แม้ว่าปี 2562 จะมีปัจจัยลบต่อภาคอสังหาริมทรัพย์หลายปัจจัย ผู้เชี่ยวชาญหลายภาคส่วนได้ออกมาแสดงความเห็นในสัญญาณที่ต้องเฝ้าระวังต่างๆ ทั้งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในรอบ 7 ปี และมาตรการ LTV-loan to value ของธนาคารแห่งประเทศไทย ในการลดเพดานปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย มีผลให้การซื้อบ้าน-คอนโดฯ หลังที่ 2 เป็นต้นไปต้องเพิ่มเงินดาวน์ โดยจะเริ่มบังคับใช้ 1 เมษายน 2562 นี้ รวมถึงแรงกดดันจากสงครามการค้าของจีนและสหรัฐล้วนมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกโดยรวมซึ่งเชื่อมโยงมาถึงภาคอสังหาริมทรัพย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งปัจจัยลบดังกล่าวเรารับรู้กันมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2561 กันเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามครับถึงจะมีแรงกดดันเข้ามาธุรกิจก็ต้องหมุนไปตามวัฏจักร วันนี้เราจะมาพูดถึงปัจจัยที่เป็นแรงขับเคลื่อนอสังหาริมทรัพย์ปี 2562 กันบ้างครับ
ในส่วนของปัจจัยบวกที่ส่งผลดีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์นั้นแม้จะยังไม่ค่อยมีการพูดถึงในวงกว้าง แต่ก็มีหลากหลายปัจจัยที่จะสามารถกระตุ้นกำลังซื้อและการลงทุนได้อย่างน่าสนใจ ปัจจัยแรกคือแม้สถานการณ์อัตราดอกเบี้ยของไทยจะเป็นปัจจัยกดดันต่อบรรยากาศการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของไทยในปีนี้นั้นจะเริ่มผ่อนคลายลง เนื่องจากการปรับขึ้นในครั้งที่ผ่านมาเป็นการปรับขึ้นตามสถานการณ์ตลาดโลกที่มีผลต่อการเคลื่อนย้ายเงินทุน อย่างไรก็ตามล่าสุดธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาแสดงท่าทีถึงการผ่อนคลายนโยบายการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ นอกจากนี้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่เริ่มมีทิศทางคลี่คลาย จากการเริ่มผ่อนคลายของสงครามกีดกันทางการค้าของจีน-สหรัฐ ที่ล่าสุดเริ่มมีการเจรจาไปในทิศทางที่ดีขึ้น และจีนเองก็เข้าซื้อพันธบัตรของสหรัฐเพิ่ม ซึ่งทั้ง 2 ปัจจัยมีผลบวกต่อจิตวิทยาด้านการลงทุนทั่วโลก โดยจะเห็นได้จากพอเข้าปี 2562 ตลาดหุ้นทั่วโลกรวมทั้งตลาดหุ้นไทยเริ่มกลับมาคึกคัก และจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นการลงทุนด้านอื่นๆรวมถึงอสังหาริมทรัพย์
ปัจจัยถัดมาคือ การทยอยเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายต่างๆ เริ่มจากสายสีน้ำเงิน เส้นทางหัวลำโพง-บางแค ที่มีกำหนดเปิดให้บริการปี 2562 ตามเส้นทางบางซื่อ-ท่าพระ กำหนดเปิดให้บริการต้นปี 2563 ตามด้วยสายสีเขียวสะพานใหม่-คูคต ที่มีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2563 เช่นกัน รวมถึงสายอื่นๆ เช่นสายสีชมพูและสายสีเหลือง ที่มีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2564 แน่นอนว่าการคมนาคมที่สะดวกนั้น ย่อมส่งผลให้เกิดการกระจายที่อยู่อาศัยไปยังชานเมือง ผลดีก็จะตกอยู่ที่ผู้บริโภค เพราะสามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยในราคาที่จับต้องได้ แม้จะอยู่ในพื้นที่ชานเมือง แต่ก็สามารถเดินทางเข้าสู่พื้นที่ใจกลางเมืองได้สะดวกมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เร่งออกโปรโมชั่นช่วยลดภาระให้กับลูกค้าอย่างหลากหลาย เช่น การมอบส่วนลดสำหรับลูกค้าที่ทำการโอนก่อนวันที่ 1 เมษายน 2562 ที่ล่าสุดเราก็ได้
เห็นหลายค่ายออกโปรโมชั่นส่วนลดพิเศษสูงสุดหรือฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน และสถาบันการเงินบางแห่งยังออกมาตรการดอกเบี้ยคงที่นานถึง 10 ปี รวมถึงโปรโมชั่นจากค่ายอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่มอบส่วนลดสูงสุดถึง 50% ซึ่งการออกมาตรการช่วยเหลือแบบนี้ทำให้ช่วงต้นปี 2562 กลายเป็นช่วงนาทีทองสำหรับ real demand ที่สามารถเลือกซื้อของดีในราคาที่ไม่ค่อยจะได้เห็นการจัดโปรโมชั่นแบบจัดเต็มเช่นนี้กันบ่อยๆ และยังถือเป็นช่วงที่ดีสำหรับนักลงทุนที่มีเงินเย็นในมือที่จะได้ซื้อของราคาดีเก็บไว้ เมื่อเศรษฐกิจและบรรยากาศการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัว ก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนเป็นกำไรจำนวนมากจากส่วนต่างของราคาที่เพิ่มขึ้น
และอีกปัจจัยหนึ่งที่น่าสนใจคือ การร่วมมือกันของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งในปีนี้ก็จะได้เห็นผู้ประกอบการชาวไทยจับมือกับผู้ประกอบการต่างชาติมากขึ้น อาจจะในรูปแบบของการร่วมทุนหรือดีไซน์ ต่างๆ ซึ่งก็จะทำให้เกิดความแปลกใหม่ และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับนักลงทุนชาวต่างชาติในการตัดสินใจซื้อได้ดีขึ้น
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงปัจจัยขับเคลื่อนอสังหาริมทรัพย์ส่วนหนึ่งที่หยิบมาเล่าให้ฟัง ซึ่งน่าจะช่วยให้นักลงทุนหรือผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยได้มีข้อมูลรอบด้านเพื่อนำมาพิจารณาวางแผนซื้อได้อย่างรัดกุมยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามเราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าปี 2562 เป็นปีที่ต้องใช้ความรอบคอบในการตัดสินใจซื้อหรือลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ แต่ก็ยังมีปัจจัยบวกอื่นๆ ที่ช่วยขับเคลื่อนตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้ยังเติบโตต่อไปได้ และในทุกๆวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ แม้ว่าบรรยากาศการซื้อขายที่อยู่อาศัยในปีนี้จะไม่คึกคักร้อนแรงจากมาตรการของรัฐ แต่ในอีกแง่หนึ่งก็นับว่าเป็นการลดความร้อนแรงจากการซื้อเก็งกำไรเกินจริงของนักลงทุน ซึ่งผู้บริโภคก็จะได้ประโยชน์ในการซื้อของดีในราคาที่สมเหตุสมผลมากขึ้น แต่ต้องมีการวางแผนการเงินอย่างรอบคอบและศึกษาข้อมูลให้รอบด้านครับ
