Finance

จับตา!! ต่างชาติดักตุน 7 หุ้นบิ๊กแคปเข้าพอร์ต

ภาพรวมตลาดหุ้นไทยเดือนแรกของปี 2562 พบว่าดัชนีหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.91%  ขณะที่การซื้อขายของกลุ่มนักลงทุนแยกรายกลุ่ม พบว่า ต่างชาติมียอดซื้อสะสม 8.04 พันล้านบาท สถาบันมียอดซื้อสุทธิ 3.15 พันล้านบาท ส่วนบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 1.05 พันล้านบาท และนักลงทุนภายในประเทศมียอดขายสุทธิ 1.01 หมื่นล้านบาท

การที่ต่างชาติมียอดซื้อสุทธิน่าจะสอดคล้องกับหุ้นขนาดใหญ่ซึ่งราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง โดยเฉพาะเมื่อสำรวจหุ้นที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) สูงสุด 50 อันดันแรก ที่มีราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงเกินกว่า 10% มีจำนวน 7 บริษัทประกอบด้วย

หุ้นใหญ่ต่างชาติทยอยซื้อ 01

บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO  เพิ่มขึ้น 17.97% รองลงมา  บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU เพิ่มขึ้น 14.81%  บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT 13.97% บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU 12.84% บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL 12.73% บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH 12.04% และบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM 10.38%

อย่างไรก็ตาม บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC ถือเป็นหนึ่งในหุ้นใหญ่ที่ราคาปรับตัวขึ้น 6.88%  ซึ่งน่าจะเกิดจากแรงซื้อหุ้นใหญ่กลับเข้าพอร์ตลงทุน หลังจากที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เพราะต่างชาติได้ลดสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในช่วงปี 2561 และมียอดขายสุทธิสูงสุดในประวัติการณ์ที่ระดับ 2.87 แสนล้านบาท

นักวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า จากนี้ไปหุ้น SCC จะเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่เงินทุนต่างชาติจะไหลกลับเข้ามาในรอบนี้ เนื่องจากปัจจุบันมีสัดส่วนของต่างชาติถือเพียง 19.3% ซึ่งต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2544 นอกจากนี้ประเมินว่า หุ้นในกลุ่มวัสดุก่อสร้างได้แรงหนุนจากความคืบหน้าของการเลือกตั้งในประเทศไทย

สัดส่วนต่างชาติถือหุ้นSCCv1 02

หากพิจารณาปัจจัยพื้นฐานหุ้น SCC แล้วเชื่อว่า ธุรกิจวัสดุก่อสร้างน่าจะเติบโตต่อเนื่อง หนุนกำไรปี 2562 ขยายตัวเล็กน้อย ซึ่งคาดความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศน่าจะขยายตัว 3 – 5% หนุนความต้องการวัสดุก่อสร้างอื่นให้ขยายตัวตามมา คงประมาณการกำไรปกติปีนี้อยู่ที่ 4.9 หมื่นล้านบาท และคาดว่าพื้นฐานระยะยาวยังแข็งแกร่งจากการเข้าสู่การเติบโตครั้งใหม่ของวัสดุก่อสร้างและการขยายการลงทุนต่อเนื่อง

เมื่อสำรวจข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในส่วนการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างชาติแยกตามสัญชาติของหุ้น SCC พบว่า ในปี 2544  จำนวน 287.34 ล้านหุ้น  ขณะที่ในปี 2561 ต่างชาติมีจำนวนการถือครองหุ้นอยู่ 233.15 ล้านหุ้น 

สำหรับกลุ่มต่างชาติที่ยังคงถือหุ้น SCC ประกอบด้วย บริติช จำนวน 129.47 ล้านหุ้น อเมริกา 34.58 ล้านหุ้น สิงคโปร์ 25.35ล้านหุ้น ฝรั่งเศล 20.45 ล้านหุ้น ฮ่องกง 7.67 ล้านหุ้น อินเดีย 6.59 ล้านหุ้น สวิตเซอร์แลนด์ 3.98 ล้านหุ้น ลักเซมเบิร์ก 2.58 ล้านหุ้น เดนมาร์ก 2.48 ล้านหุ้น

การเคลื่อนไหวราคาหุ้น SCC ในปี 2544 ราคาหุ้นอยู่ที่ 46.40 บาท มาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 5.56 หมื่นล้านบาท และปัจจุบันราคาเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 466 บาท มาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 5.59 แสนล้านบาท

ล่าสุด บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) รายงานผลประกอบการไตรมาส 4/61 มีกำไรสำหรับงวดเท่ากับ 10,468 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากไตรมาสก่อน EBITDA เพิ่มขึ้น 13% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากเป็นช่วงที่มีรายได้เงินปันผลรับจากธุรกิจเคมิคอลส์ และการลงทุนในธุรกิจอื่น ขณะที่รายได้จากการขายเท่ากับ 117,223 ล้านบาท ลดลง 4% จากไตรมาสก่อน สาเหตุหลักจากราคาขายของสินค้าเคมีภัณฑ์ลดลง

สัดส่วนต่างชาติถือหุ้นSCCv2 01

เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสำหรับงวดลดลง 17% และ EBITDA ลดลง 24% ตามผลการดำเนินงานที่ลดลงของธุรกิจเคมิคอลส์ เนื่องจากความผันผวนของตลาด ส่งผลให้ส่วนต่างราคาสินค้าลดลง และมีขาดทุนจากการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือ 2,200 ล้านบาท  ขณะที่รายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากปริมาณขายสินค้าเคมีภัณฑ์เพิ่มขึ้น และธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง มีผลการดำเนินงานในประเทศเพิ่มขึ้น

ส่วนผลการดำเนินงานของปี 2561  มีกำไรสำหรับปีเท่ากับ 44,748 ล้านบาท ลดลง 19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ EBITDA เท่ากับ 86,641 ล้านบาท ลดลง 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามผลการดำเนินงานที่ลดลงของธุรกิจเคมิคอลส์ขณะที่ธุรกิจแพคเกจจิ้งมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น ทั้งนี้ รายได้จากการขายเท่ากับ 478,438 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากปริมาณขายสินค้าของทุกกลุ่มธุรกิจเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ SCC ได้แจ้งมติคณะกรรมการบริษัท อนุมัติการจ่ายเงินปันผล งวดดำเนินงานวันที่ 1 มกราคม 2561 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2561 ในอัตราหุ้นละ 9.50 บาท วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 3 เมษายน 2562 วันที่จ่ายปันผล 19 เมษายน 2562

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight