นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ลงพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วยนายอนุชา น้อยวงศ์ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 3 จังหวัดพิษณุโลก และนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ปราศรัยแนวนโยบายของพรรค พร้อมรับฟังความเห็นของประชาชน
นายสมศักดิ์ ปราศรัยย้ำนโยบายของพรรค จะเดินหน้าต่อยอดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้ความสำคัญกับเกษตรกร สนับสนุนอาชีพเสริม ด้วยนโยบายโคบาลประชารัฐ เดินหน้านโยบาย ส.ป.ก. โดยที่ดินจะยังคงสิทธิ์เป็นของ ส.ป.ก. แต่ประชาชนสามารถนำไปค้ำประกันทำธุรกรรมได้ การพักหนี้กองทุนหมู่บ้าน 3 ปี ไม่มีดอกเบี้ย พร้อมกับย้ำว่าการทำนโยบายต่างๆ ของพรรคมีความเข้าใจประชาชน ให้ความสำคัญเกษตรกร
นายสมศักดิ์ กล่าวว่าการลงพื้นที่ จังหวัดพิษณุโลก ทั้งเขต 3 และเขต 5 ส่วนใหญ่ที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ์ และเป็นที่ดิน ส.ป.ก. จึงต้องอธิบายถึงแนวนโยบายการแก้ปัญหาที่พรรคพลังประชารัฐ ต้องการทำให้ประชาชนมีพื้นที่ทำการเกษตรถูกต้อง
“จากการลงพื้นที่และเดินตามผลงานรัฐบาลบางส่วน ทำให้ความนิยมในตัวผู้สมัคร จังหวัดพิษณุโลก มากขึ้น มีความเป็นไปได้สูง ที่ผู้สมัครพรรคสามารถปักธง ได้” นายสมศักดิ์ กล่าว
ส่วนผลโพลที่คะแนนนิยมลดลง นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คะแนนนิยมขึ้นลงตามการขยับตัวของพรรคการเมือง มั่นใจพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ไม่มีผลกระทบ หลังวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ พรรคจะเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. และนโยบายบางส่วน จะทำให้คะแนนนิยมกลับมาเชิงบวกได้มากขึ้น
ส่วนกรณีที่พรรคพลังมีมติเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ในบัญชีของพรรค นายสมศักดิ์ กล่าวว่า พรรคไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ เพราะได้บุคคลากรสำคัญ สามารถต่อยอดนโยบายได้ทันที พล.อ.ประยุทธ์ ไม่จำเป็นต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
“ผมคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คงไม่ได้มาช่วยหาเสียง จึงไม่มีความจำเป็นต้องลาออก ที่ผ่านมาไม่มีประเพณีปฏิบัติที่ไหน การเมืองตรงข้าม รวมถึง สื่อบางช่อง วิพากษ์วิจารณ์ในแนวเลือกข้าง ผมไม่เห็นพรรคอื่นมีนโยบายที่โดดเด่น มีแต่เราที่ถูกแกล้ง ถูกใส่ร้าย จี้ถามทำไมไม่ลาออก เดี๋ยวก็ลามไปถึงนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี” นายสมศักดิ์ กล่าว
อย่างไรก็ดี ขอยืนยันว่าพรรคพลังประชารัฐไม่ใช่พรรคทหาร เพราะผู้สมัครทั้งแบบเขต และบัญชีรายชื่อ ไม่มีทหาร ส่วนการเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ มา เพราะมีผลงาน การที่ พล.อ.ประยุทธ์ มาร่วม ถือเป็นการประกันความมั่นคง และเป็นสายกลางไม่มีแบ่งสี
