แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตีตั๋วเข้าสู่รอบเอฟเอคัพ เรียบร้อย หลังบุกไปอัดเอาชนะ อาร์เซนอล 3-1 เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 25 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นชัยชนะนัดที่ 8 ติดต่อกันสำหรับ “ปีศาจแดง” แถมเด็กเก่า “ปืนใหญ่” อย่าง อเล็กซิส ซานเชซ ยิงประตูได้ด้วย
เกร็ดที่น่าสนใจจากเกมเมื่อคืนที่ผ่านมา
- ชัยชนะเกมนี้ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีสถิติเหนือกว่า อาร์เซนอล จาก 15 ครั้งที่เจอกันในศึก เอฟเอ คัพ (ชนะ 8 ต่อ 7)
- อาร์เซนอล จอดป้ายเพียงแค่รอบ 4 เอฟเอ คัพ เป็นฤดูกาลที่สองติดต่อกัน
- 2 ประตูแรกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมนี้ห่างกันแค่ 149 วินาทีเท่านั้น และเป็นการยิงตรงกรอบสองครั้งแรกของพวกเขา
- อาร์เซนอล เสีย 3 ประตูในเกม เอฟเอ คัพ เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เกมที่แพ้ โบลตัน วันเดอเรอร์ส 1-3 คารัง ไฮบิวรี่ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1994
- แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นทีมแรกในฤดูกาลนี้ที่ยิง อาร์เซนอล ได้ถึง 3 ประตูที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
- “ปีศาจแดง” เป็นทีมที่เก็บชัยชนะที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม มากที่สุดจำนวน 6 ครั้ง (จาก 14 เกมรวมทุกรายการ) รองลงมาเป็น เชลซี ชนะ 5 จาก 15 นัด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ 4 จาก 14 นัด, แอสตัน วิลล่า ชนะ 3 จาก 11 นัด, บาเยิร์น มิวนิค ชนะ 3 จาก 4 นัด, สวอนซี ซิตี้ ชนะ 3 จาก 8 นัด
- ปอล ป็อกบา มิดฟิลด์ “ปีศาจแดง” ทำสถิติลงเล่นระดับสโมสรครบ 300 นัด (กับ แมนฯ ยูไนเต็ด 122 นัด และ ยูเวนตุส 178 นัด)
- หลังจากที่ยิงได้ในเกมนี้ เท่ากับว่าฤดูกาลนี้ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง หัวหอก “ปืนใหญ่” ทำประตูครบทั้ง 7 วันเรียบร้อย ทั้งวันจันทร์, อังคาร, พุธ, พฤหัสบดี, ศุกร์ (ล่าสุด), เสาร์ และ อาทิตย์
- โอบาเมย็อง ทำประตูให้ อาร์เซนอล ได้ตั้งแต่การลงเล่นเกมแรกทั้งในถ้วย พรีเมียร์ลีก (เจอ เอฟเวอร์ตัน), ยูฟ่า ยูโรปา ลีก (เจอ วอร์สก้า) และ เอฟเอ คัพ (เจอ แมนฯ ยูไนเต็ด)
