Finance

เกียรตินาคินภัทรตั้งเป้าสินเชื่อปีนี้โต 8% ต่อยอดไพรเวทแบงก์

เกียรตินาคินภัทร เผยทิศทางธุรกิจปี 62 ตั้งเป้าสินเชื่อโต 8% เดินหน้าต่อยอด Private Bank เปิดตัวบริการใหม่-ผลิตภัณฑ์ลงทุนในต่างประเทศ “เอ็นพีแอล”ปรับลดลงต่อเนื่อง 6 ไตรมาส ล่าสุดอยู่ที่ 4.1%

นายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร เปิดเผยว่ากลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร หรือ KKP วางฐานอยู่ที่ 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจสินเชื่อ (Credit Business) มุ่งเติบโตด้วยกลยุทธ์ Customer Segmentation ที่จะช่วยให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการได้อย่างตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างหลากหลายมากขึ้น อีกทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและควบคุมต้นทุน

โดยปี 2561 ที่ผ่านมาสินเชื่อเติบโต 18.5% และปี 2562 ด้วยนโยบายเน้นขยายเฉพาะสินเชื่อกลุ่มที่ให้ผลกำไรเหมาะสมมากกว่าการเพิ่มยอดสินเชื่อโดยทั่วไป จึงตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 8%

ถัดมาคือ ธุรกิจ Private Bank ในปี 2561 KKP มียอดสินทรัพย์ภายใต้การให้คำแนะนำ (Asset under Advice: AUA) ที่รวมทั้งยอดเงินฝากของธนาคาร และสินทรัพย์ของลูกค้าภายใต้การบริหารที่ บลจ.ภัทร แล้ว สูงถึงกว่า 6.5 แสนล้านบาท

1 THA 5604 re

ขณะที่การแข่งขันในธุรกิจนี้เข้มข้นขึ้นทั้งจากผู้เล่นที่เป็นธนาคารขนาดใหญ่ในประเทศ และไพรเวทแบงก์ต่างประเทศที่เข้ามาตั้งสำนักงานในไทย หรือให้บริการตรงจากต่างประเทศ  KKP จึงรักษาจุดแข็งโดยนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ให้ลูกค้า เช่น บริการการลงทุนในต่างประเทศ การให้บริการการลงทุนใน Private Markets ต่างๆ การนำเสนอสินเชื่อเพื่อการลงทุนชนิดพิเศษอย่าง Lombard Loan และ PPF (Portfolio for Property Finance) การนำเสนอบัญชีเงินฝากเพื่อการลงทุนที่ให้ดอกเบี้ยสูงเหมือนเงินฝากประจำ KKPSS (KK Phatra Smart Settlement) ตลอดจนผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีความซับซ้อนและตอบโจทย์มุมมองการลงทุนได้หลากหลายจำพวก Structured Notes ต่างๆ

สุดท้ายคือด้าน ธุรกิจ Wholesale & Investment Bank ปี 2561 ถือเป็นปีที่ดีเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากบล.ภัทรได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่สำคัญระดับประเทศ ทั้งจากการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและทำรายการระดมทุนในตลาดทุน อาทิ โครงการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย ไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ ฟันด์ (TFFIF) หรือการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนเป็นครั้งแรกของ บมจ.โอสถสภา และ บมจ.พระรามเก้า

2 THA 5593 re

ส่วน บลจ.ภัทร มุ่งการบริหารกองทุนให้อยู่ในกลุ่มผู้นำอุตสาหกรรม การเพิ่มสัดส่วนกองทุนที่มีความซับซ้อนแต่ให้ผลตอบแทนสูง ควบคู่ไปกับการพัฒนาช่องทางการขายใหม่ให้มีประสิทธิภาพ

นายปรีชา เตชรุ่งชัยกุล ประธานสายตลาดการเงิน และรักษาการประธานสายการเงินและงบประมาณ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าภาพรวมการดำเนินธุรกิจ สินเชื่อของธนาคารในปี 2561 ขยายตัว 18.5% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2560 มาจากสินเชื่อในทุกประเภท ในด้านคุณภาพของสินเชื่อมีการปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่อง 6 ไตรมาสติดต่อกัน โดยมีปริมาณสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมที่ 4.1% จาก 5% ณ สิ้นปี 2560

ปี 2561 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิไม่รวมส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยเท่ากับ 6,042 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.3% เมื่อเทียบกับปี 2560 และมีกำไรเบ็ดเสร็จ 5,123 ล้านบาท ลดลง 16.2% จากความผันผวนของตลาดทุน ทางด้านอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง

Avatar photo