Politics

รัฐบาลไฟเขียวเข็นกฎหมาย 3 ฉบับ

กอบศักดิ์ ภูตระกูล

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล (กขร.) เห็นชอบขับเคลื่อนร่างกฎหมายสำคัญ 3 ฉบับ ประกอบด้วย ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองสัญญาขายฝากที่ดินเพื่อเกษตรกรรมหรือที่อยู่อาศัย เนื่องจากปัญหาความยากจน ขาดแคลนเงินรองรับปัญหาฉุกเฉิน จึงต้องกู้เงินนอกระบบ โดยใช้ที่ดิน ที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันในสัญญาขายฝาก และเมื่อผิดสัญญาทั้งแบบไม่ได้ตั้งใจหรือจงใจกระทำจากนายทุน ทำให้ที่ดินจำนวนมากตกไปอยู่ในมือนายทุน เช่น การจงใจผิดนัดของนายทุนเมื่อต้องชำระ กลับเดินทางไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ ทำให้ลูกหนี้ชำระเงินไม่ทันตามกำหนด หรือการทำสัญญาเพิ่มเติมภายหลัง เพื่อหวังยึดที่ดิน

ทั้งนี้ ปัจจุบันไทยมีพื้นที่เกษตรกรรมจำนวน 150 ล้านไร่ ครึ่งหนึ่งจำนวน 70 ล้านไร่เกษตรกรต้องเช่าทำกิน และสัดส่วน 30 ล้านไร่อยู่ระหว่างจำนองกับเจ้าหนี้นอกระบบ จำนวนนับแสนไร่ได้ขายฝากซึ่งมีโอกาสหลุดมือถูกยึดที่ดินสูงมาก เพราะนายทุนมักจะอาศัยช่องโหว่กฎหมายขอเปลี่ยนสัญญาเพื่อเปลี่ยนกรรมสิทธิ์ ส่วนใหญ่มักไม่หวังดอกเบี้ยเงินกู้แต่หวังยึดที่ดินจากชาวบ้าน

“รัฐบาลจึงถือเป็นวาระเร่งด่วนต้องดำเนินการแก้ปัญหาโดยเร็ว สาระกฎหมายดังกล่าวจึง กำหนดให้การขายฝากต้องมีนิติกร เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน ช่วยดูแลสัญญาตรวจตราความถูกต้อง กำหนดให้ชัดเจนทั้งวันไถ่ถอน แหล่งที่อยู่ และหากเปลี่ยนแปลงสัญญาเพิ่มเติมภายหลังถือว่าสัญญาเป็นโมฆะ ระยะเวลากำหนดไถ่ถอน 1 ปี ถึง 1 ปี 6 เดือน ไม่ใช่ต้องชำระทุก 3 เดือน เพราะมองว่าระยะสั้นเกินไป หากหากเจ้าหน้าอ้างว่าไม่อยู่เมื่อครบกำหนด ให้นำเงินที่เตรียมชำระหนี้ไปแจ้งต่อ อบต. ในพื้นที่ ระบุในเอกสารว่าเตรียมพร้อมชำระไม่ได้ผิดนัด เพื่อค้มครองรายย่อยไม่รู้กฎหมาย” นายกอบศักดิ์ กล่าว

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมเห็นชอบแก้ไข พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 เพราะบังคับใช้นานกว่า 70 ปี เปิดทางให้ชาวบ้าน ทำสวนป่า ปลูกป่าไม้มีค่า ที่เป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญในที่ดินกรรมสิทธิ์ของตนเอง เช่น ไม้สัก ไม้พยูง ชิงชัน ยางนา และไม้มีค่าสำคัญอีกหลายประเภท เพราะเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญ สร้างรายได้ให้ชุมชน สวนป่าจะเป็นเงินออมได้ในระยะยาว รองรับนโยบายธนาคารต้นไม้ การปลูกป่าชุมชน ปลูกเพื่อเป็นสินทรัพย์ตัดขายเมื่อต้องการใช้เงินโอกาสสำคัญ เพราะปลูกได้ในพื้นที่กรรมสิทธิ์ เนื่องจากปัจจุบันพื้นที่ป่าไม้มีจำนวน 2 ล้านไร่ แต่มีความต้องการไม้มีค่า 58 ล้านลูกบาศก์เมตร และในอีก 60 ปีข้างหน้ามีความต้องการไม้สูงถึง 160 ล้านลูกบาศก์เมตร ร่างกฎหมายทั้งสองฉบับคาดว่าเสนอ ครม.พิจารณาได้ในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า คาดว่าบังคับได้ช่วงปลายปีนี้

และที่ประชุมเห็นชอบผลักดันร่าง พ.ร.บ.รัฐบาลดิจิทัล พ.ศ. เพื่อปฏิรูปและเปลี่ยนแปลงส่วนราชการ อำนวยความสะดวกในการขออนุญาต การชำระเงินออนไลน์ การให้บริการแก่ประชาชน ด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลหน่วยงานรัฐทุกส่วน รวบรวม การตั้งให้สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สรอ. ภายใต้กำกับดูแลของสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นหน่วยงานเคลียริ่งเฮ้าข้อมูลกลาง เพื่อเปลี่ยนการบริหารระบบราชการในยุคดิจิตอล ทั้งพาสปอร์ต บัตรประชาชน ใบอนุญาตต่างๆ จะให้บริการแบบทันสมัย คาดว่าอีก 1 เดือนเสนอ ครม.พิจารณาได้

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK