กรมการขนส่งทางบก เชื่อมข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รถโดนใบสั่ง ไม่จ่ายจ่ายค่าปรับ ต่อภาษีรถยนต์ไม่ได้ป้าย เริ่ม 1 เมษายน 2566
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ร่วมกับ นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก แถลงข่าวประชาสัมพันธ์การเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก เพื่อลดการกระทำผิดกฎหมาย ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ให้เกิดความปลอดภัยในการขับขี่ ลดจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ จึงได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมการขนส่งทางบก ร่วมกันดำเนินการกวดขันวินัยการขับขี่ โดยบังคับใช้มาตรการตามที่กำหนดในกฎหมายให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ล่าสุดทั้ง 2 หน่วยงาน จึงได้ร่วมกันกำหนดมาตรการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก จำนวน 2 มาตรการ ได้แก่
มาตรการที่ 1 การตัดคะแนนความประพฤติ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการไปตั้งแต่ 9 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้กระทำผิดกฎจราจรและถูกตัดคะแนนแล้ว จำนวน 15,456 ราย
มาตรการที่ 2 คือมาตรการชะลอการออกเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี สำหรับรถที่มีใบสั่งค้างชำระตาม 141/1 พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ทั้ง 2 หน่วยงานจะต้องมีการเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ข้อมูลใบอนุญาตขับขี่ ข้อมูลยานพาหนะ และข้อมูลใบสั่งค้างชำระ เพื่อให้เกิดการบูรณาการข้อมูลได้แบบ Real Time ทำให้การบังคับใช้กฎหมายเกิดผลสัมฤทธิ์ และมีประสิทธิภาพสูงสุด
ดังนั้น จึงได้กำหนดให้มีการลงนาม บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ระหว่าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กรมการขนส่งทางบก เชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก
สำหรับ มาตรการชะลอเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี จะใช้กับรถยนต์ที่ที่มีใบสั่งจราจรที่ค้างชำระ ซึ่งเพิกเฉยไม่ชำระค่าปรับตามที่กำหนด โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะส่งข้อมูลโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์ไปยังนายทะเบียนกรมการขนส่งทางบก
เมื่อประชาชนไปต่อภาษีรถยนต์ประจำปี นายทะเบียนจะรับต่อภาษีประจำปี แต่ยังไม่ได้รับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี (ป้ายภาษี) โดยจะได้หลักฐานชั่วคราวแทนป้ายภาษี ซึ่งมีอายุ 30 วัน เพื่อให้ผู้นั้นไปชำระค่าปรับที่ค้างชำระให้ครบถ้วนภายใน 30 วัน แล้วจึงสามารถมารับป้ายภาษีได้
แต่หากประชาชนต้องการจะชำระค่าปรับในขณะต่อภาษี กฎหมายกำหนดให้อำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ให้นายทะเบียนสามารถรับชำระค่าปรับตามใบสั่งพร้อมกับชำระภาษี และรับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีได้เลยทันที
การขับรถโดยไม่มีป้ายภาษี จะมีโทษตาม พ.ร.บ.รถยนต์ฯ มาตรา 11 ซึ่งกำหนดว่า รถยนต์คันที่ต่อภาษีแล้วจะต้องแสดงเครื่องหมายตามที่กรมการขนส่งกำหนดให้ครบถ้วน มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลใบสั่งค้างชำระ และคะแนนความประพฤติได้ จากเว็บไซต์ E-ticket PTM และ แอปพลิเคชั่น ขับดี
ด้าน นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ตามที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบนโยบายในการป้องกันและรณรงค์ให้เกิดความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน และบังคับใช้กฎหมายกับผู้ฝ่าฝืน
กรมการขนส่งทางบก ได้ดำเนินการตามนโยบาย โดยการร่วมจัดทำ บันทึกข้อตกลงความร่วมมือการเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบกระหว่าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับ กรมการขนส่งทางบก
บันทึกข้อตกลงนี้ มีที่มาจากพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 141/1 ที่กำหนดมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย สำหรับผู้ที่กระทำความผิดตามกฎหมายจราจร และได้รับใบสั่งจากเจ้าพนักงานตำรวจ และไม่ชำระค่าปรับจราจรภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะแจ้งข้อมูลผู้ค้างชำระค่าปรับจราจรให้กรมการขนส่งทางบก เพื่อแจ้งให้เจ้าของรถหรือผู้มาติดต่อในขั้นตอนที่มาขอชำระภาษีประจำปีให้ชำระค่าปรับ
บันทึกข้อตกลงครั้งนี้ จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการปฏิบัติงาน ตามอำนาจหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมการขนส่งทางบกในกรณีดังกล่าว ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งจะทำให้เกิดประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย เกิดประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม ในการควบคุมความประพฤติของผู้ขับรถเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนและการจราจร
ความร่วมมือตามบันทึกข้อตกลงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะมีการเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์กับกรมการขนส่งทางบก และส่งข้อมูลค่าปรับตามใบสั่งจราจรที่ค้างชำระตามมาตรา 141/1 แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มายังกรมการขนส่งทางบก
เมื่อเจ้าของรถมาติดต่อชำระภาษีรถประจำปี ณ สำนักงานขนส่ง หากปรากฏว่า มีข้อมูลค่าปรับที่ค้างชำระ เจ้าของรถ ก็สามารถชำระค่าปรับที่ค้างชำระ พร้อมกับชำระภาษีกับนายทะเบียนของกรมการขนส่งทางบก และรับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีฉบับจริงได้ทันที
กรณีเจ้าของรถ ประสงค์จะต่อภาษีรถยนต์ประจำปี โดยไม่ชำระค่าปรับที่ค้างชำระ เจ้าของรถก็ยังคงสามารถชำระภาษีรถประจำปีได้ตามปกติ โดยจะได้รับหลักฐานชั่วคราว แทนเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีรถประจำปี ซึ่งหลักฐานชั่วคราวดังกล่าวจะมีอายุ 30 วัน นับแต่วันที่นายทะเบียนออกให้
หากต่อมาเจ้าของรถได้ทำการชำระค่าปรับที่ค้างชำระภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากนายทะเบียนของกรมการขนส่งทางบกเรียบร้อยแล้ว สามารถนำหลักฐานแสดงการชำระค่าปรับ มาแสดงต่อนายทะเบียนของกรมการขนส่งทางบก เพื่อให้ออกเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีรถประจำปีได้
กรณีหากเจ้าของรถ มีความประสงค์ตรวจสอบข้อมูลค่าปรับที่ค้างชำระ หรือจะโต้แย้งข้อมูลค่าปรับที่ค้างชำระ สามารถติดต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผ่านช่องทางที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนด
ทั้งนี้ ก็เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่เข้ามาดำเนินการด้านทะเบียนและชำระภาษีรถประจำปี และส่งเสริมมาตรการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยจราจรทางบกให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะสามารถนำไปสู่การเสริมสร้างวินัยจราจร จิตสำนึกด้านความปลอดภัยซึ่งจะสามารถช่วยลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างยั่งยืนต่อไป
การเชื่อมโยงข้อมูลใบสั่งค้างชำระของทั้งสองหน่วยงานนั้น จะเริ่มใช้กับใบสั่งจราจรสำหรับการกระทำผิดตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 เป็นต้นไป โดยไม่มีผลย้อนหลัง โดยเชื่อมั่นว่ามาตรการดังกล่าว จะสามารถนำไปสู่การเสริมสร้างวินัยจราจร จิตสำนึกด้านความปลอดภัย ซึ่งจะสามารถช่วยลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างยั่งยืนต่อไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ห้ามสแกนจ่ายเงินค่าปรับ ผ่านใบสั่งตำรวจ ‘ดีอีเอส’ ลั่นข่าวปลอม ย้ำสแกนจ่ายได้ปกติ
- ‘ใบสั่งจราจร’ ส่งไปรษณีย์ถึงบ้าน เช็คได้ ของจริง-ของปลอม ด้วย 2 วิธีง่ายๆ
- รู้ยัง? ประกาศส่ง ‘ใบสั่งจราจร’ ทางไปรษณีย์ พ้น 15 วันยังเงียบ ถือว่าได้รับแล้ว