คณะกรรมการขนส่งทางบกกลางเบรกขึ้นค่าโดยสารรถเมล์-รถทัวร์ยาว 3 เดือน หวั่นประชาชนหันไปซื้อรถ ซ้ำเติมปัญหาฝุ่นละอองในกรุงเทพฯ พร้อมสั่งรถโมบายตรวจมลพิษรถเก๋ง พบควันดำโดนโทษทันที
นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางที่มีนายกริชเทพ สิมลี รองปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน วันนี้ (18 ม.ค.) ว่า คณะกรรมการฯ มีมติให้ชะลอการปรับขึ้นค่าโดยสารรถสาธารณะทุกประเภทออกไปเป็นเวลา 3 เดือน จากวันที่ 21 มกราคม 2562 เป็นวันที่ 22 เมษายน 2562
มติดังกล่าวครอบคลุมรถโดยสารสาธารณะ 4 ประเภท ได้แก่ รถโดยสารประจำทางขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.), รถร่วมบริการ ขสมก. (รถเมล์เอกชน), รถโดยสารของบริษัท ขนส่ง จำกัด (รถทัวร์ บขส.) และรถร่วมบริการ บขส. (รถทัวร์ บขส.)
สาเหตุที่คณะกรรมการฯ ตัดสินใจชะลอการปรับค่าโดยสาร เนื่องจากปัจจุบันพื้นที่เขตกรุงเทพฯ, ปริมณฑล และภูมิภาค ประสบปัญหาฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน ส่วนหนึ่งเกิดจากมีการใช้รถยนต์จำนวนมาก โดยเฉพาะรถยนต์ส่วนบุคคล กระทรวงคมนาคมจึงต้องการส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้รถโดยสารสาธารณะมากขึ้น
“หากมีการอนุมัติให้ปรับขึ้นค่าโดยสารรถสารสาธารณะ จะทำให้ประชาชนหันไปใช้รถยนต์ส่วนบุคคลมากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาฝุ่นละออง รวมทั้งการใช้รถส่วนตัวยังทำให้เกิดปัญหาจราจรติดขัดอีกด้วย” นายพีระพลกล่าว
การคงค่าโดยสารรถทัวร์ซึ่งวิ่งระหว่างจังหวัดไว้ในอัตราเดิม ยังเป็นการช่วยเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติในภูมิภาค ให้ได้เดินทางเข้ามายังกรุงเทพฯ หรือกลับบ้าน เพื่อไปดูแลบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยพิบัติได้ด้วย
นายพีระพล กล่าวต่อว่า ในช่วงนี้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงยังมีความผันผวนและยังมีแนวโน้มปรับลดลง จึงยังไม่เหมาะสมที่จะมีการปรับขึ้นค่าโดยสารในขณะนี้ ขณะเดียวกันคณะกรรมการฯ เตรียมเสนอให้กระทรวงคมนาคม ขอให้บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ขยายกรอบเวลาการอุดหนุนเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติอัด (CNG) ในอัตรา 6.02 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิมจะสิ้นสุดในเดือน มีนาคม 2562 เป็นจนถึงวันที่ 21 เมษายน 2562
สำหรับกรณีที่หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมมีการชะลอการปรับขึ้นราคาค่าโดยสารครอบคลุมไปถึงรถทัวร์ ซึ่งเป็นรถที่วิ่งให้บริการในต่างจังหวัดด้วยนั้น จากการตรวจสอบพบว่าขณะนี้ปัญหาฝุ่นละอองได้เริ่มแพร่ขยายไปยังพื้นที่ต่างจังหวัดหลายแห่งแล้ว ทำให้ต้องเร่งหามาตรการดึงดูดให้คนหันมาใช้รถโดยสารสาธารณะเช่นกัน
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายกังวลว่าการชะลอการปรับขึ้นค่าโดยสารครั้งนี้ อาจจะทำให้รถร่วมฯ ขสมก. หยุดวิ่งให้บริการ เนื่องจากไม่สามารถแบกภาระขาดทุนได้นั้น ขณะนี้ได้สั่งการให้กรมการขนส่งฯ ไปหาแนวทางในการเตรียมรับมือและแก้ไขปัญหาแล้ว
อย่างไรก็ตาม เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองจากรถยนต์ส่วนบุคคล คณะกรรมการฯ ยังสั่งการให้คณะผู้ตรวจกรมการขนส่งฯ นำรถโมบายเคลื่อนที่ออกไปสุ่มตรวจรถควันดำ โดยใช้มาตรฐานของกรมควบคุมมลพิษหากพบก็จะถูกดำเนินคดีทันที
นายประยูร ช่วยแก้ว รักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เปิดเผยว่า เนื่องจากปัจจุบันกรุงเทพฯ กำลังประสบปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เพิ่มสูงขึ้น เกินเกณฑ์มาตรฐานในหลายพื้นที่ ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ดีเซล และการก่อสร้างโครงการต่างๆ
ขสมก. จึงขอชะลอการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารรถทุกประเภท ทั้งรถเมล์ร้อน รถเมล์แอร์ และรถเมล์เอ็นจีวีใหม่ 489 คันออกไปก่อน เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้บริการรถโดยสารสาธารณะแทนรถยนต์ส่วนบุคคลมากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยมลพิษ และฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีผลต่อสุขภาพของประชาชน
