“ศุภาลัย” ประเมินอสังหาฯ ปี 62 “เรียล ดีมานด์” คอนโดราคาต่ำแสนบาทต่อตร.ม. ยังมี คุมเข้มซัพพลายใหม่บางทำเล ปัจจัยท้าทายราคา “ที่ดิน”พุ่ง แต่ยังมองโอกาสโต รุกเปิด 34 โครงการ มูลค่า 4 หมื่นล้าน
นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่ามองภาพรวมอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ปี 2562 จะมีมูลค่าการพัฒนาโครงการใกล้เคียงกันกับปีก่อน โดยยังคงมีแรงหนุนจากการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ถึงแม้ว่าจะเติบโตในอัตราที่ลดลงบ้าง
ทั้งนี้ มาจากปัจจัยโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของรัฐอย่างต่อเนื่อง รายได้จากการส่งออกและการท่องเที่ยวยังเพิ่มขึ้น คนไทยที่มีรายได้หรือเงินเดือนประจำยังคงมีรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่าเงินเฟ้อ ประกอบกับการลงทุนภาคเอกชนด้านต่างๆ ยังคงเพิ่มขึ้นจากการส่งเสริมการลงทุนโดยเฉพาะในอีอีซี
“ดีมานด์ตลาดที่อยู่อาศัยปีนี้ไม่ได้ลดลงจากปีก่อน สัดส่วน 2 ใน 3 ของผู้บริโภคยังต้องการซื้อคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯและหัวเมืองใหญ่ มองว่าคอนโดราคาต่ำกว่า 1 แสนตร.ม. ยังเป็นเรียลดีมานด์ที่ยังไปต่อได้ และศุภาลัยเน้นโปรดักท์ในตลาดนี้”
อย่างไรก็ตามด้าน “ซัพพลาย” ปีนี้ อยู่ในภาวะ “โอเวอร์ ซัพพลาย” บางทำเลเท่านั้น โดยระยะเวลาขายอาจใช้เวลามากกว่าเดิม ที่ผ่านมาผู้ประกอบการอสังหาฯ มีความระมัดระวังการขยายโครงการใหม่ในทำเลที่เสี่ยงกับภาวะโอเวอร์ซัพพลายอยู่แล้ว และคุมเข้มซัพพลายใหม่ในทำเลดังกล่าว หากทำเลใดมีอัตราการขายช้า ผู้ประกอบการจะไม่เข้าไปเปิดโครงการใหม่
ปีนี้ยังต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงจากความเข้มงวดในการปล่อยกู้ของสถาบันการเงินต่างๆ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เพิ่มขึ้น หนี้ครัวเรือน มาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เข้ามาควบคุมอัตราส่วนการให้สินเชื่อเพื่อซื้อบ้านเทียบกับมูลค่าบ้าน (LTV) ซึ่งทำให้บ้านหลังที่สองหรือราคาที่สูงกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไปได้รับผลกระทบ อีกทั้งความผันผวนจากเศรษฐกิจโลก ทั้งในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ราคาพลังงาน และสงครามการค้า ฯลฯ
อย่างไรก็ตามคาดว่าต้นทุนค่าก่อสร้างน่าจะ “ทรงตัว” และไม่น่าจะมีปัญหาแรงงานเหมือนหลายปีก่อนหน้า แต่ผู้ประกอบการที่ซื้อที่ดินต้นทุนสูงเกินไป หรือซื้อมากไปจะประสบปัญหาภาระหนี้ ภาระที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยที่ต้องแบกรับ สินค้าคงคลังจำนวนมาก คาดว่าเจ้าของที่ดินที่ตั้งราคาขายที่ดินดิบในราคาที่สูงเกินจริง หรือเกินความเหมาะสมที่จะนำมาพัฒนาจะค่อยๆ ปรับลดลงให้เป็นจริงมากขึ้น
“อีกปัจจัยท้าทายการพัฒนาโครงการอสังหาฯ คือ ที่บางทำเลปรับตัวสูงอย่างต่อเนื่อง พบว่าช่วง 20 ปีที่ผ่านมาราคาที่ดินเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวและเป็นราคาที่สูงเกินจริง ทำให้การพัฒนาที่อยู่อาศัยราคาเพิ่มขึ้นตามไปด้วย”
ปีที่ผ่านมาจะเห็นว่าคอนโดส่วนใหญ่เริ่มที่ราคา 1 แสนปลายถึง 2 แสนบาทต่อตร.ม. สูงเกินกว่าที่ตลาดเรียลดีมานด์จะซื้อได้ ขณะที่กลุ่มระดับบนและกำลังซื้อต่างประเทศสนใจลงทุนบางทำเลเท่านั้น
“เชื่อว่าโดยภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้ยังโตได้ แม้อาจน้อยกว่าปีก่อน และตลาดที่อยู่อาศัยปีนี้ จะไม่แย่กว่าปี 2561”
“ศุภาลัย”เปิดใหม่ 4 หมื่นล้าน
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าปี 2561 บริษัททำยอดขายได้กว่า 3.33 หมื่นล้านบาท เติบโต 8% เมื่อเทียบกับปี 2560 การเติบโตมาจากยอดขายโครงการคอนโด 1.72 หมื่นล้านบาท และยอดขายโครงการแนวราบ 1.60 หมื่นล้านบาท
โดยมีการเปิดตัวโครงการทั้งหมด 25 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 22 โครงการ และคอนโด 3 โครงการ มูลค่ารวม 2.59 หมื่นล้านบาท
สำหรับแผนธุรกิจปี 2562 แม้ภาพรวมของตลาดอสังหาฯ รายย่อยอาจได้รับผลกระทบจากมาตรการ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย แต่บริษัทยังคงตั้งเป้าหมายการเติบโตต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายยอดขาย 3.5 หมื่นล้านบาท และเป้าหมายรายได้ 2.8 หมื่นล้านบาท จากการเปิดตัวโครงการใหม่ 34 โครงการ แยกเป็นโครงการแนวราบ 28 โครงการ และคอนโด 6 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวม 4 หมื่นล้านบาท และกำหนดงบประมาณซื้อที่ดิน 8,000 ล้านบาท
ปีนี้จะมีการพัฒนาสิ่งใหม่ๆ อาทิ การสร้างสรรค์โครงการทันสมัยที่ผสานนวัตกรรมที่อยู่อาศัยและการพัฒนาอสังหาฯแบบบูรณาการ (Mixed-use) บนที่ดินสถานทูตออสเตรเลีย (เดิม) ถนนสาทร การสร้างสรรค์บ้านอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย เชื่อมโยงนวัตกรรมการอยู่อาศัยยุค 4.0 ด้วย Home Automation & Security ระบบอัจฉริยะที่ช่วยอำนวยความสะดวกกับระบบสั่งงานภายในบ้าน ผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน การขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ เจาะกลุ่มลูกค้าในระดับไฮเอนด์ที่มีกำลังซื้อสูงเพิ่มมากขึ้น ทั้งโครงการแนวราบ และคอนโด
เปิดคอนโดแบรนด์ใหม่ “ไพร์ม”
พร้อมกันนี้ได้เปิดตัวคอนโดแบรนด์ใหม่ “ไพร์ม” (Prime) ทำเลพระราม 9 พื้นที่ 2 ไร่ มูลค่าโครงการ 770 ล้านบาท เป็นอาคารโลว์ไรส์ สูง 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 217 ยูนิต ราคา 2-5 ล้านบาท โครงการดังกล่าวอยู่ด้านหน้าคอนโด ศุภาลัย เวอเรนด้า พระราม 9 ซึ่งเดิมวางแผนพัฒนาเป็นอาคารสำนักงานเช่า แต่เนื่องจากทำเลพระราม 9 ยังมีดีมานด์กลุ่มคอนโดในอัตราสูง จึงปรับแผนพัฒนาใหม่เป็นคอนโดแบรนด์ไพรม์ เพื่อรองรับนิว ซีบีดี ย่านพระราม 9 ทั้งกลุ่มที่ซื้ออยู่อาศัย ชาวต่างชาติ และนักลงทุน โครงการจะก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที สายสีส้ม (ตลิ่งชัน-มีนบุรี) ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการปี 2565
