ศึกลูกหนังชิงแชมป์เอเชีย “เอเชียน คัพ 2019” ปิดฉากลงเรียบร้อยแล้ว โดย กาตาร์ สร้างประวัติศาสตร์ผงาดคว้าแชมป์ได้เป็นครั้งแรก หลังจากรอบชิงชนะเลิศปราบ ญี่ปุ่น แชมป์เก่า 4 สมัย ได้แบบราบคาบ 3-1 เมื่อวันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
และนี่คือเกร็ดน่าสนใจหลัง กาตาร์ ก้าวขึ้นมาเป็นจ้าวเอเชีย ก่อนเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย
– นี่คือการเข้าชิงครั้งแรกของ กาตาร์ และพวกเขาได้แชมป์ทันที ขณะที่ ญี่ปุ่น พ่ายในรอบชิง เป็นครั้งแรก หลังจากก่อนหน้านี้เข้าชิง 4 หนได้แชมป์ทั้งหมด
– กาตาร์ ถือเป็นชาติที่ 9 ที่ได้แชมป์เอเชียนคัพ ต่อจาก เกาหลีใต้ (2 สมัย), อิสราเอล, อิหร่าน (3 สมัย), คูเวต, ซาอุดีอาระเบีย (3 สมัย), ญี่ปุ่น (4 สมัย), อิรัก และ ออสเตรเลีย
– กาตาร์ เป็นทีมที่ 4 ในประวัติศาตร์ ที่ได้แชมป์เอเชียน คัพ แบบคว้าชัยรวดทุกนัด (7 เกม) ต่อจาก เกาหลีใต้ (ปี 1960, แข่ง 4 ทีม), อิสราเอล (ปี 1964, แข่ง 4 ทีม) และ อิหร่าน (ปี 1968, แข่ง 5 ทีม; ปี 1972, แข่ง 6 ทีม; ปี 1976, แข่ง 6 ทีม)
– เอเชียน คัพ 2019 กาตาร์ ทำประตูรวมกันถึง 19 ลูก แต่สถิติสูงสุดยังคงเป็นญี่ปุ่น 21 ลูกที่ทำเอาไว้ในปี 2000
– ตลอดเส้นทางก่อนถึงรอบชิงชนะเลิศ (6 เกม) กาตาร์ ไม่เสียประตูเลยแม้แต่ลูกเดียว และเพิ่งจะมาเสียประตูแรกในเกมรอบชิง หลังจากที่โดน ทาคูมิ มินามิโนะ ทำสกอร์ไล่ขึ้นมาเป็น 1-2 นาที 68 เท่ากับว่า กว่า กาตาร์ จะเสียประตูแรกในทัวร์นาเมนต์เป็นเวลานานถึง 608 นาทีเลยทีเดียว หรือเกินกว่า 10 ชั่วโมง ชวดทำสถิติคว้าแชมป์แบบคลีนชีตเป็นทีมที่ 2 ต่อจากอิหร่าน(ปี 1976) อย่างน่าเสียดาย
– อาโมเอซ อาลี กองหน้าทีมชาติกาตาร์ครองตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุด 9 ประตู ซึ่งถือว่ามากสุดในประวัติศาสตร์รายการนี้ ทุบสถิติสูงสุดเดิม 8 ประตู ที่ อาลี ดาอี (อิหร่าน) ทำไว้ในปี 1996
– การปราชัยครั้งนี้ ทำให้ ฮาจิเมะ โมริยาสุ เฮดโค้ชทีมชาติญี่ปุ่น พลาดโอกาสที่จะเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้แชมป์ เอเอฟซี เอเชียน คัพ ทั้งในฐานะนักเตะและกุนซือ หลังจากเคยค้วาแชมป์สมัยเป็นผู้เล่นเมื่อปี 1992