Politics

พปชร.ประกาศนโยบายรายวัน โคบาลประชารัฐ-พักหนี้ 3 ปี

แกนนำ”พปชร.” ลุยอีสานต่อเนื่อง เปิดตัวผู้สมัครกาฬสินธุ์ ชูนโยบาย “โคบาลประชารัฐ – พักหนี้ให้ประชาชน 3 ปี” ยันกระแสเหนือ-อีสานแรง

S 22168235

วันนี้ (23 ม.ค.) แกนนำพรรคพลังประชารัฐ  (พปชร.) ทั้งนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์ภาคอีสาน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง นายอนุชา นาคาศัย ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ภาคกลาง และนายเอกราช ช่างเหลา กรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้งจังหวัดขอนแก่น ลงพื้นที่ภาคอีสาน ที่อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ และเปิดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. จังหวัดกาฬสินธุ์ ทั้ง 5 เขต คือ นายฉลอง ฆารเลิศ เขต 1 นายชานุวัฒน์ วรามิตร เขต 2 นายจำลอง ภูนวนทา เขต 3 ดร.สิทธิศักดิ์ พัฒนชัย เขต 4 และนายนิพนธ์ ศรีธเรศ เขต 5

เสนอนโยบาย”โคบาลประชารัฐ-พักหนี้ 3 ปี”

นายสมศักดิ์ ขึ้นเวทีปราศรัยว่า พรรคพลังประชารัฐ กำหนดนโยบาย “โคบาลประชารัฐ” หรือการแจกวัวให้กับประชาชนใช้ประกอบอาชีพ เป็นนโยบายหลัก ที่จะทำให้กับประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะภาคอีสานเท่านั้น แต่จังหวัดอื่นๆก็สามารถดำเนินการได้

“ข้อกังวลในการแจกวัวพร้อมกันทั่วประเทศ ต้องบอกว่าการแจกพร้อมกันทั่วประเทศ คงเป็นไปไม่ได้ เพราะแม่พันธุ์วัวต้องจัดหา เนื่องจากจะไม่พยายามนำมาจากที่อื่น ตรงนี้เป็นเรื่องต้องค่อยเป็นค่อยไป ส่วนตัวมั่นใจว่า สามารถเป็นอาชีพเสริม และพัฒนาเป็นอาชีพหลักได้”

ขณะที่ นายสุริยะ กล่าวในเวทีเดียวกัน เวลานี้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน จากความยากจน และจากความวุ่นวายที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อปากท้องของประชาชน แนวคิดนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ จึงเน้นช่วยเหลือประชาชน และถ้าเลือกพลังประชารัฐ ก็จะทำทุกทางในการพักหนี้ให้ประชาชน 3 ปี โดยไม่เสียดอกเบี้ย

คะแนนนิยมภาคเหนือ-อีสานแรง

จากนั้น นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า คะแนนนิยมในภาคเหนือ ดีกว่าทุกสมัยที่มีการเลือกตั้ง เพราะประชาชนมีความเข้าใจ ดังนั้น วันนี้ไม่มีพรรคการเมืองหลักที่ยึดภาคเหนือเหมือนเดิมแล้ว เนื่องจากการเมืองในภาคเหนือเปลี่ยนแปลงไปมาก เชื่อว่าในภาคเหนือเราจะได้ผู้แทนจำนวนมาก เพราะผู้สมัครที่ตอนแรกคิดว่า จะไม่ได้รับชัยชนะ แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปหลายเขต ทำให้มีความมั่นใจมากขึ้น

ส่วนที่มีการมองว่ากระทรวงมหาดไทย ออกคำสั่งมาทำให้ พวกตนได้เปรียบนั้น ยืนยันว่ากระทรวงมหาดไทยออกคำสั่งแต่ละฉบับดูเหมือนเราเสียเปรียบด้วยซ้ำไป แต่ไม่คิดเรื่องการได้เปรียบเสียเปรียบ และจะไม่โอดครวญ แต่จะอดทนเดินหน้าสู่เป้าหมาย

ขณะที่ นายสุริยะ ให้สัมภาษณ์ว่า การลงพื้นที่ภาคอีสาน 3 วันที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากประชาชน ทำให้เห็นได้ชัดว่าคะแนนนิยมดี ส่วนที่พรรคเพื่อไทย เจ้าของพื้นที่เร่งลงพื้นที่เช่นกันนั้น เราคิดว่าพรรคเพื่อไทย เป็นที่ชื่นชอบของภาคอีสานมาตลอด แต่สิ่งที่พรรคพลังประชารัฐต้องทำคือ เสนอนโยบายที่ดีกว่าพรรคเพื่อไทย และสามารถตอบสนองชาวอีสานได้ดีกว่า

โดยขณะนี้เรามีความพร้อมในภาคอีสาน โดยได้ทำตามข้อกำหนดรัฐธรรมนูญที่ต้องตั้งสาขาพรรค และมีตัวแทน ซึ่งพรรคพลังประชารัฐ เสนอให้กกต.ครบแล้ว

ลงพื้นที่ให้หนักหวังกวาดคะแนนเสียง

เมื่อถามถึงกรณีถูกประเมินว่าพลังประชารัฐ ไม่ได้ส.ส.ตามที่ตั้งเป้าไว้ นายสุริยะ กล่าวว่า การที่มีคนมาประเมิน ทำให้ต้องทำงานหนักขึ้น ทั้งผู้บริหารพรรค ผู้สมัคร ต้องลงพื้นที่ และอธิบายประชาชน ว่าพรรคพลังประชารัฐ สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างไร ซึ่งถือเป็นการเตือนให้ต้องทำงานหนักขึ้นและไม่ประมาท

“การถูกโจมตี ไม่ได้ทำให้ผมท้อ เพราะที่ตัดสินใจมาเล่นการเมืองอีกครั้ง ก็เพื่อต้องให้ประเทศ สามารถก้าวข้ามความขัดแย้ง เมื่อมีเสียงโจมตีก็ไม่ท้อ และทำให้มีกำลังใจทำงานหนักมากขึ้น” นายสุริยะ กล่าว

กรณีที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย ประกาศว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการแข่งขันกันระหว่างประชาธิปไตยและเผด็จการ โดยพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย ต้องได้อย่างน้อย 375 เสียง

นายสุริยะ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย พยามยามโจมตีพรรคพลังประชารัฐ ว่าสนับสนุนเผด็จการ แต่ข้อเท็จจริงประชาชนทราบดีว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามาเกิดจากพรรคเพื่อไทย เสนอพรบ.นิรโทษกรรมสุดซอย ทำให้ประชาชนต่อต้าน และเกิดวิกฤติการเมือง เศรษฐกิจเสียหาย พล.อ.ประยุทธ์ จึงจำเป็นต้องออกมา เพื่อให้ประเทศ สู่ความสงบ และเมื่อสงบแล้ว ก็คืนประชาธิปไตยให้ ซึ่งยืนยันฝ่ายตนเองก็อยู่ฝ่ายประชาธิปไตย

Avatar photo