“รพ.เลิดสิน” เตือนประชาชน ” โรคกระดูกอักเสบ “ อันตรายกว่าที่คิด หากมีไข้หนาวสั่น ปวดบวมตามกระดูก เคลื่อนไหวกระดูกส่วนที่อักเสบได้น้อย อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร อย่ามองว่าเล็กน้อย อาจเป็นโรคร้ายแรง ควรรีบพบแพทย์
นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีการการแพทย์ และโฆษกกรมการแพทย์ บอกว่า “โรคกระดูกอักเสบ” คือ โรคที่เกิดจากกระดูกติดเชื้อโรค โดยทั่วไปมักเป็นจากเชื้อแบคทีเรีย แต่อาจพบจากติดเชื้อราได้ โรคกระดูกอักเสบ เกิดได้กับกระดูกทุกชิ้นของร่างกาย ที่พบบ่อย คือ กระดูกขา เท้า และกระดูกสันหลัง
โดยทั่วไปมักพบกระดูกอักเสบเพียงตำแหน่งเดียว แต่อาจพบหลายตำแหน่งพร้อมกันได้ นอกจากนี้ยังพบได้ในทุกอายุตั้งแต่เด็กแรกเกิดไปจนถึงผู้สูงอายุ และมีโอกาสเกิดเท่ากัน ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย
สำหรับสาเหตุของโรคกระดูกอักเสบเกิดได้จาก การติดเชื้อจากกระแสเลือด เนื้อเยื่อ หรือ อวัยวะใกล้เคียงกระดูกที่อักเสบติดเชื้อ และการติดเชื้อจากเนื้อเยื่อกระดูกขาดเลือด จากการไหลเวียนเลือดไม่ดี
อาการที่พบบ่อย ได้แก่
- มีไข้หนาวสั่น
- ปวดบวมตามกระดูกที่อักเสบ
- เคลื่อนไหวกระดูกส่วนที่อักเสบได้น้อย
- อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร
- ในกระดูกอักเสบเรื้อรังมักมีแผลและหนองไหล
- ต่อมน้ำเหลืองบริเวณใกล้เคียงกับกระดูกอักเสบเจ็บ โต คลำพบก้อน
นพ.สมพงษ์ ตันจริยภรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเลิดสิน กล่าวว่า ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงจากโรคกระดูกอักเสบ อาทิ เกิดอุบัติเหตุหรือผ่าตัดกระดูก หรือข้อในระยะเวลา 1 – 3 เดือนก่อนเกิดกระดูกอักเสบ ป่วยด้วยโรค ที่ทำให้การไหลเวียนเลือดไม่ดี เช่น โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดแดงแข็ง ผู้ใช้ยาเสพติดด้วยวิธีฉีดยา เป็นต้น
โดยแพทย์จะวินิจฉัยโรคกระดูกอักเสบได้จากประวัติการเจ็บป่วย การตรวจร่างกายในตำแหน่งกระดูกที่มีอาการโดยการเอกซเรย์ การเพาะเชื้อจากหนอง และอาจตัดชิ้นเนื้อกระดูกชิ้น ที่มีอาการ เพื่อการตรวจทางพยาธิวิทยา เพื่อนำมาวินิจฉัยให้ได้ผลแน่นอนที่สุด
สำหรับการรักษาโรคกระดูกอักเสบ มี 2 วิธีหลัก ได้แก่
1.การให้ยาฆ่าเชื้อที่มีคุณสมบัติตรงกับเชื้อที่ตรวจพบ โดยให้ยาทางหลอดเลือดดำ และรับประทานยาฆ่าเชื้อร่วมด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ที่จะประเมินจากชนิดของเชื้อ ความรุนแรงของอาการอักเสบ และสุขภาพทั่วไปของผู้ป่วย
2.การผ่าตัด เช่น การผ่าตัดเพื่อปลูกกระดูกใหม่ การตัดขาหากเกิดกระดูกขาอักเสบรุนแรงมากและเรื้อรัง
อย่างไรก็ตามวิธีป้องกันที่ดีที่สุด คือ
- การรักษาความสะอาดของร่างกาย และสิ่งของเครื่องใช้อยู่เสมอ
- คอยระวังอย่าให้มีดบาด หรือเกิดอุบัติเหตุจนมีแผล โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกอักเสบ
ทั้งนี้ผู้ที่มีอาการตามที่กล่าวมาข้างต้น หรือไม่แน่ใจในอาการ ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการรักษาต่อไป