Economics

หวั่นโดนแขวน!! ไฟเขียวเพิ่มทุน ‘นกแอร์’ 908 ล้าน

ผู้ทุนหุ้นไฟเขียว! เพิ่มทุน “นกแอร์” 908 ล้านบาท ป้องกันหุ้นโดนแขวน ด้าน “ประเสริฐ” ลั่นถึง “การบินไทย” ทิ้งหุ้นก็ต้องอยู่ให้ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 ม.ค.) บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK ได้จัดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2562 ในเวลา 14.00 น. เพื่อเพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัท

นายประเวช องอาจสิทธิกุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วันนี้ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนสายการบินนกแอร์อีก 908,799,918 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 2,499,249,882 บาท เป็น 3,408,409,800 บาท มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท

ประเวช2

โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 908,799,918 หุ้น เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้นที่แต่ละรายถืออยู่ (Rights Offering) ในราคาหุ้นละ 2.75 บาท อัตราส่วนในการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน 2.5 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน

“บริษัทมีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มทุน เพื่อให้มีเงินทุนเพียงพอรองรับแผนการดำเนินธุรกิจ เช่น การปรับปรุงฝูงบิน รวมทั้งขยายเส้นทางและเครือข่ายการบิน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของบริษัทให้สูงขึ้น ท่ามกลางภาวะที่ตลาดมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง โดยนกแอร์จะเร่งดำเนินการแผนลดค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้ และเร่งปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้รักลงทุนและผู้ที่เกี่ยวข้อง” นายประเวชกล่าว

ผู้ถือหุ้นสามารถจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม-6 กุมภาพันธ์ 2532 ถ้าหากมีหุ้นเหลือจากการจัดสรรในรอบแรก ก็จะจัดสรรให้ผู้ถือหุ้นที่ต้องการจองซื้อเกินสัดส่วนการถือหุ้น ในราคาเดียวกันต่อไป จนกว่าจะหมดความต้องการ

สำหรับกรณีที่นกแอร์ตั้งราคาเพิ่มทุนที่หุ้นละ 2.75 บาท สูงกว่าราคาตลาดนั้น นายประเวชกล่าวว่า คณะกรรมการ (บอร์ด) กำหนดราคานี้ เพราะเห็นว่าเป็นราคาที่ดึงดูดนักลงทุนรายใหญ่และเป็นประโยชน์จากผู้ถือหุ้นรายย่อย เนื่องจากไม่ส่งผลกระทบต่อมูลค่าหุ้นของผู้ที่ไม่สนใจเพิ่มทุนตามมากเกินไป

S 75538436

นายประเวชกล่าวว่า เงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนดังกล่าว จะนำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน ลดภาระหนี้สิน และนำมาใช้ในการรองรับแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัท โดยนกแอร์จะติดตามและสร้างความมั่นใจให้ผู้ถือหุ้น เพื่อทำให้การเพิ่มทุนครั้งนี้ประสบความสำเร็จด้วยดี

สำหรับการดำเนินงานในปี 2562 นกแอร์ตั้งเป้าจะบรรลุเป้าหมายในการหยุดขาดทุน เนื่องจากบริษัทควรหยุดขาดทุนตั้งแต่ปี 2561 แต่ปัญหาน้ำมันราคาสูงจากสงครามการค้าและตลาดจีนหดตัว ส่งผลให้ต้องเลื่อนเป้าหมายการหยุดขาดทุนมาในปี 2562 แทน โดยคาดว่าจะหยุดการขาดทุนได้เร็วสุดในช่วงสิ้นปีนี้

เบื่องต้นนกแอร์ตั้งเป้าหมายจะหยุดขาดทุนให้ได้ 3 ไตรมาส จากนั้นจะเข้าสู่แผนฟื้นฟูเฟสที่ 2 คือสร้างเสถียรภาพและเฟสที่ 3 สร้างการเติบโตต่อไป

แนวทางการหยุดขาดทุน คือ การเพิ่มรายได้ ด้วยการเพิ่มโค้ดแชร์และความร่วมมือกับสายการบินนกสกู๊ตมากขึ้นในปีนี้, เพิ่มเส้นทางอินเดียเพื่อชดเชยตลาดจีนที่หดตัว รวมถึงเปิดเส้นทางในตลาดญี่ปุ่น เช่น ฮิโรชิม่า และลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อเพิ่มความร่วมมือกับสายการบินไทยในนามไทยกรุ๊ป

ขณะเดียวกันก็ดำเนินการลดค่าใช้จ่าย ด้วยการเร่งปลดระวางเครื่องบิน ATR 2 ลำ เพื่อลดเครื่องบินให้เหลือ 2 แบบ ได้แก่ โบอิ้ง 737 จำนวน 15 ลำและเครื่องบิน Q800 จำนวน 8 ลำ เพื่อลดต้นทุนด้านฝูงบิน นอกจากนี้ตั้งเป้าจะลดค่าใช้จ่ายภาคพื้นลง 25-33% และลดค่าใช้จ่ายด้านการซ่อมบำรุงด้วย

S 75538440

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานกรรมการ บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเพิ่มทุนรอบนี้มีความสำคัญมาก เพราะนกแอร์มีส่วนทุนติดลบตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ปี 2561 ถ้าหากไม่เพิ่มทุนเพื่อทำให้ส่วนทุนเป็นบวก ก็จะทำให้หุ้นถูกขึ้นเครื่องหมาย SP และไม่สามารถซื้อขายได้

สำหรับกระแสข่าวที่สายการบินไทย ผู้ถือหุ้นอันดับ 2 จะขายหุ้น 21.8% ในสายการบินนกแอร์นั้น นายประเสริฐกล่าวว่า ประเด็นนี้ขึ้นอยู่กับการบินไทย เพราะเป็นนโยบายของผู้ถือหุ้นเอง แต่ไม่ว่าสายการบินไทยจะถือหรือไม่ถือหุ้น นกแอร์ก็ต้องดำรงสถานะให้ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ถือหุ้นบางส่วนแสดงความคิดเห็นต่อที่ประชุมว่า การกำหนดราคาเพิ่มทุนที่ 2.75 บาทต่อหุ้น ไม่จูงใจให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยเข้าซื้อ เนื่องจากราคาดังกล่าวสูงกว่าราคาตลาด โดยวันนี้ราคาขายหุ้น NOK ตอนปิดตลาดอยู่ที่ 2.32 บาทต่อหุ้น

Avatar photo