สถาบันราชประชาสมาสัย กรมควบคุมโรค สร้างจิตอาสาค้นหาผู้ป่วยโรคเรื้อนรายใหม่ ให้รีบออกมารับการรักษาโดยเร็ว ก่อนเกิดความพิการ พร้อมสนับสนุนเงินช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเรื้อน และอาสาสมัครผู้ค้นพบผู้ป่วยโรคเรื้อน รายละ 3,000 บาท
สถานการณ์โรคเรื้อนในประเทศไทย มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหาที่ยังมีอยู่ คือ สัดส่วนผู้ป่วยโรคเรื้อนรายใหม่ ที่มีความพิการยังไม่มีแนวโน้มลดลง สะท้อนถึงการที่ผู้ป่วยมารับการรักษาล่าช้า
ในปี 2562 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงกำหนดอำเภอเป้าหมายเร่งรัดค้นหาผู้ป่วยโรคเรื้อนรายใหม่ จำนวน 102 อำเภอ ใน 42 จังหวัด โดยเร่งค้นหาผู้ป่วยโรคเรื้อนรายใหม่ ในอำเภอเป้าหมาย ให้สามารถค้นหาผู้ป่วยโรคเรื้อนรายใหม่ และผู้ป่วยที่หลงเหลือในชุมชนให้ได้เร็วที่สุด
นพ.ธีระ รามสูต ประธานมูลนิธิราชประชาสมาสัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่ามูลนิธิฯ ต้องการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาจากโรคเรื้อน และครอบครัว โดยมูลนิธิฯเล็งเห็นความสำคัญของการเร่งรัดค้นหาผู้ป่วยรายใหม่ จึงได้สนับสนุนเงินช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยโรคเรื้อน และอาสาสมัครผู้ค้นพบผู้ป่วยโรคเรื้อน รายละ 3,000 บาท โดยจ่ายให้กับผู้ป่วยทั้งหมดหากเกิดความตระหนัก และมาแสดงตัวรับการรักษาด้วยตนเอง
และในกรณีอาสาสมัครเป็นผู้นำพามารับการรักษา อาสาสมัครจะได้รับเงินจำนวน 1,000 บาท และผู้ป่วยได้รับเงินช่วยเหลือ 2,000 บาท
ด้าน นพ.อาจินต์ ชลพันธ์ ผู้อำนวยการ สถาบันราชประชาสมาสัย กล่าวว่า หากประชาชนสงสัยว่าตนเองเป็นโรคเรื้อน หรือสังเกตเห็นผิวหนังเป็นวงด่าง ชา ผื่น หรือตุ่มแดง ไม่คัน ใช้ยากิน ยาทานานเกิน 3 เดือนแล้วยังไม่หาย ให้รีบมาพบแพทย์ เพื่อทำการตรวจวินิจฉัย และเชิญชวนประชาชน ร่วมเป็นจิตอาสาในการเฝ้าระวัง ค้นหาผู้ป่วยโรคเรื้อนในชุมชมของตนเอง ให้รีบออกมารักษาเมื่อเกิดความผิดปกติทางผิวหนัง
รวมทั้งสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง เพื่อให้จิตอาสา ได้ช่วยติดตามค้นหาผู้ป่วยรายใหม่ และผู้ป่วยที่หลงเหลือ ให้ออกมารักษาโดยเร็วเพื่อป้องกันความพิการ นำไปสู่การกำจัดโรคเรื้อนได้สำเร็จและยั่งยืน
ทั้งนี้ในวันนี้ (16 ม.ค. ) ที่สถาบันราชประชาสมาสัย อำเภอ พระประแดง จังหวัด สมุทรปราการ มูลนิธิราชประชาสมาสัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสถาบันราชประชาสมาสัย ทำการรณรงค์ “จิตอาสาทำดีด้วยหัวใจ ร่วมค้นหาผู้ป่วยใหม่ในชุมชน” เพื่อจัดกิจกรรมรณรงค์ และทำพิธีน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ รวมถึงเปิดอาคารอาชีวเวชศาสตร์อีกด้วย สร้างขึ้นเพื่อรองรับการขยายงานด้านโรคจากการประกอบอาชีพ และสิ่งแวดล้อม ทั้งพัฒนาระบบบริการให้ทันสมัย รวดเร็วตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการ
นพ.ธีระ กล่าวว่าโรคเรื้อน เป็นหนึ่งในโครงการพระราชดำริ ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ทรงเห็นถึงปัญหา และทรงมีความห่วงใยต่อพสกนิกร ซึ่งสมัยก่อนนั้นยังไม่มียารักษาโรคเรื้อนที่ได้ผลดี ส่งผลให้ผู้ป่วยเกิดความพิการ ผู้ป่วยโรคเรื้อนและครอบครัว ต้องหลบซ่อนตัว
“พระองค์ท่านได้พระราชทานทุน “อานันทมหิดล” ให้จัดสร้างสถาบันราชประชาสมาสัย และทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ รับโครงการควบคุมโรคเรื้อนเป็นโครงการตามแนวพระราชดำริ ด้วยทรงมีพระราชปณิธาน กำจัดโรคเรื้อนให้หมดไปจากประเทศ ซึ่งปัจจุบันไทยสามารถกำจัดโรคเรื้อนจนไม่เป็นปัญหาสาธารณสุข ช่วยให้ผู้ป่วยนับแสนคนที่หลบซ่อน หรือไม่รู้ว่าตนเองป่วยได้รับการตรวจรักษาโรคจนหายขาด ผู้พิการได้รับการดูแลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”