หลังจากปี 2560 “เวิร์คพอยท์” สร้างสถิติรายได้และกำไรสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ด้วยตัวเลขรายได้ 3,877 ล้านบาท กำไร 904 ล้านบาท ราคาหุ้นปี 2560 วิ่งไปที่ 84.25 บาท มาร์เก็ตแคป 36,973 ล้านบาท
มาในปี 2561 เวิร์คพอยท์แจ้งผลประกอบการ 3 ไตรมาสแรก (ม.ค.-ก.ย.) ทำรายได้ 2,762 ล้านบาท กำไร 422 ล้านบาท ราคาหุ้น 23.30 บาท มาร์เก็ตแคปมาอยู่ที่ 10,288 ล้านบาท
แม้ราคาหุ้นปัจจุบันลดลงในอัตราสูงเมื่อเทียบกับปี 2560 แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในปี 2561 อาจสะท้อนพื้นฐานธุรกิจที่แท้จริงและจะ “ไม่แย่ไปกว่านี้” เพราะบรรทัดสุดท้ายของรายงานผลประกอบการ เวิร์คพอยท์ ยังทำ “กำไร”
ชลากรณ์ ปัญญาโฉม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานดิจิทัลทีวี บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าช่วง 2 ปีก่อน เป็นจังหวะที่ ทีวีดิจิทัล ช่องอื่นๆ ยังไม่ผลิตรายการใหม่มากนัก บางช่องอยู่ในช่วงการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ ขณะที่เวิร์คพอยท์ เป็นผู้ผลิตคอนเทนท์ ที่พัฒนารายการใหม่ตลอดเวลา และเป็นช่วงที่รายการบิ๊ก ฟอร์แมท 2 รายการ คือ I Can See Your Voice และ The Mask Singer ได้รับความนิยมสูง ส่งผลให้เรตติ้งช่องเพิ่มขึ้น ทำให้รายได้และกำไรปรับตัวขึ้นสูงในปี 2560
ปี 2561 เป็นปีที่เวิร์คพอยท์ใช้เงินลงทุนผลิตคอนเทนท์ค่อนข้างมากราว 800 ล้านบาท จากการผลิตรายการใหม่ และมีต้นทุนค่าลิขสิทธิ์กีฬาวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลกและเอเชี่ยนเกมส์ที่เพิ่มเข้ามา แต่โดยรวม ปี 2561 ยังถือเป็นปีที่ดีของเวิร์คพอยท์ ทั้งรายได้และกำไร
“ตัวเลขปีที่ผ่านมาน่าจะเป็นพื้นฐานธุรกิจของเวิร์คพอยท์ที่จะยืนอยู่ในระดับนี้ เชื่อว่าจะไม่แย่ไปกว่านี้ และยังเป็นอีกช่องทีวีดิจิทัลที่ทำกำไรได้”
คุมต้นทุน-โฟกัสกำไร
สำหรับแผนธุรกิจ ปี 2562 เตรียมงบลงทุนคอนเทนท์ไว้ราว 600 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ใช้ไปราว 800 ล้านบาท แต่ปีนี้กันงบประมาณ 200 ล้านบาท สำหรับลงทุนร่วมกับพันธมิตรในธุรกิจใหม่ที่น่าสนใจ เป็นการ diversify จากธุรกิจเดิมของเวิร์คพอยท์ แต่ธุรกิจที่ไปลงทุนสามารถใช้จุดแข็งของเวิร์คพอยท์ด้านการเป็นสื่อโฆษณา เช่น การเข้าไปลงทุนในธุรกิจอาหาร ที่มีแนวโน้มเติบโต
ขณะที่การผลิตคอนเทนท์ปีนี้จะมี 10 รายการใหม่และบิ๊ก ฟอร์แมท แต่ต้นทุนจะลดลง เพราะไม่มีค่าใช้จ่ายจากลิขสิทธิ์กีฬา ปีนี้จะดูแลต้นทุนการผลิตให้สอดคล้องกับเรตติ้งและรายได้ โดยโฟกัสที่กำไร เป็นหลัก
ปัจจุบันรายการเรตติ้งสูง 3 อันดับแรกของช่องยังคงเป็น รายการ I Can See Your Voice, The Mask Singer และไมค์ทองคำ โดยราคาโฆษณา rate card อยู่ที่ 2-3 แสนบาทต่อนาที ส่วนราคาโฆษณาฉลี่ยทั้งช่องอยู่ที่ 7.5 หมื่นบาทต่อนาที
สำหรับรายการ The Mask Singer ที่นำเสนอต่อเนื่องมาหลายซีซัน แม้เรตติ้งไม่สูงเท่าซีซันแรกๆ แต่ถือว่ายังอยู่ในระดับที่ดี คือ เรตติ้งเฉลี่ย 3-4 สูงกว่าละครบางเรื่อง และสปอนเซอร์ยังลงโฆษณาเต็ม
“ทุกรายการจะมีการประเมินตัวเลขผู้ชมอย่างใกล้ชิด เรามีตัวเลขในใจ หากตัวเลขเรตติ้งลดลงถึงระดับหนึ่ง ก็จะมีการปรับเปลี่ยน แต่รายการ The Mask Singer ยังมีเรตติ้งที่น่าพอใจ”
ลุยโฮมช้อปปิ้งหนุนรายได้
ชลากรณ์ กล่าวว่าตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาได้ขยายธุรกิจใหม่ “โฮม ช้อปปิ้ง” ชื่อรายการ Hello Shops ออกอากาศ 9 ช่วง จันทร์-ศุกร์ และ 6 ช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ รวมวันละ 100-120 นาที โดยเป็นการยกเลิกการให้เช่าเวลากับผู้ประกอบการโฮม ช้อปปิ้งรายเดิม และเวิร์คพอยท์ นำช่วงเวลากลางวันและหลังเที่ยงคืนที่ยังว่างอยู่มาใช้ประโยชน์สร้างรายได้ให้กับช่องมากขึ้น
ธุรกิจโฮม ช้อปปิ้ง เป็นการลงทุนร่วมกับพันธมิตรเจ้าของสินค้า โดยเวิร์คพอยท์ลงทุนเวลาในทีวีดิจิทัล ส่วนพันธมิตรลงทุนสินค้า และแบ่งรายได้รวมกัน ปัจจุบันมี 5 ประเภท คือ เครื่องครัว เครื่องใช้ไฟฟ้า ไลฟ์สไตล์และการท่องเที่ยว แฟชั่น สุขภาพและความงาม หลังจากเปิดตัวปัจจุบัน Hello Shops ทำยอดขายได้วันละ 1 ล้านบาท ปีนี้เวิร์คพอยท์ ตั้งเป้าหมายรายได้ธุรกิจโฮม ช้อปปิ้ง และสินค้าสุขภาพและความงาม แบรนด์ Let Me in Beauty และ แบรนด์ Me Vio ไว้ที่ 540 ล้านบาท
ทั้งนี้ รายได้หลักของเวิร์คพอยท์ ยังมาจากธุรกิจทีวีดิจิทัลเป็นหลัก ตามด้วยสื่อออนไลน์ และธุรกิจใหม่ แต่ปีนี้ธุรกิจโฮม ช้อปปิ้ง จะขึ้นมาทำรายได้อันดับสองรองจากทีวี แต่กำไรจะน้อยกว่าสื่อออนไลน์ ที่รายได้ไม่สูง แต่ตัวเลขมาร์จิ้นดี โดยทั้งปี 2562 เวิร์คพอยท์ตั้งเป้ารายได้กว่า 3,700 ล้านบาท
จับมือ Viu ผลิตละคร “โฮะ แฟมิลี่”
ปีนี้เวิร์คพอยท์ ได้ร่วมมือเป็นพันธมิตรกับ Viu (วิว) ผู้ให้บริการวิดีโอแบบ OTT ในการผลิตซีรีส์ Viu Original (วิว ออริจินัล) เรื่อง “โฮะ แฟมิลี่” เป็นรายการแรก หลังจากก่อนหน้านี้ได้นำคอนเทนท์ละครและรายการวาไรตี้ใหม่กว่า 1,500 ตอนไปให้บริการบนแพลตฟอร์มวิว
สำหรับละคร “โฮะ แฟมิลี่” นำแสดงโดย เก้า จิรายุ และ ปันปัน เป็นคอนเทนท์แนวคอมเมดี้ จำนวน 15 ตอน โดยจะออกอากาศทางช่องเวิร์คพอยท์ในเดือนกุมภาพันธ์ ทุกวันอังคาร เวลา 21.15 น. หลังออนแอร์จบ สามารถรับชมย้อนหลังผ่านทาง Viu ได้ทันที ใน 16 ประเทศ
ซีรีส์ Viu Original เรื่อง “โฮะ แฟมิลี่” เวิร์คพอยท์รับจ้างวิว ผลิตคอนเทนท์ โดยลิขสิทธิ์เป็นของวิว ส่วนรายได้จากโฆษณาจากการออกอากาศทางช่องเวิร์คพอยท์ จะแบ่งรายได้ร่วมกับวิว โดยหลังจากนี้ยังมีแผนที่จะผลิต Viu Original ร่วมกันอีก
ธวัตวงศ์ ศิลมานนท์ กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท พีซีซีดับเบิลยู โอทีที (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มโอทีที Viu กล่าวว่าปีที่ผ่านมา วิว มียอดดาวน์โหลดแอพ 4.5 ล้านราย เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปี 2560 ที่มีจำนวน 2.3 ล้านราย จากสถิติพบว่าผู้ชมของวิว ในภูมิภาคนี้จะใช้เวลาดูวิดีโอเฉลี่ย 108 นาทีต่อวัน นิยมคอนเทนท์ซีรีและวาไรตี้ เป็นหลัก ความร่วมมือกับเวิร์คพอยท์ในการผลิต Viu Original จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านคอนเทนท์ให้แพลตฟอร์มวิวและขยายฐานผู้ชมคอนเทนท์ไทยในต่างประเทศ
