หลายประเทศในเอเชีย รวมถึง ไทย เกาหลีใต้ และอินเดีย เร่งหามาตรการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ ทั้งหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก ที่ล้วนแต่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บรรดาเมืองใหญ่ๆ ของเอเชีย กำลังเผชิญกับปัญหาเกี่ยวกับมลพิษทางอากาศ ที่จำเป็นต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน ขณะเดียวกันก็ต้องหาทางรักษาสมดุลระหว่างการขยายตัวทางเศรษฐกิจ กับการรักษาสภาพแวดล้อมด้วย
รายงานระบุว่า รัฐบาลไทยพยายามแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กพีเอ็ม 2.5 ( PM2.5) ในกรุงเทพมหานคร ด้วยการประกาศใช้มาตรการหลายอย่าง เช่น พ่นละอองน้ำลดฝุ่น ส่วนที่เกาหลีใต้ ซึ่งเจอกับฝุ่นละอองขนาดเล็กเยอะมากเช่นกัน ได้ประกาศห้ามรถบรรทุกเก่าที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลราว 320,000 คันวิ่งในเมือง ปิดที่จอดรถยนต์ของรัฐ แนะนำให้ประชาชนใช้ระบบขนส่งมวลชน และให้ลดชั่วโมงการก่อสร้างในแต่ละวัน
สำหรับอินเดีย ประเทศที่มีปัญหามลพิษต่อเนื่องมาหลายปีและยังไม่บรรเทาลง รัฐบาลได้ประกาศโครงการอากาศสะอาดแห่งชาติ ซึ่งเป็นแผนการดำเนินงาน 5 ปี ตั้งเป้าลดระดับมลพิษทางอากาศจากระดับเมื่อปี 2560 ลงมาให้ได้ 30% ภายในปี 2567
ปัจจุบัน กรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย ติดอยู่ในอันดับ 6 จาก 10 เมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในโลก โดยมีค่าพีเอ็ม2.5 พุ่งเกิน 300 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรในสัปดาห์นี้ ซึ่งระดับเกิน 25 ไมโครกรัมก็ถือว่าไม่ปลอดภัยแล้ว รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมอินเดียตั้งเป้าหมายลดพีเอ็ม2.5 และพีเอ็ม10 ให้ได้ร้อยละ 20-30 ภายในปี 5 ปี
ขณะจีน ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแหล่งที่มาของฝุ่นละอองขนาดเล็ก เพราะมีโรงงานเยอะทั่วประเทศ ส่งฝุ่นควันฟุ้งไปตามเมืองใหญ่ ลอยไปไกลถึงเกาหลีใต้และญี่ปุ่น รัฐบาลได้ทำมาตรการหลายอย่างทั้งทำฝนเทียม สภาพอากาศในกรุงปักกิ่งดีขึ้นเล็กน้อยแต่ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ
ก่อนหน้านี้ รายงานองค์การอนามัยโลกรายงานว่า มลพิษทางอากาศเป็นภัยสุขภาพอันดับต้นของปี 2562 คาดว่าประชาชนในโลกทุก 9 ใน 10 คน หายใจเอามลพิษเข้าไปทุกวัน และอากาศสกปรกเป็นสาเหตุให้มีผู้เสียชีวิตปีละ 7 ล้านคน