วันนี้ (4 ก.พ. 62) ความเคลื่อนไหวพรรคใหญ่ อย่างพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายอุตตมะ สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายณัฐพล ทีปสุวรรณ ผู้อำนวยการพรรค และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ กรรมการบริหารพรรค เดินทางมาให้กำลังใจว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตของกรุงเทพมหานคร 30 เขต ในการรับสมัคร ส.ส.วันแรก ที่บริเวณอาคารกีฬาเวศน์ โดยหลังเสร็จสิ้นการจับเบอร์ผู้สมัคร แล้ว นายอุตตม และนายสนธิรัตน์ เดินทางไหว้พระแก้วมรกต ที่วัดพระแก้ว และไหว้ศาลหลักเมือง
นายอุตตม ระบุว่า ต้องการใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เรามี เพื่อให้กรุงเทพมหานครขับเคลื่อนไปได้อย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งปัญหาใหญ่ของกรุงเทพมหานคร คือด้านสิ่งแวดล้อม โดยพรรคพลังประชารัฐต้องการเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ชาวกรุงเทพมหานคร ให้มีพื้นที่สีเขียวมากขึ้น แก้ไขปัญหามลพิษ โดยมีทางออกในปัญหาต่างๆให้ชาวกรุงเทพมหานครอย่างรวดเร็ว และแก้ไขปัญหาในระยะยาวอย่างยั่งยืน
แม้พื้นที่กรุงเทพมหานครฐานเสียงเดิมจะเป็นของพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย แต่พลังประชารัฐไม่ได้กังวล เพราะพรรคเรามุ่งมั่นที่จะเป็นพรรคทางเลือกใหม่ให้การเมืองไทย ที่ต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง เลิกแบ่งสี แบ่งฝ่าย ส่วนจะได้ ส.ส. กทม.กี่ที่นั่งนั้น นายอุตตม กล่าวว่าเราจะทำอย่างเต็มที่
ทั้งนี้เชื่อว่าพรรคพลังประชารัฐ มีความพร้อม ด้วยบุคลากร ด้วนนโยบายด้านสวัสดิการสังคม และเศรษฐกิจ จะตอบโจทย์ให้กับประเทศไทย และเชื่อว่าเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเมืองไทยในขณะนี้
ส่วนคำเชิญพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ขึ้นเป็นบัญชีรายชื่อนายกฯ นั้น ขณะนี้นายกฯ ยังไม่ตอบตกลง แต่มั่นใจว่ารายชื่อทั้งหมดจะเสร็จภายในวันที่ 8 กุมภาพันธ์อย่างแน่นอน ส่วนกรณีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นั้นยังติดภารกิจเดินทางไปต่างประเทศ และไม่ได้พูดคุยกัน
ส่วนนายสนธิรัตน์ มั่นใจว่า ในพื้นที่ กทม.จะได้ ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 10 ที่นั่ง โดยไม่กังวลที่จะต้องแข่งขันกับพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย ที่เป็นเจ้าของพื้นที่ พร้อมย้ำคนรุ่นใหม่ของพรรคยินดีอาสาเข้ามาทำงาน เพื่อคนกรุงเทพ สำหรับความคืบหน้าบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคซึ่งหนึ่งในนั้นคือพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังไม่ตอบรับ ซึ่งหากตอบรับ ก็จะเป็นไปตามขั้น
ขณะที่แกนนำคนอื่นๆได้กระจายไปให้กำลังใจผู้สมัครในเขตสำคัญต่างๆทั่วประเทศ โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์ภาคอีสาน พร้อมด้วยนายวิรัช รัตนเศรษฐ หัวหน้าทีมอีสานใต้ นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ กรรมการบริหารพรรค และ ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐทั้ง 14 เขต โดยเดินทางไปบวงสรวงสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี(ย่าโม) เพื่อเอาฤกษ์เอาชัยและเพื่อความเป็นสิริมงคล
นายสุริยะ กล่าวว่า เวลานี้ในพื้นที่อีสานของพรรคพลังประชารัฐมีความพร้อมที่จะสู้ศึกเลือกตั้ง ซึ่งภาพรวมทั้งประเทศ ได้ส่งผู้สมัครแบบเขตและแบบบัญชีรายชื่อครบ 500 เขต เวลานี้มีความมั่นใจว่าชาวบ้านชื่นชอบแนวทางของพรรคความในเรื่องของการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม การพัฒนาเศรษฐกิจดีขึ้น โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตร และนี่จึงเป็นสาเหตุให้คะแนนนิยมดีวันดีคืน
เมื่อถามว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะให้คำตอบในเรื่องบัญชีนายกฯของพรรคพลังประชารัฐเมื่อใด นายสุริยะกล่าวว่า ตนเชื่อว่าจะได้คำตอบเร็วๆนี้และเชื่อว่า พลเอกประยุทธ์ จะตอบรับ เพราะนโยบายของพรรคเวลานี้ตรงกับแนวทางที่รัฐบาลทำอยู่ และที่สำคัญพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคที่ก้าวข้ามความขัดแย้ง
ทางด้านดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค ลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อให้กำลังใจผู้สมัครส.ส. พร้อมด้วย นายปรีชา แก้วกระจ่าง ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานพรรค พปชร จังหวัดนครศรีธรรมราช และกรรมการบริหารพรรค ดร.วลัยพร รัตนเศรษฐ, ดร.ณพพงศ์ ธีระวร และนายองอาจ ปัญญาชาติรักษ์ โดยพาผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส. ไปกราบสักการะ พระบรมธาตุ ณ วัดพระมหาธาตุ จากนั้นเดินทางพาผู้สมัคร 8 เขต ไปลงรับสมัคร ที่โรงละคร อบจ.สนามหน้าเมืองผู้แทนราษฎร จังหวัดนครศรีธรรมราช
ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรค ไปยังจังหวัดพิษณุโลก เพื่อนำทีมผู้สมัครส.ส.พิษณุโลก พรรคพลังประชารัฐทั้ง 5 เขตลงสมัคร
ส่วนนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค และ นายภาคิน สมมิตรธนกุล ผู้อำนวยการยุทธศาสตร์ ภาคเหนือตอนบนได้เดินทางไปยังจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้กำลังใจผู้สมัคร และนำผู้สมัครส.ส.ไปยังหอประชุมคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ โดยหลังจากจับฉลากหมายเลข ในช่วงบ่ายจะเดินทางไปทำพิธีบวงสรวง อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ และเทวดาอารักษ์เมือง หน้าวัดพระสิงห์ รวมถึงปราศัย ณ ตลาดปากเหว และตลาดสันโค้งด้วย
