‘ไพรินทร์’ ชี้ ‘รถแต่ง’ ปล่อยควันดำเกินมาตรฐาน สั่งกรมการขนส่งฯ ทะลวงแหล่งจูนอีซียู ถ้าพบปรับ 2,000 บาท พร้อมดำเนินคดีอาญา
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยหลังการประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับหน่วยงานในสังกัด เพื่อติดตามการแก้ปัญหาฝุ่นละออง เพิ่มมาตรการและให้ความเข้มงวดการปฏิบัติตามนโยบาย One Transport ปลอดฝุ่น 2.5 วันนี้ (31 ม.ค.) ว่า
ได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบร้านปรับจูนสมองกลในรถยนต์ (ECU) เนื่องจากร้านเหล่านี้สามารถปรับค่าความปลอดภัยของเครื่องยนต์ (Safety Factor) ให้ลดลง เช่น เพิ่มแรงม้า แรงบิด ปรับคันเร่ง ส่งผลให้รถปล่อยมลพิษเกินค่ามาตรฐาน โดยมีการติดตั้งปุ่มเปิดและปิดควันดำที่ท่อไอเสีย เพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุมควันดำจากเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ร้านปรับจูนดังกล่าวจะอยู่ตามถนนสายหลักๆ เช่น ถนนบรมราชชนนี, พุทธมณฑล เป็นต้น ดังนั้นจึงขอให้กรมการขนส่งฯ ไปตรวจสอบข้อกฎหมายว่า จะสามารถปรับและลงโทษได้อย่างไรบ้าง
งกใช้น้ำมันเครื่องเก่า ตัวการก่อ PM 2.5
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิด PM2.5 ในโครงการก่อสร้าง คือผู้รับเหมาต้องการประหยัด จึงนำน้ำมันเครื่องเก่ามากรอง แล้วนำกลับมาใช้ใหม่ แม้น้ำมันดังกล่าวจะใสเหมือนน้ำมันใหม่ แต่ความจริงไม่มีคุณสมบัติดักจับฝุ่นละอองแล้ว ทำให้เกิดปัญหาปล่อยควันดำและฝุ่นละอองตามมา
“ต้องกำชับผู้รับเหมา ห้ามใช้น้ำมันเครื่องซ้ำ เพราะสารเติมแต่ง (Additive) ในน้ำมันได้หมดไปแล้ว ขณะเดียวกันเมื่อครบกำหนด ก็ต้องกำชับให้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามเวลาด้วย” นายไพรินทร์กล่าว
ขู่พบ ‘รถแต่ง’ ปรับ 2,000 บาท
นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ได้สั่งการให้สายตรวจกรมการขนส่งฯ ออกตรวจจับรถทุกประเภท รวมถึงร้านและอู่ซ่อมรถที่ให้บริการปรับจูนกล่องอีซียูแล้ว โดยหากตรวจพบว่ารถคันไหนมีการปรับจูนในลักษณะดังกล่าวจะถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.ขนส่งทางบกฯ ข้อหาใช้รถที่ไม่ปลอดภัยต่อการใช้รถใช้ถนน มีบทลงโทษถูกปรับไม่เกิน 2 พันบาท ส่วนร้านที่ให้บริการรับดัดแปลงอีซียู อาจพิจารณาใช้กฎหมายอาญาเข้ามาดำเนินคดีในฐานะตัวการร่วม ถูกปรับในอัตรา 2,000 บาทเช่นกัน
