อินฟอร์ เตือนระบบซัพพลายเชนทั่วโลก ยังคงปั่นป่วน และเผชิญความท้าทาย จากปัจจัย 5 ประการ แนะใช้เทคโนโลยีที่ครอบคลุมทั้งระบบนิเวศ
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นับเป็นห้วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับผู้ที่ทำงานในระบบซัพพลายเชน ความสามารถในการปรับตัวจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ ยังต้องพึ่งพาทีมซัพพลายเชน เพื่อให้ผ่านพ้นภาวะชะงักงันที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไปให้ได้
นายเทอร์รี สมา รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น อินฟอร์ ได้เผยถึงแนวโน้ม 5 ประการที่จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจ และผู้คนที่ทำงานด้านซัพพลายเชนในปี 2566 ดังนี้
แผนการด้านซัพพลายเชนจะเกิดข้อผิดพลาดในทางปฏิบัติ
ความไม่แน่นอนและความผันผวน ประกอบกับปัจจัยระดับท้องถิ่นและระดับโลก จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินการด้านซัพพลายเชน
สำหรับปี 2566 นี้ ในระยะยาวอุปสงค์และอุปทานจะยังไม่ถึงระดับที่มั่นคงและยั่งยืน เนื่องจากแรงกดดันด้านภูมิรัฐศาสตร์ สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจมหภาค การวางแผนงานด้านซัพพลายเชนยังคงสำคัญต่อธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องกังวลกับการพยายามคาดการณ์อนาคตที่แม่นยำ แต่ต้องเน้นที่การวางแผน สำหรับสถานการณ์แบบ what-if ที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่าธุรกิจพร้อมปรับตัวและเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปี 2566 ได้อย่างรวดเร็ว
2. ฤดูหนาวนี้จะแสนสาหัส
สงครามรัสเซียกับยูเครน กำลังส่งผลกระทบด้านพลังงานและอาหารทั่วโลก แต่ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกาจะต้องเผชิญกับความท้าทายเป็นพิเศษ แม้ว่าซัพพลายเชนทั่วโลก จะได้รับการพัฒนาเพื่อช่วยรักษาสมดุลของสินค้าที่ล้นตลาด และขาดแคลนในภูมิภาคแล้วก็ตาม
แต่ผลกระทบทั่วโลกที่เกิดจากการหยุดชะงักของอุปสงค์ อุปทาน และการขนส่งสินค้าที่ไม่คาดคิดบ่อยครั้ง จะยังคงส่งผลต่อภาวะเงินเฟ้อ ความขาดแคลน และความกังวลใจ
3. แรงงานกลายเป็นตัวกระตุ้นสำคัญของปัญหา ในระบบซัพพลายเชน
ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้เกิดความคิดเกี่ยวกับ essential workers หรือคนทำงานในกิจการที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันขึ้น เพื่ออธิบายถึงแรงงานบางส่วน ที่ไม่สามารถทำงานได้จากระยะไกล และการ
ขาดงานที่ทำให้การค้าพื้นฐานต้องหยุดชะงัก หรือทำให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพ และความปลอดภัยของผู้คน
ในกลุ่มนี้มีพนักงานขนส่ง และคลังสินค้า หลายแสนคนทั่วโลกรวมอยู่ด้วย โดยคนงานทั่วยุโรปได้มีการหยุดงานประท้วงเพื่อขอให้รัฐบาลเพิ่มค่าแรงแล้ว ในขณะที่สหภาพแรงงานรถไฟในสหรัฐ ยังไม่ยอมรับข้อเสนอสัญญาค่าแรงฉบับใหม่ แม้ว่าการหยุดงานมีแนวโน้มว่าจะยืดเวลาออกไปแล้วก็ตาม
ขณะที่ค่าแรงในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์หลายแห่งได้เพิ่มขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา อันเป็นผลมาจากการขาดแคลนแรงงานอย่างรุนแรง แต่รายได้ที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้ กลับถูกกลบด้วยค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ จะบังคับให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองพื้นฐานทั่วโลก เช่นเดียวกับการใช้กำลังแรงงาน เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบการจ้างงาน ในบริษัทซัพพลายเชนต่าง ๆ ที่สำคัญ
4. ความพยายามในการแยกเศรษฐกิจออกจากจีน จะเผยให้เห็นถึงข้อบกพร่องของซัพพลายเชนมากขึ้น
เป็นเวลาหลายปีมาแล้ว ที่หลายอุตสาหกรรมได้ขยายเครือข่ายซัพพลายเออร์ ในการจัดซื้อจัดจ้างอย่างเป็นระบบไปยังนานาประเทศที่ไม่ใช่จีน เพื่อลดผลกระทบจากการขึ้นภาษีศุลกากร ความขัดแย้งทางการค้า และยุทธศาสตร์ Zero-Covid ของจีน
เมื่อนายสี จิ้นผิง ยังครองอำนาจได้อย่างมั่นคงในอีก 5 ปีข้างหน้า ความเสี่ยงด้านซัพพลายเชน จากปฏิกิริยาในอนาคตของไต้หวัน การแสดงแสนยานุภาพทางเรือและทางทะเล ตลอดจนการขยายการลงทุนของจีนในประเทศโลกที่สาม ที่มีความมั่งคั่งทางยุทธศาสตร์ จะต้องได้รับการจัดการอย่างจริงจัง
ทว่า ท่าเรือต่าง ๆ เส้นทางการขนส่งทางบก และทางน้ำ ของนานาประเทศในเอเชีย ที่ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของระบบซัพพลายเชน ยังขาดโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง และโลจิสติกส์ หรือผู้ให้บริการที่แข็งแกร่งทัดเทียมกับจีน
ดังนั้น เส้นทางการค้าที่พาดผ่านพื้นที่ ที่ประเทศจีนมีอิทธิพลหรือควบคุมอยู่ อาจจะต้องเผชิญกับการหยุดชะงักที่ไม่คาดคิดจากมหาอำนาจโลกระดับนี้
5. การจัดการทัศนวิสัยในซัพพลายเชนจะเปลี่ยนไป
ในปีนี้ เราจะเห็นผู้ให้บริการขนส่ง ที่มีการจัดการทัศนวิสัยแบบเรียลไทม์ชั้นนำหลายแห่ง ประกาศเลิกจ้างงาน ขณะที่กิจกรรมร่วมทุนในภาคเทคโนโลยีซัพพลายเชน จะลดลงอย่างมาก
นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมกำลังพูดถึงมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่า หลายบริษัทที่ซื้อเทคโนโลยีด้านการจัดการทัศนวิสัยระบบขนส่ง ต่างผิดหวังกับการลงทุนที่ไม่ได้ผลตอบแทนในระยะยาว เพราะการมีแต่ข้อมูลด้านการขนส่งเพียงอย่างเดียวทำให้องค์กรขาดบริบททางธุรกิจที่สำคัญ
เราจะได้เห็นการให้ความสำคัญกับการเริ่มใหม่ ของเครือข่ายธุรกิจซัพพลายเชน และแพลตฟอร์มแอปพลิเคชันที่ให้บริการครอบคลุมเชื่อมโยงเป็นองค์รวมมากขึ้น ในการจัดการทัศนวิสัยด้านการดำเนินงานของ
ซัพพลายเชนทั้งระบบ
ทั้งนี้ ผู้มีส่วนได้เสีย และผู้ที่อาจได้ประโยชน์ จะมีส่วนในการตัดสินใจซื้อเทคโนโลยีด้านการจัดการทัศนวิสัย มากกว่าฝ่ายขนส่ง โดยฝ่ายจัดซื้อจัดจ้าง ฝ่ายการเงิน ฝ่ายวางแผนปฏิบัติการและการขาย ฝ่ายจัดการสินค้าคงคลัง และแม้แต่ผู้นำด้านการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน จะร่วมกันพิจารณาเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อให้ช่วยตอบสนองความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ธุรกิจที่พร้อมเปลี่ยนแปลง และปรับตัวได้เร็วเท่านั้นที่จะอยู่รอด ไม่มีคำตอบอื่นอีกต่อไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เวียดนาม-จีน’ จับมือหนุน ‘เดินทาง-การค้า’ หลังเปิดประเทศ
- ส่งออกระทึก! ‘หอการค้าไทย’ ประเมินส่งออกปี 66 โต 1% ต่ำสุดในรอบ 3 ปี
- เตือน! ผู้ประกอบการขนส่ง ต้องมี ‘บุคลากรจัดการด้านความปลอดภัย’ เริ่มบังคับใช้แล้ว ฝ่าฝืนปรับ 5 หมื่น