ตลาดหุ้นสหรัฐเปิดซื้อขายวันนี้ (31 ม.ค.) ด้วยขาขึ้นของดัชนีเอส แอนด์ พี 500 และแนสแด็ก ที่ได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาหุ้นเฟซบุ๊ก แต่ดาวโจนส์ยังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากผลประกอบการของภาคธุรกิจที่น่าผิดหวังอีกจำนวนหนึ่ง ทั้งนักลงทุนยังรอดูผลการเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวล่าสุด ปรับตัวลงมา 57.93 จุด หรือ 0.23% มาอยู่ที่ 24,956.93 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับขึ้นมา 12.11 จุด หรือ 0.45% ที่ 2,693.16 จุด และดัชนีแนสแด็ก ขยับขึ้น 81.16 จุด หรือ 1.13% ที่ 7,264.24 จุด
วอลล์สตรีทอยู่ในช่วงขาขึ้นวันนี้ (31 ม.ค.) หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า จะอดทนต่อการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ บรรเทาความกังวลของนักลงทุนถึงความเข้มงวดในนโยบายการเงินที่จะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
ขณะที่ราคาหุ้นเฟซบุ๊ก ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ชั้นนำพุ่งขึ้นถึง 13% หลังจากที่บริษัทรายงานผลประกอบการรายไตรมาสสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ สะท้อนให้เห็นว่าผู้โฆษณาดิจิทัล ยังคงเดินหน้าใช้จ่ายเงินในการบริการ แม้บริษัทจะเผชิญกับเรื่องอื้อฉาวมาหลายครั้ง
เช่นเดียวกับราคาหุ้นเจนเนอรัล อิเล็กทริค (จีอี) ที่ทะยานขึ้นไป 17% หลังกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมรายใหญ่รายนี้ ทำยอดขาย และมีกระแสเงินสด ดีเกิดนคาดในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว
อย่างไรก็ดี ตลาดยังจับตาการเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ ที่จะมีขึ้นในวันนี้เป็นวันสุดท้าย ซึ่งก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ได้แสดงความหวังด้านบวกเกี่ยวกับการหารือระดับสูงครั้งนี้ แต่ยืนยันว่า จะยังไม่มีการทำข้อตกลงขั้นสุดท้าย จนกว่าเขาและประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน จะได้พบปะกันในอนาคตอันใกล้นี้
