The Bangkok Insight

สัมพันธ์เกาหลีฟื้น หนุนอสังหาฯ ชายแดนจีนเฟื่องฟู

การสานสัมพันธ์ทางการทูตครั้งประวัติศาสตร์บนคาบสมุทรเกาหลี ทำให้เกิดผลกระทบที่เหนือความคาดหมายขึ้นบริเวณชายแดนเกาหลีเหนือติดกับจีน จากการที่ราคาอสังหาริมทรัพย์ทะยานสูงขึ้น

สภาพเศรษฐกิจใน “ตันตง” เมิองชายแดนทางตะวันออกเฉียงเหนือ ช่องทางหลักของจีนในการทำการค้ากับเกาหลีเหนือ ตกอยู่ในภาวะซบเซา มาตั้งแต่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประกาศมาตรการคว่ำบาตรลงโทษรัฐบาลเกาหลีเหนือ จากเรื่องการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ และขีปนาวุธพิสัยไกล เมื่อปีที่แล้ว

000 14H4X7

มาตรการคว่ำบาตรที่เกิดขึ้น สร้างความยากลำบากให้กับการซื้อขายปลา สิ่งทอ และโภคภัณฑ์อื่นๆ ทั้งยังกดดันให้แรงงานเกาหลีเหนือหลายร้อยคน ต้องเลิกทำงานในโรงงานที่จีน

แต่ราคาอสังหาริมทรัพย์ในเมืองนี้ กลับทะยานขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้าที่จะเกิดการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ ระหว่าง  2 ผู้นำเกาหลี ซึ่งนักเก็งกำไรก็คาดการณ์ว่า ราคาจะพุ่งขึ้นไปอีก

สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นขุมทรัพย์ที่เหนือความคาดหมาย สำหรับภูมิภาคที่เมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ ต้องคอยรับผู้อพยพเกาหลีเหนือที่ทะลักเข้ามา และแม้กระทั่งความเป็นไปได้ที่อาจจะอยู่ในรัศมีของอาวุธนิวเคลียร์ จากความกังวลถึงการเกิดสงครามบนคาบสมุทรเกาหลี

เมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา หรือหนึ่งวันก่อนที่จะเกิดการประชุมสุดยอด 2 เกาหลี สำนักงานจดทะเบียนอสังหาริมทรัพย์ตันตง ได้ติดป้ายประกาศไว้ที่ทางเข้าว่า มีการยื่นขอจดทะเบียนทำการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในช่วงไม่กี่วันนี้ เกินความสามารถของสำนักงาน ที่รับมือได้เพียง 260 รายต่อวันเท่านั้น

การไหลทะลักเข้ามาของผู้ซื้อที่อยู่อาศัย ในเมืองที่มีประชากรอยู่เกือบ 2.4 ล้านคนแห่งนี้ เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา เมื่อ “คิม จอง อึน” ประธานประเทศเกาหลีเหนือ นั่งรถไฟผ่านเมืองแห่งนี้ เพื่อไปพบหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ซึ่งถือเป็นการ เดินทางเยือนต่างประเทศครั้งแรกของผู้นำเกาหลีเหนือ นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง

“ในช่วง 2 สัปดาห์ล่าสุดมานี้ จำนวนผู้คนที่โทรเข้ามาถามเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ หรือเข้ามาซื้อบ้านพุ่งสูงขึ้น ตอนนี้ ผมมีโทรศัพท์เข้ามามากถึง 20 สายต่อวัน และมีคนราว 10 คนเดินทางมาที่สำนักงาน เพราะอยากซื้ออพาร์ตเมนต์” ลี ซินหยู ซีอีโอไอเจีย เรียล เอสเตท ในเมืองตันตง กล่าว

‘เมืองร้าง’

ตันตงตั้งอยู่ริมฝั่งทางตอนเหนือของแม่น้ำยาลู ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตแดนจีนกับเกาหลีเหนือ  มีสะพาน 2 แห่ง ที่มีทั้งถนน และทางรถไฟ เชื่อม 2 ประเทศเข้าด้วยกัน โดยทั้ง  2 ฝั่งแม่น้ำ จะมีทหารของแต่ละประเทศประจำการอยู่ และมีเรือลาดตระเวนอยู่ตามลำน้ำเป็นประจำ

ในฐานะจุดผ่านแดนหลัก ตันตงวางเดิมพันอนาคตของเมืองไว้ที่การค้ากับเกาหลีเหนือ มีทั้งโรงงาน อพาร์ตเมนต์ และแม้กระทั่ง ร้านอาหารเกาหลีเหนือ ตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก

ทีมงานวางฝังเมืองที่มีความมุ่งมั่น ได้เริ่มต้นการทำงานเพื่อสร้างเมืองใหม่ตันตงขึ้นมา ให้เป็นส่วนหนึ่งของสะพานข้ามแม่น้ำยาลูแห่งใหม่ ที่จะเชื่อมตันตง เข้ากับเมืองซินวีจู ของเกาหลีเหนือ

000 WB453 1

ในขณะนั้น เจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่า จะมีเม็ดเงินลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ไหลทะลักเข้ามาในเขตการค้าเสรีร่วมในทั้ง  2 ฝั่งแม่น้ำ

อย่างไรก็ดี สะพานขนาด 4 เลน มูลค่า 350 ล้านดอลลาร์แห่งนี้ไม่เคยได้เปิดใช้งาน ขณะที่สุดปลายสะพานในฝั่งของเกาหลีเหนือก็มีแต่ทุ่งโล่ง ที่มีหิมะปกคลุมอยู่

เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา  เมืองใหม่ตันตงดูเหมือนกับเมืองร้าง มีแต่อาคารอพาร์ตเมนต์ ร้านค้า และร้านอาหารที่ว่างเปล่า ทั้งยังมีบ้านว่างอยู่เต็มไปหมด ซึ่งเมื่อมาตรการคว่ำบาตรเริ่มส่งผลกระทบ ราคาบ้านใหม่ในตันตงเมื่อเดือนมีนาคมที่่ผ่านมา ร่วงลงจากปีที่แล้วราว 3.7%

แต่ในปัจจุบัน บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายราย บอกว่า เริ่มมีสัญญาณเบื้องต้นแสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองที่ใกล้จะย้อนกลับมาแล้ว

“ในช่วงกว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาอสังหาริมทรัพย์ในเขตเมืองใหม่ตันตงเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 20-30% เพราะว่าผู้คนพากันคาดการณ์ว่า เกาหลีเหนือจะเปิดกว้างรับธุรกิจ” ลี กล่าว

เขาบอกด้วยว่า การซื้อบ้านที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ไม่ใช่เพื่อเข้ามาอยู่อาศัยเท่านั้น แต่เพื่อการลงทุนด้วย โดยมีผู้คนจำนวนมากที่คาดว่า เกาหลีเหนือจะเปิดประเทศรับการค้า

000 X85YG

ตง เทียนฉี นายหน้าขายอสังหาริมทรัพย์ของอันเจีย พรอพเพอร์ตี โค กล่าวว่า ลูกค้าของเขาส่วนใหญ่เป็นนักเก็งกำไรที่มาจากเมืองใหญ่ๆ รวมถึง กรุงปักกิ่ง และต้าเหลียน ซึ่งเป็นเมืองที่ทางการควบคุมการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ เพื่อไม่ให้เกิดภาวะฟองสบู่ขึ้นมา

ขาขึ้นของราคาอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่จีนกลับมากระชับสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือ ชาติพันธมิตรในช่วงสงครามเย็นอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ห่างเหินกันไปพักหนึ่ง จากการที่รัฐบาลจีนให้การสนับสนุนมาตรการคว่ำบาตรของยูเอ็นต่อเกาหลีเหนือ

ทั้งนี้ จีนถือเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจหมายเลข 1 ของเกาหลีเหนือ แต่ข้อมูลจากกรมศุลกากร แสดงให้เห็นว่า การค้าทวิภาคีในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ร่วงลงไปถึง  60.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

เร็วเกินไปที่จะฉลอง?

ในขณะนี้ บรรดานักลงทุนไม่เพียงแต่จะพุ่งความสนใจไปยังการสานสัมพันธ์ระหว่าง 2 เกาหลี และความสัมพันธ์ที่พัฒนาดีขึ้น ระหว่างจีนกับเกาหลีเหนือเท่านั้น แต่ยังมองไกลไปถึงการพบปะระหว่างผู้นำเกาหลีเหนือ กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

'มองโกเลีย-สิงคโปร์' ติดโผสถานที่ซัมมิต 'ทรัมป์-คิม'

อย่างไรก็ดี ลู่ เชา ผู้อำนวยการสถาบันชายแดนศึกษา จากสถาบันสังคมศาสตร์เหลียวหนิง ชี้ว่า ตราบเท่าที่ยังมีมาตรการคว่ำบาตรของยูเอ็นอยู่ ธุรกิจจีนก็มีความหวังเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ที่จะฟื้นฟูการลงทุนขนาดใหญ่ในโรงงานต่างๆ หรือเข้าไปทำเหมืองในเกาหลีเหนือ

“ยังเร็วเกินไปสำหรับการมีสัญญาณใดๆ เกี่ยวกับการฟื้นฟู และการพัฒนาขนาดใหญ่ แม้ว่าประชาคมโลกจะขานรับต่อการเคลื่อนไหวเมื่อเร็วๆ นี้ ของเกาหลีเหนือ และเป็นเรื่องธรรมดา ที่จะมีการคาดหวังว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องการคว่ำบาตรตามมา แต่ก็ต้องรอให้สภาความมั่นคงยูเอ็นลด หรือยกเลิกการคว่ำบาตรเสียก่อน”

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight