ญี่ปุ่นหันมาพึ่งพาการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นมากขึ้น โดยนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ผู้นำรัฐบาลโตเกียว ตั้งเป้าที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้าประเทศถึง 40 ล้านคน ภายในปี 2563 ซึ่งเป็นปีที่กรุงโตเกียวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน
เป้าหมายดังกล่าว ดูไม่ไกลจากความเป็นจริงมากนัก โดยข้อมูลอย่างเป็นทางการ ที่การท่องเที่ยวญี่ปุ่นเปิดเผยเมื่อเร็วๆ นี้ แสดงให้เห็นว่า ในปี 2561 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าญี่ปุ่นสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 31.192 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้านั้น 8.7%
นอกจากจะเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกแล้ว ญี่ปุ่นยังมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักจากวัดเก่าแก่ที่มีอยู่ทั่วประเทศ และวัฒนธรรมป็อปที่แพร่หลายไปทั่วโลก
ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (เจเอ็นทีโอ) แสดงให้เห็นว่า ในปีที่ผ่านมา พลเมืองจากชาติเพื่อนบ้านในเอเชีย เป็นกลุ่มที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในญี่ปุ่นมากสุด
จีน เป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังญี่ปุ่นมากสุดในปีที่แล้ว ที่ 8.3 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.9% จากจำนวน 7.35 ล้านคนในปี 2560 ตามมาด้วยเกาหลีใต้ ที่ 7.53 ล้านคน เพิ่มขึ้น 5.6% ส่วนอันดับ 3 เป็นนักท่องเที่ยวจากไต้หวัน ที่ 4.8 ล้านคน
นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้ว รวมถึงนักเดินทางทางธุรกิจ ที่มีช่วงเวลาพำนักในประเทศจำกัดนั้น ยังมียอดใช้จ่ายโดยรวมสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 4.5 ล้านล้านเยน หรือราว 1.315 ล้านล้านบาท
นักท่องเที่ยวจีนเป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายเงินมากที่สุด คิดเป็นมูลค่าราว 1.54 ล้านล้านเยน หรือมากกว่า 1 ใน 3 ของยอดรวมการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวทั้งหมด
ตามมาเป็นอันดับ 2 คือ นักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ ที่ 584,200 ล้านเยน ส่วนอันดับ 3 ตกเป็นของนักท่องเที่ยวจากไต้หวันที่ 583,900 ล้านเยน
หากรวมกับมูลค่าการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจากฮ่องกง และสหรัฐ ที่ใช้จ่ายมากเป็นอันดับ 4 และ 5 ที่ 335,500 ล้านเยน และ 289,000 ล้านเยนตามลำดับ แล้ว ยอดรวมการใช้ของนักท่องเที่ยวจาก 5 ประเทศและดินแดนนี้ คิดเป็นสัดส่วนราว 73.9% ของยอดการใช้จ่ายโดยรวม
อย่างไรก็ดี หากคิดเป็นค่าเฉลี่ยการใช้จ่ายรายบุคคลแล้ว นักท่องเที่ยวออสเตรเลียเป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายรายบุคคลสูงสุดที่ 242,000 เยน ตามด้วยสเปนที่ 237,000 เยน และอิตาลีที่ 224,000 เยน
สำหรับกิจกรรมที่มีการใช้จ่ายมากสุด คือ การชอปปิง คิดเป็นสัดส่วน 34.7% ของยอดการใช้จ่ายโดยรวม ตามมาด้วย โรงแรมที่พัก 29.3% และอาหาร-เครื่องดื่มที่ 21.7%
ทั้งนี้ การพุ่งเป้าไปที่การท่องเที่ยว ส่วนหนึ่งยังเป็นผลมาจากที่ญี่ปุ่นเกิดวิกฤติประชากรขึ้นมา จากจำนวนผู้สูงวัยที่เพิ่มมากขึ้น และการบริโภคยังซบเซาอยู่
แรงหนุนของการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ยังรวมถึง การขยายตัวของสายการบินราคาประหยัด และจำนวนนักท่องเที่ยวทางเรือสำราญที่เข้ามาในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น
10 อันดับแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของญี่ปุ่น
- ฟูชิมิ อินาริ ไทชา (เกียวโต)
- พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิมา (ฮิโรชิมา)
- มิยาจิมะ หรือศาลเจ้าอิสึคุชิมา (ฮิโรชิมา)
- วัดโทได จิ (นารา)
- สวนชินจูกุ เกียวเอ็น (โตเกียว)
- สวนเคนโระคุเอ็น (อิชิกาวา)
- โคยะซัง โอคุโนะอิน (วายากามะ)
- วัดคินคะคุจิ (เกียวโต)
- พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งฮาโกเน่ (คานากาวา)
- ปราสาทฮิเมจิ (ฮิเมจิ)