Economics

‘ยูนิลีเวอร์’ ส่ง ‘โรเบิร์ต’ แม่ทัพใหม่ขยายตลาดไทย

32 2

นายโรเบิร์ต แคนเดลิโน ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ในประเทศไทย เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจหลังรับตำแหน่งครบ 1 ปีว่า ในปีนี้ยังคงมุ่งขยายตลาดในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่เราเป็นผู้นำตลาดใน 7 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ซักผ้า ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผม ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกาย ผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจาน ผลิตภัณฑ์โจ๊ก ผลิตภัณฑ์ไอศกรีม และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกาย โดย 99% ของ 24.7 ล้านครัวเรือนในประเทศไทยใช้ผลิตภัณฑ์ยูนิลีเวอร์ โดยมีอัตราการซื้อซ้ำสูงถึง 99% และใช้ผลิตภัณฑ์ยูนิลีเวอร์ 3 ครั้งต่อวัน

“วันนี้อัตราการบริโภคสินค้าเราสูง 99.2% สิ่งที่ผมอยากรู้ก็คืออีก 0.8% ที่เหลือยังไม่ใช้สินค้าเราอยู่ตรงไหน คนไทยใช้ผลิตภัณฑ์เรา 3 ครั้งต่อวัน และที่ดีที่สุดคือมีอัตราการซื้อซ้ำสูงถึง 99%”

ทั้งนี้ กลุ่มยูนิลีเวอร์ ได้ประกาศเป้าหมาย “Unilever Thailand 2022 Growing Together” นำแผนการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืน ขับเคลื่อนตลาดเมืองไทยให้เติบโต พร้อมพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยกลยุทธ์ 3Ps 1) Purpose สร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างมีเป้าหมาย 2) People เติมคุณค่าให้บุคลากร 3) Performance ศักยภาพทางธุรกิจขององค์กร

34

อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาส 2 จะมีนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และแคมเปญใหม่ออกสู่ตลาด ประกอบด้วย คอมฟอร์ท กับครั้งแรกที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ซักผ้า และโดฟ กับแคมเปญใหม่ “Love Your Hair” ที่ให้ผู้หญิงมั่นใจในความงามของตัวเอง เพื่อเพิ่มอัตราการบริโภคให้สูงขึ้นในแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์ และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน

สำหรับภาพรวมในไตรมาสแรกที่ผ่านมานั้น บริษัทมีผลประกอบการที่เติบโตได้ดีกว่าที่ประเมินไว้ เนื่องจากสินค้าใหม่ที่ได้เปิดตัวไปได้รับผลตอบรับที่ดี แม้ว่าสภาพตลาดอาจจะยังเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงหลายด้าน และมีความยากในการทำตลาดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสื่อโฆษณาที่เปลี่ยนแปลงไป ช่องทางการจัดจำหน่ายเปลี่ยนไปจากเดิม และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย ไม่นับรวมสภาพสังคมและการเมืองที่เป็นปัจจัยต่อสภาพตลาด

33 1

“การที่ยูนิลีเวอร์มีเป้าหมาย ทำให้สามารถฝ่าฝันไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ได้ เพราะเรามีความชัดเจน ในปีที่ผ่านมากลุ่มอาหารและไอศกรีมทำได้ดีมาก โดยเฉพาะแซนวิสและโจ๊กที่เติบโตดีมาก กลุ่มเพอร์ซันนอลแคร์เติบโตในกลุ่มบำรุงผิวหน้า แบรนด์พอนด์ ส่วนโฮมแคร์ก็ยังมีโอกาสสร้างการเติบโตได้อีกมาก เราต้องยอมรับว่าโมเดลการดำเนินธุรกิจของรีเทลเปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อ 30-40 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีร้านสะดวกซื้อ วิถีชีวิตผู้บริโภคก็เปลี่นไปจากเดิม สิ่งสำคัญเราจะต้องเจอเขาในเวลาที่เขาต้องการสินค้า ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าหรือหน้าจอคอมพิวเตอร์และต้องติดตามพฤติกรรมเขาให้ทัน”

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK