Finance

ต่างชาติโกยเงิน 3 หมื่นล้าน ‘ทิ้งหุ้น AOT’

ในช่วงปีที่ผ่านมา ภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นไทยผันผวนแรง และดัชนีหุ้นปรับลดลง 10.82% ขณะที่ดัชนีตลาดเอ็มเอไอ ปรับลดลงถึง 34.04%

สาเหตุที่ดัชนีปรับลดลงแรงเกิดจากนักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทยอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ในปี 2561 มีมูลค่ารวมกว่า 2.8 แสนล้านบาท ถือว่าสูงสุดในประวัติการณ์

สำหรับหุ้นที่ถูกขายส่วนมากเป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่อยู่ใน SET 50 เพราะมีกลุ่มนักลงทุนต่างชาติถือครองหุ้นไว้เป็นจำนวนมาก และ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เป็นหนึ่งในเป้าหมายของนักลงทุนต่างชาติที่ถูกถล่มขายช่วงปีที่่ผ่าน

นอมินีต่างชาติลดการถือหุ้นAOT 01

จากการสำรวจข้อมูลตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า จำนวนนักลงทุนต่างชาติที่เคยถือครองหุ้น AOT ในช่วงต้นปี 2561 เทียบกับสิ้นปีเดียวกันมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด โดยต้นปีมีการถือครองประมาณ 2,016.55 ล้านหุ้น  สิ้นปีเหลือการถือครองเพียง 1,538.35 ล้านหุ้น  แสดงว่าต่างชาติได้ลดสัดส่วนการถือครองหุ้นไป ประมาณ 478 ล้านหุ้น

หากดูการเคลื่อนไหวราคาหุ้นรอบปี 2561 จะพบว่า หุ้น AOT ปรับลดลงไป 5.5% โดยราคาเคยปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 77.75 บาท ต่ำสุดที่ 60 บาท และมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 67.25 บาท ดังนั้นถ้านำจำนวนที่ต่างชาติลดการถือครอง 478 ล้านหุ้น มาคำนวณกับราคาเฉลี่ยปี 2561 พบว่า มูลค่าที่เทขายไปอยู่ที่ 3.2 หมื่นล้านบาท

ถ้าแยกตามสัญชาติการถือครองหุ้นในช่วงต้นปี2561 ประกอบด้วย อังกฤษ 1,258.87 ล้านหุ้น มีจำนวนผู้ถือหุ้น 96 ราย สิงคโปร์ 312.83 ล้านหุ้น มีจำนวนผู้ถือหุ้น 99 ราย อเมริกา 233.66 ล้านหุ้น มีจำนวนผู้ถือหุ้น 30 ราย ลักเซมเบิร์ก 84.69 ล้านหุ้น มีจำนวนผู้ถือหุ้น 9 ราย  ฮ่องกง 69.72 ล้านหุ้น มีจำนวนผู้ถือหุ้น 18 ราย ฝรั่งเศล 20 ล้านหุ้น จำนวนผู้ถือหุ้น 13 ราย จีน 16.11 ล้านหุ้น จำนวน 2 ราย  สวิตเซอร์แลนด์ 15.76 ล้านหุ้น มีผู้ถือหุ้น 14 ราย แคนนาดา 4.86 ล้านหุ้น จำนวนผู้ถือหุ้น 2 ราย

สิ้นปี 2561 การถือครองหุ้นแยกตามสัญชาติ ประกอบด้วย บริติช 1,075.29 ล้านหุ้น มีจำนวนผู้ถือหุ้น 143 ราย  สหรัฐ 182.54 ล้านหุ้น มีจำนวน 33 ราย สิงคโปร์ 95.46 ล้านหุ้น มีจำนวนผู้ถือหุ้น 41 ราย ฮ่องกง 75.97 ล้านหุ้น มีจำนวนผู้ถือหุ้น 35 ราย ลักเซมเบิร์ก 39.59 ล้านหุ้น มีจำนวนผู้ถือหุ้น 5 ราย ฝรั่งเศล 36.06 ล้านหุ้น มีผู้ถือหุ้น 16 ราย สวิตเซอร์แลนด์ 17.82 ล้านหุ้น มีจำนวนผู้ถือหุ้น 15 ราย ไอร์แลนด์ 8.55 ล้านหุ้น มีจำนวนผู้ถือหุ้น 1 ราย แคนาดา 7.03 ล้านหุ้น มีจำนวนผู้ถือหุ้น 2 ราย

สนามบินสุวรรณภูมิ 12

นอกจากนี้ รายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดของ AOT เปรียบเทียบกับครั้งก่อนจะเห็นว่า นอมินีต่างชาติได้เทขายหุ้นออกมา และไม่ปรากฏรายชื่อในโครงสร้างผู้ถือหุ้นล่าสุด น่าจะสะท้อนได้ว่าเป็นกลุ่มหลักๆที่ขายหุ้นออกมาได้แก่  เชสนอมินี จำนวน 128.42 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.9%  บีเอ็นวาย มิลเลียน นอมินี 79.25 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.55% เอชเอสบีซี(สิงคโปร์) นอมินี 75.27 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.53% เดอะแบงก์ ออฟ นิวยอร์ก มิลเลียน 73.42 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.51%

จากการสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ พบว่า ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำให้ ซื้อหุ้น AOT เนื่องจากมองว่าความสามารถในการกำไรขยายตัวต่อเนื่อง จากการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยว และราคาที่ปรับลดลงแรงทำให้มีความน่าสนใจมากขึ้นหากเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ให้ความเห็นว่า AOT ปีนี้ คาดจะเป็นช่วง High season ของการท่องเที่ยวในทุกๆไตรมาส นอกเหนือจากไตรมาส 1 และไตรมาส 4  ปีนี้คาดในช่วงไตมาส 2-3 จะเป็นช่วงที่ดีของการท่องเที่ยวเช่นเดียวกัน เริ่มต้นจาก พิธีบรมราชาภิเษก ในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม (ในรอบ 69 ปี ) และงานประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน (ครั้งแรกในรอบ 10 ปี ) ในช่วงเดือนมิถุนายน ส่งผลบวกต่อภาคการท่องเที่ยว โดยคาดจำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้จะกลับมาเติบโตที่ 8% และคาดเติบโต 11% ในช่วงปี 2561-2566

พร้อมทั้งคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนในเดือนธันวาคม 2561 จะพลิกกลับมาเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 4 เดือน  ส่วนเดือนกุมภาพันธ์ 2562 จับตาการเปิดประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ทั้งหมด 3.7 หมื่นตร.ม. เพิ่มขึ้น 23% และเพิ่มอีก 1.5 หมื่นตร.ม.  ที่Terminal 2 คาดสร้างเสร็จในปี 2564/2565  ส่งผลให้รายได้จากธุจกิจเชิงพาณิชย์เติบโตกว่า 75% เป็น 3 หมื่นล้านบาท คาดกำไรสุทธิปีนี้เติบโต 11% ที่ 2.79 หมื่นล้านบาท

บล.ฟิลลิป  ประเมินว่า ไตรมาส 1ปี 2562 คาดว่ากำไรอยู่ที่ 6,450 ล้านบาท โดยคาดการณ์รายได้โต 5.5% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่ 15,410 ล้านบาท ตามเที่ยวบินเพิ่มขึ้น 5.9% โดยในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 7%, ในประเทศเพิ่มขึ้น 4.6% และผู้ใช้บริการ เพิ่มขึ้น 2.8% แบ่งเป็น ต่างประเทศเพิ่มขึ้น 3.3%, ในประเทศ เพิ่มขึ้น 2% เป็นผลจากการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวจีนมาตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2561 คาดรายได้จากการบินเพิ่มขึ้น 3.2% แต่คาดว่ารายได้ไม่ได้มาจากการบินน่าจะดี เพิ่มขึ้น 8.4% จากส่วนแบ่งผลประโยชน์ที่โตขึ้น ค่าใช้จ่ายดำเนินงานคาด เพิ่มขึ้น 5.9% และ ค่าใช้จ่ายพนักงานเพิ่มขึ้น 12.9% ส่วนหนึ่งจากการปรับขึ้นเงินเดือน

ฝ่ายวิจัยคงคำแนะนำทยอยซื้อราคาพื้นฐาน 72.50 บาท ซึ่งยังคาดการณ์กำไรปี 2562 อยู่ที่ 26,233 ล้านบาท โดยจะติดตามการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยว หลังรัฐบาลได้ขยายเวลายกเว้นค่าวีซ่าเป็น 30 เมษายน2562 ที่ครอบคลุมช่วงตรุษจีนและสงกรานต์

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight