งานวิ่งมาราธอนระดับโลก วันที่ 3 กุมภาพันธ์นี้ อย่าง วิ่งผ่าเมือง ”Amazing Thailand Marathon 2019 by Toyota” หรือ ATMBKK2019 ต้องเจอดราม่าหนัก แถบจะฝ่ามรสุมไปไม่รอดในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เพราะพิษ “ฝุ่น PM2.5” เป็นงานวิ่งเดียวที่ยังยืนหยัดจัดการแข่งขันต่อไปในวันเวลาเดิม ขณะที่บรรดานักวิ่งหลายคนที่จองซื้อหมายเลขประจำตัวนักวิ่ง (BIB) แข่งขันไปล่วงหน้า panic หนัก กลัว “ผีฝุ่น pm2.5” เทขาย BIB กันจ้าละหวั่น
แต่ความเป็นงานวิ่งระดับนานาชาติ แม่งานหลักเป็นถึงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับภาคเอกชนระดับบิ๊ก สปอนเซอร์หลัก อย่างโตโยต้า รวมถึงธนาคารกรุงเทพ เมืองไทยประกันชีวิต และโคสปอนเซอร์ อย่างมาม่า เครื่องดื่มสปอนเซอร์ ช่องโมโน 29 และบัวหลวง ซีเคียวริตี้ จัดขึ้นเพื่อโปรโมทการท่องเที่ยว ดึงดูดด้วยเส้นทางวิ่งตามถนนราชดำเนิน โดยเฉพาะโลหะปราสาท และภูเขาทอง งานบิ๊กแบบนี้ การยกเลิกย่อมเป็นเรื่องยาก ตลอดหลายวันที่ผ่านมามีการคอมเม้นท์โดยนักวิ่งถล่มทะลาย ทำนอง “ดื้อรั้น” ไม่ประกาศยกเลิกเหมือนงานวิ่งอื่น
คณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขันแก้ปัญหาด้วยการ “สร้างความมั่นใจ” โดยสื่อสารกับนักวิ่งกว่า 30,000 คนทุกวันผ่านอีเมล์อย่างที่ไม่เคยปรากฎมีงานไหนทำเช่นนี้มาก่อน เพื่อให้ทราบถึงการเฝ้าติดตามสถานการณ์ของคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร พร้อมแจ้งผลให้นักวิ่งรับทราบแบบตัวต่อตัวทุกๆวัน ซึ่งก็ปรากฎว่าค่าฝุ่นละอองดีขึ้นตามลำดับ
ประกาศล่าสุด จากการตรวจทดสอบค่า PM2.5 ล่าสุด ในช่วงเสาร์ที่ 2 กพ ช่วงเวลาแข่งขัน 00.00 – 10.00 น. ณ เส้นทางแข่งขันจริง ปรากฎว่า คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้นมาก และมีแนวโน้มที่ดีในวันต่อไป
โดยช่วงเย็นวันที่ 2 กุมภาพันธ์ก่อนการแข่งขันไม่กี่ชั่วโมง คณะกรรมการฯ ได้แจ้งให้นักวิ่งทราบ ยืนยันการดำเนินการจัดการแข่งขัน ตามกำหนดการเดิมต่อไป ขณะเดียวกันได้แจ้งถึงการเพิ่มมาตรการเฝ้าระวัง เพื่อให้การแข่งขันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และปลอดภัย แก่ผู้แข่งขันขั้น ใน 3 เรื่อง ดังนี้
1) จัดให้เครื่องตรวจวัดค่า PM2.5 พร้อมบอร์ดแจ้งตัวเลข ณ จุดให้น้ำทุกๆ 2 กม. หากคุณภาพอากาศในระหว่างแข่งขันเกินระดับมาตรฐาน เจ้าหน้าที่อาจจะพิจารณายุติการแข่งขัน และนำผู้แข่งขันขึ้นรถ Shuttle Bus กลับแอร์พอร์ตลิงค์ได้ในทันที
2) จัดให้มีฟองน้ำเพิ่มในจุดน้ำอีก 4 จุด ในกรณีที่ผู้แข่งขันมีอาการแพ้ หรืออาการทางด้านการหายใจเกิดขึ้น
3) เพิ่มจำนวนแพทย์ และผู้ควบคุมดูแลกิจกรรม (Bike Marshal) หน้ากากอ๊อกซิเจน เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (AED) เป็นต้น โดยแพทย์จะร่วมวิ่งไปกับผู้แข่งขัน ในแต่ละระยะทาง พร้อมช่วยเหลือนักวิ่ง หากมีอาการไม่ปกติเกิดขึ้น
“จึงเรียนเพื่อโปรดทราบ และขอให้ผู้แข่งขันทุกท่าน ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ และปลอดภัยที่สุด ขอแสดงความนับถือยิ่ง ในนามคณะกรรมการอำนวยการจัดงาน ATMBKK2019 “
อย่างไรก็ตามกระทรวงสาธารณสุขก็อดไม่ได้ที่จะเฝ้าติดตามงานวิ่งนี้อย่างใกล้ชิด เพราะแม้งานที่จัดโดยกระทรวงเองยังต้องยกเลิก เช่น “วิ่งทั่วไทย เพื่อโลกไร้มะเร็ง” ที่จัดขึ้นในวันเดียวกัน เพราะพิษฝุ่นเหมือนงานวิ่งหลายงานที่ต้องยกเลิกตามๆกันไป โดยย้ำให้กิจกรรมวิ่ง เพื่อสุขภาพที่หลายหน่วยงานได้กำหนดจัดในช่วงนี้ ให้ประเมินสถานการณ์ ว่ามีปริมาณฝุ่น PM2.5 ว่าอยู่ในระดับที่มีผล กระทบต่อสุขภาพหรือไม่ และไม่แนะนำให้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นขณะวิ่ง เพราะจะต้องใช้แรงในการหายใจเพิ่มขึ้น ร่างกายเหนื่อยมากขึ้น
สำหรับเส้นทาง วิ่งผ่าเมือง ที่จัดในวันที่ 3 กุมภาพันธ์นี้ ประเภทการแข่งขัน วิ่งมาราธอน ระยะ 42.195 กม. และฮาร์ฟมาราธอน ระยะ 21.10 กม.ปล่อยตัวเวลา 03.00 น. เส้นทาง ราชมังคลากีฬาสถาน การกีฬาแห่งประเทศไทย สิ้นสุดที่ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กทม.
และ ระยะ 10 กม. เส้นทางหน้าโลหะปราสาท ไปตามถนนราชดำเนิน สิ้นสุดที่อนุสาวรีย์ประชาธิไตย ปล่อยตัวเวลา 05:30 น. และระยะ 3.5 กม. เส้นทางหน้ากระทรวงเกษตร และสหกรณ์ ไปตามถนนราชดำเนิน จบที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเช่นเดียวกัน ปล่อยตัว เวลา 06:10 น. เงินรางวัลผู้ชนะเลิศสูงสุดถึง 200,000 บาท