“กรุงเทพโพลล์” ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยผลสำรวจเห็นประชาชน เนื่องในโอกาสวันแรงงานแห่งชาติ เรื่อง “ความในใจของแรงงานไทย 4.0” โดยเก็บข้อมูลกับผู้ใช้แรงงาน ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 1,045 คน พบว่า ผู้ใช้แรงงานส่วนใหญ่ 64.3% รับทราบการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศเป็น 308- 330 บาท ตามที่รัฐมีมติ ปรับขึ้นเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา ขณะที่ 35.7% ยังไม่ทราบ
โดย 59.6% ระบุว่า ได้รับค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้นแล้ว แต่ 40.4% ยังไม่ได้รับ, ซึ่ง 52.7% มีความสุขกับการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 2 ปี ติดต่อกัน อยากให้ขึ้นแบบนี้ทุกๆปี ส่วน 35.7% รู้สึกเฉยๆ ไม่ได้ทำให้ความเป็นอยู่ดีขึ้น แต่ 11.6% รู้สึกแย่ คิดว่าน่าจะขึ้นมากกว่านี้ ขณะที่แรงงาน 62.3% อยากกลับไปทำงานที่บ้านเกิด หลังการขึ้นค่าแรงขึ้นต่ำไปทั่วทุกภูมิภาค ขณะที่ 37.7% ไม่อยากกลับ เพราะใน กทม. และปริมณฑลมีสวัสดิการดีกว่า
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้แรงงาน 39.9% ระบุ ค่าแรงขั้นต่ำ ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ต้องกู้ยืมเพิ่ม ขณะที่ 30.9% ระบุว่า เพียงพอกับค่าใช้จ่ายและมีเงินเก็บออม ส่วน 29.2% ระบุว่า พอดีกับค่าใช้จ่าย แต่ไม่มีเงินเหลือเพื่อเก็บออม ขณะเดียวกัน 85.5% กังวลว่า หลังจากการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 2 ปีติดต่อกัน ข้าวของจะราคาแพงขึ้น เพราะต้นทุนผู้ประกอบการสูงมากที่สุด รองลงมา 25.1% กังวลว่าค่าแรงขั้นต่ำจะไม่ขึ้นอีกหลายปี และ 19.8% กังวลว่าแรงงานต่างด้าวเข้ามาแย่งงาน
