เคนยายืนยันยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุโจมตีโรงแรมหรู ไนโรบี ดุสิตดีทู และอาคารใกล้เคียง อยู่ที่ 21 ราย บาดเจ็บ 30 คน และสูญหายอีก 19 ราย ส่วนผู้ก่อเหตุเสียชีวิตทั้งหมด
สำนักงานตำรวจแห่งชาติของเคนยา แถลงเมื่อคืนนี้ (16 ม.ค.) ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุที่กลุ่มก่อการร้ายอัล-ชาบับ อ้างว่าเป็นฝีมือของทางกลุ่มนี้ เพิ่มเป็นอย่างน้อย 21 คน แบ่งเป็นชาวเคนยา 16 คน ชาวอเมริกัน 1 คน ชาวอังกฤษ 1 คน และอีก 3 คนยังไม่ทราบสัญชาติ แต่การพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลในเบื้องต้นเชื่อว่าเป็นชาวแอฟริกัน และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บประมาณ 30 คน
ขณะที่คนร้ายมีทั้งสิ้น 5 คน หนึ่งในนั้นเป็นมือระเบิดฆ่าตัวตาย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงกำจัดกลุ่มผู้บุกรุกทั้งหมดได้ภายในสถานที่เกิดเหตุ
อย่างไรก็ตาม ตำรวจและทหารบางส่วนยังคงปิดล้อมพื้นที่ทั้งหมดของโรงแรมเพื่อประเมินความเสียหายในเบื้องต้น และการตรวจสอบพร้อมทั้งเก็บกู้วัตถุระเบิดที่อาจมีการฝังหรือติดตั้งทิ้งไว้ ตลอดจนการทั้งค้นหาผู้สูญหายที่ยังอาจหลบซ่อนตัวอยู่
ด้านประธานาธิบดีอูฮูรู เคนยัตตา แถลงแสดงความเสียใจอย่างสูงสุดไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิต และประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างหนัก พร้อมย้ำว่าเคนยาจะยกระดับมาตรการด้านความมั่นคงขึ้นอีกขั้นเพื่อจัดการกับกลุ่มก่อการร้ายในภูมิภาค หลังจากนั้นมีรายงานเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องสงสัยอย่างน้อย 2 คน แต่ยังไม่มีการเปิดเผยว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างไร
ส่วนกลุ่มอัล-ชาบับออกแถลงการณ์ความยาว 2 หน้า ว่าแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้เป็นผลจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ รับรองสถานะของกรุงเยรูซาเลมให้กับอิสราเอล ซึ่งทำเนียบขาวโต้กลับว่า แถลงการณ์ของอัล-ชาบับเป็นเหตุผลว่าเพราะเหตุใดสหรัฐต้องเพิ่มความจริงจังในการกวาดล้างกลุ่มอัล-ชาบับ โดยปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของกองทัพสหรัฐต่อฐานที่มั่นของกลุ่มอัล-ชาบับในโซมาเลีย รุนแรงมากขึ้นในยุคทรัมป์