COLUMNISTS

ภัยเงียบที่ผู้หญิงต้องรู้!!

Avatar photo
Longevity Inspirationist ผู้เชี่ยวชาญสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการรักสุขภาพ
2775

ปัญหา “โรคภายในผู้หญิง” ถือเป็นโรคใกล้ตัวที่สามารถขึ้นได้กับผู้หญิงทุกวัยและทุกคนโดยไม่มีสาเหตุ ไม่มีปัจจัยเสี่ยง กว่าจะรู้ตัวว่าเป็น อาการก็เริ่มที่จะหนักขึ้นแล้ว วันนี้ดิฉันจะพาสาว สาว มาทำความรู้จัก 3 โรคภายในผู้หญิง ที่มีโอกาสเป็นมากที่สุด

7B6F242E 7283 46D5 8B0C AD7916A1134E

เนื้องอกในมดลูก

ถือเป็นโรคทีเกิดในกล้ามเนื้อมดลูก ลักษณะมีเนื้องอกโตในโพรงมดลูกหรือโตเป็นก้อนนูนจามดลูก พบบ่อยในเพศหญิงอายุระหว่าง 30 – 40 ปี และส่วนใหญ่ไม่ทราบสาเหตุ ส่วนใหญ่มักเจอโดยการตรวจและพบโดยบังเอิญ ยกตัวอย่างผู้หญิง 10 คน มักพบเนื้องอกมดลูกได้ถึง 4 คน และมีถึง 30% ที่ต้องรับการรักษา อาการที่มักมาพบแพทย์ด้วยอาการปวดท้องประจำเดือน หรือ ประจำเดือนมากผิดปกติและแน่นอนผู้ที่ต้องได้รับการผ่าตัดเนื้องอก มีอาการเข้าข่ายดังต่อไปนี้

  • มีประจำเดือนมากผิดปกติ
  • มีอาการปวดท้องมาก
  • มีอาการปัสสาวะบ่อย เนื่องจากเนื้องอกไปกดทับอวัยวะข้างเคียง เช่นกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะบ่อย
  • ตรวจพบเนื้องอกโตเร็ว หรือว่าไม่เคยเจอมาก่อนขนาด 1 ซม. พอติดตามไปได้ 3 – 4 เดือน เนื้องอกโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
  • เนื้องอกที่สงสัยว่า อาจเป็นมะเร็ง
  • โรคเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่

0817CD4E 988A 4C19 9BFF 0188F2BD9E92

ถือเป็นโรคยอดฮิตสำหรับผู้หญิงเช่นกัน เป็นโรคที่ผู้หญิงวัยประจำเดือนไม่ควรมองข้าม เพราะถ้าหากเราปวดประจำเดือนมาก ๆ และปวดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงเรื้อรัง อาจเป็นสัญญาณบอกว่า เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือมีเลือดคั่งในมดลูก หากใครมีอาการดังกล่าว แนะนำปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจรักษา

การรักษาก็มีด้วยกัน 2 แบบ คือ การรักษาด้วยยา และด้วยการผ่าตัด ซึ่งการรักษาด้วยยา คือทำอย่างไรก็ได้ให้ประจำเดือนมาน้อยสุด และในกรณีที่คนไข้ไม่ต้องมีบุตรแล้ว อาจพิจารณาให้ผ่าตัดเอามดลูกออกได้ เพื่อเป็นการรักษาแบบเอารอยโรคออก แต่ในกรณีที่ผู้ป่วยยังต้องการมีบุตร สามารถทำการรักษาโดยการใช้ยากลุ่มฮอร์โมน เพื่อชะลอความรุนแรงได้ ในส่วนของการผ่าตัด “เนื้องอกในมดลูก” นั้นแตกต่างจากการตัด “มดลูกที่บวม” ซึ่งเนื้องอกจะเป็นก้อน ๆ สามารถตัดออกได้ แต่ในกรณีที่มดลูกบวม จำเป็นต้องตัดมดลูกออก

E0A5954A 7A25 4A8D B8E5 4BA392CCA20C

โรคซีสต์ในรังไข่

ซีสต์ในรังไข่ ลักษณะเป็นถุงที่เต็มไปด้วยของเหลวที่สามารถก่อตัวขึ้นได้ในรังไข่ เมื่อเกิดการตกไข่ผิดปกติ จึงทำให้เกิดการคั่งของถุงน้ำในรังไข่ เกิดการไม่ตกไข่ เกิดเป็นถุงน้ำขนาดเล็ก ๆ ในรังไข่ มีการแบ่งเซลล์มที่ผิดปกติ “ซีสต์ในรังไข่” ปกติมี 2 ชนิด ซีสต์ที่เกิดจากฮอร์โมนของผู้หญิงในทุก ๆ รอบเดือน และเป็นซีสต์ที่พบได้บ่อยที่สุด ส่วนซีสต์ที่หายเองไม่ได้ และต้องได้รับการผ่าตัด เช่น ช๊อคโกแลตซีสต์

อย่างที่บอกก่อนหน้านี้ว่า ซีสต์ในรังไข่ที่น่ากลัวคือ “มะเร็ง” เพราะไม่สามารถวินิจฉัยได้ เพียงแค่การตรวจอัลตราซาวด์ (Ultrasound) ซึ่งการที่เราจะยืนยันการวินิจฉัยโรคเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง คือ ต้องมีการตรวจชิ้นเนื้อ ไปตรวจด้วยวิธีการผ่าตัดส่องกล้องเท่านั้น ส่วน “ชอคโกแลคซีสต์” เป็นซีสต์ที่มีอาการเช่น ปวดท้องช่วงมีประจำเดือนแบบที่มากกว่าปกติ ส่วนซีสต์อื่น ๆ มักไม่แสดงอาการ โดยเฉพาะ “มะเร็ง” 80% ,ไม่แสดงอาการ แต่คนไข้มักมาหาแพทย์ด้วยอาการท้องบวมอย่างเห็นได้ชัด ท้องอืด แน่นท้อง น้ำหนักไม่ค่อยลง

เห็นแล้วใช่ไหมค่ะ 3 โรภภายในผู้หญิง และผู้หญิงอย่างเรา ๆ ต้องดูแลตัวเอง หมั่นสังเกตสิ่งผิดปกติในร่างกายเรา การตรวจสุขภาพภายในประจำปี จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม

(เครดิต : พญ. หยิงฉี หวัง – สูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดส่องกล้อง โรงพยาบาลกรุงเทพ)

#คินน์เพื่อชีวิตยืนยาวและยั่งยืน