Economics

เอาใจ!! ครม.สายเปย์แจกเงินสดกดได้ 3 เดือน

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ(ครม.สัญจร)ว่า ที่ประชุมเห็นชอบปรับเปลี่ยนการเติมเงินรายเดือนวงเงินค่าซื้อสินค้าที่จำเป็น 300 บาทต่อเดือน สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี และ 200 บาท สำหรับมีรายได้ 30,000-100,000 บาทต่อปี รวมทั้งหมด 14.5 ล้านคน

โดยสามารถเบิกเป็นเงินสดได้ที่ตู้เอทีเอ็ม และสาขาธนาคารกรุงไทยเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 2562 จากเดิมวงเงินนี้ใช้ได้เฉพาะที่ร้านค้าประชารัฐเท่านั้น  จะถอนเงินสดได้หากใครได้รับ 300 บาทต่อเดือนจะถอนได้ 200 บาท และหากใครได้รับ 200 บาทต่อเดือนจะถอนได้ 100 บาท ดังนั้นให้เหลือ 100 บาทต่อเดือนไว้ใช้กับร้านค้าประชารัฐ

329e6d7cd2f6885f42ea37dfd728377d43ff4f8dc754fc4dd7fd95bf28bbcf6f

นอกจากนี้ เห็นชอบขยายมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐต่อไปอีก 6 เดือน ตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2562 จากเดิมสิ้นสุดเดือนธันวาคม 2561 โดยใช้งบกลางปีงบประมาณ2562 จำนวน 4,370 ล้านบาท ในการเติมเงินเข้าบัตร 200 บาท หากมีรายได้ไม่ถึง 30,000 บาทต่อปี และ 100 บาท หากมีรายได้ 30,000-100,000 บาทต่อปี  จำนวนนี้สามารถกดเป็นเงินสดได้อยู่แล้ว

ปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมมาตรการฝึกอาชีพ 4.14 ล้านราย ในจำนวนนี้ได้รับการพัฒนาแล้ว 3.26 ล้านราย โดยจากการติดตามพบว่ามีผู้มีรายได้น้อยมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 30,000 บาทต่อปีจำนวนถึง 1 ล้านราย  เห็นความจำเป็นขยายมาตรการเพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยพ้นเส้นความยากจน หรือมีรายได้มากกว่า 30,000 บาทต่อปี

16438 20181030152115
พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าการให้ผู้ถือบัตรคนจนได้กดเงินสดได้ จากวงเงินในบัตรเดิมที่ใช้กับร้านค้าประชารัฐ เป็นข้อเรียกร้องของผู้มีรายได้น้อย ที่ต้องการนำไปซื้อสินค้าอื่นๆที่จำเป็น จากผลสำรวจของกระทรวงการคลังพบว่า ผู้มีรายได้น้อยใช้จ่ายช่วงต้นปีสูง จึงได้เพิ่มทางเลือกและช่วยบรรเทาปัญหาค่าครองชีพ ส่งเสริมให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ

“หากใครที่รายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี และเข้าร่วมมาตรการฝึกอบรมก็จะได้รับเงินในบัตรรวม 500 บาท แต่สามารถกดออกมาได้ถึง 400 บาทต่อเดือน จนถึงเดือน เมษายน 2562 ส่วนที่เหลือในบัตร 100 บาท เพื่อให้ผู้ถือบัตรไปซื้อสินค้าที่ร้านธงฟ้า เพื่อสนับสนุนสินค้าในท้องถิ่นเกือบ 50% ที่มีอยู่ในร้านค้า เช่น ไข่ไก่ กะปิ ข้าวสาร เป็นต้น และเวลา 3 เดือนที่ให้กดเงินได้ จะมีการติดตามว่าผลเป็นอย่างไร ไปซื้อของที่จำเป็นจริงหรือไม่ หากประเมินว่าดีจริงก็อาจนำมาเสนอครม.เพื่อพิจารณาต่อ”นายพุทธิพงษ์ กล่าว

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight