าง ๆ เริ่มพัฒนาวิธีสัมผัสประสบการณ์กับแบรนด์ให้มีความสร้างสรรค์และเสมือนจริงยิ่งกว่าเคย

IDC ระบุว่า เม็ดเงินลงทุนในเทคโนโลยี AR/VR ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะมีอัตราการเติบโตต่อปีที่ 42.4% (ระหว่างปี 2564 – 2569) และจะมีมูลค่าถึง 16.6 พันล้านดอลลาร์ในปี 2569

shutterstock 2118695231 1

โฆษณาแบบ AR จะช่วยให้แบรนด์เชื่อมต่อถึงลูกค้าได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้น และเสริมประสิทธิภาพโฆษณาในภาพรวม สำหรับผู้ใช้งาน เรายังเห็นคอมมิวนิตี้ของครีเอเตอร์ AR ที่แข็งแกร่งมากในไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบประเทศทั่วโลกที่มีจำนวนครีเอเตอร์ Spark AR ที่มีผลงานอย่างต่อเนื่องมากที่สุดในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว

5. ครีเอเตอร์

ครีเอเตอร์ คือ อนาคต เป็นที่น่าสนใจว่า กว่า 51% ของกลุ่มตัวอย่างนักช้อปข้ามพรมแดนต่างบอกว่า เหล่าครีเอเตอร์คือ แหล่งข้อมูลสำคัญในการค้นพบแบรนด์และช่วยประเมินคุณภาพสินค้า

ดังนั้น จึงนับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับแบรนด์ ในการทำงานเพื่อสร้างเรื่องราวของแบรนด์ร่วมกับบรรดาครีเอเตอร์ โดยในช่วงปลายปีที่แล้ว เฟซบุ๊กได้เปิดตัวโครงการ Creators of Tomorrowซึ่งเป็นแคมเปญระดับโลก เพื่อโปรโมทครีเอเตอร์ที่มุ่งสร้างสรรค์ผลงานและขับเคลื่อนคอมมิวนิตี้บนแอปต่าง ๆ ของเฟซบุ๊ก

นอกจากนั้น Instagram Trend Report ประเทศไทยยังชี้ให้เห็นว่ากลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Gen Z ชาวไทยยังให้ความสำคัญกับการเชื่อมต่อและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนที่พวกเขาติดตามสูง (อินฟลูเอ็นเซอร์)

shutterstock 1339059998 1

ดังนั้นสำหรับแบรนด์ ไม่มีช่วงเวลาไหนเหมาะสมกับการคอลแลบ หรือทำงานร่วมกับบรรดาครีเอเตอร์ หรือกระทั่งการสร้างคุณค่าแบรนด์ร่วมกันได้ดีไปกว่าตอนนี้อีกแล้ว เรียกได้ว่า ถ้าอยากโตให้เร็วให้ไปคนเดียว แต่ถ้าอยากไปให้ไกล เราต้องไปด้วยกัน

6. ช้อปปิ้งออนไลน์

แม้ผู้บริโภคจะเริ่มกลับไปจับจ่ายที่ร้านค้ามากขึ้น แต่พฤติกรรมการช้อปปิ้งผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลที่เกิดขึ้นระหว่างสถานการณ์โรคระบาดยังคงมีอิทธิพลอยู่

สำหรับคนในกลุ่ม Gen X และ Baby Boomers การค้นพบสินค้าผ่านโทรศัพท์มือถือยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง งานวิจัยจากนีลเส็นชี้ว่า กว่า 85% ของนักช้อปในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะยังคงซื้อสินค้าออนไลน์ต่อไป

ในขณะที่นักช้อปจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความตั้งใจซื้อสินค้าออนไลน์สูงสุดมากกว่า 60% ส่วน Social Commerce หรือการซื้อขายผ่านโซเชียลมีเดีย ยังเป็นช่องทางการขายที่เติบโตเร็วที่สุด โดยกว่า 62% ของนักช้อปออนไลน์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บอกว่าเป็นช่องทางการซื้อที่พวกเขาชื่นชอบ

ในประเทศไทย นักช้อป Gen Z ได้ใช้ประโยชน์จาก Touch Point (จุดสัมผัสระหว่างการซื้อ) ทั้งแบบออนไลน์และภายในร้านค้า สลับกันได้อย่างลื่นไหลผ่านสมาร์ทโฟน ซึ่งเป็นเครื่องมือการช้อปสินค้าที่สำคัญที่สุดของผู้บริโภคกลุ่มนี้

7. วิดีโอสั้น (Short-form video)

วิดีโอยังคงเติบโตอย่างไม่หยุดยั้งทั่วโลกอินเทอร์เน็ต รวมไปถึงแพลตฟอร์มของเฟซบุ๊ก  โดยฟีเจอร์ Reels เติบโตอย่างก้าวกระโดดบนแอปของ Meta ทั้งในแง่ของจำนวนวิดีโอสั้นและยอดดู Reels จึงนับเป็นรูปแบบคอนเทนต์ที่โตเร็วที่สุดของ Meta

shutterstock 2207713871

เฟซบุ๊กพบว่า ผู้ใช้งาน Instagram ใช้เวลาไปกับวิดีโอ Reels ถึง 20% ปัจจุบัน Reels มียอดดูบน Facebook และ Instagram จากเดิมที่มีรวมกันกว่า 140,000 ล้านครั้งต่อวันเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าตัวในช่วงปีที่ผ่านมา

คำถามคือ ธุรกิจต่าง ๆ ควรตอบสนองอย่างไรกับเทรนด์เหล่านี้ สิ่งสำคัญคือ ต้องเข้าใจเป้าหมายของธุรกิจก่อน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแบรนด์หรือสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่เสมือนจริงยิ่งขึ้น เมื่อรู้ว่าเป้าหมายของคุณคืออะไร คุณก็จะสามารถเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมได้

นอกจากนี้ การเล่าเรื่องราวของแบรนด์ผ่านวิดีโอในรูปแบบ และความยาวต่าง ๆ จะมีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อผลลัพธ์ทางธุรกิจ ทั้งในแง่ของการสร้างแบรนด์และการค้นพบแบรนด์

ข้อดีของเทรนด์เหล่านี้ คือ ธุรกิจมีตัวเลือกในการเข้าถึง และเชื่อมต่อกับผู้คน และสามารถสร้างแบรนด์ผ่านประสบการณ์ได้อย่างหลากหลายมากขึ้น

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo