COLUMNISTS

เลือกตั้ง กับ การลงทุน เรื่องเดียวกัน?

Avatar photo
จิตติศักดิ์ นันทพานิช จุดตัดความคิด
155

แม้วันเลือกตั้งยังไม่ถูกกำหนดแน่นอนว่า จะเลื่อนจากวันที่ 24 กุมภาพันธ์ไปเป็นวันไหน เพราะผู้เกี่ยวข้องยังตีความความหมาย 150 วันไม่จบ แต่การเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นนั้น ทำให้บรรยากาศการลงทุนไปยืนอยู่บนความไม่แน่นอน ระหว่างความเสี่ยงกับโอกาสอีกครั้ง

ballot 1294935 960 720

การประชุม กกร. หรือ คณะกรรมการรวมภาคเอกชน สัปดาห์ก่อน กลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย ออกมาพูดว่า การเลือกตั้งแม้เลื่อนออกไปเป็นเดือน มีนาคม (คาดว่า) แต่ก็ส่งผลบวก เพราะนักลงทุนเชื่อว่า มีการเลือกตั้ง กระบวนการเบิกจ่ายงบประมาณเดินหน้าได้ หากการเลือกตั้งและการจัดตั้งรัฐบาลราบรื่น จีดีพี หรือ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ สามารถเติบโตได้ถึง 4.5 %

ตัวเลข(จีดีพี)ข้างต้นคือ ตัวเลขคาดการณ์อัตราเติบโตทางเศรษฐกิจสูงสุดของปีนี้ มากกว่าตัวเลขที่หอการค้าไทยคาดเอาไว้ว่า ปี 2562 เศรษฐกิจจะขยายตัวราว 4.3 % ขณะที่โฆษกรัฐบาลแถลงหลังคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบงบประมาณรายจ่าย ฯ 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท มากกว่างบประมาณฯ 2562 ราว 2 แสนล้านบาท และคาดวาจะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจขยายตัว 3.5-4.5 %

เหตุหลักที่ยกมาสนับสนุนความคิด (เลือกตั้งดี ต่อ การลงทุน ) คือ การเลือกตั้งเป็นการกลับไปสู่ระบบประชาธิปไตย ซึ่งจะสร้างความยอมรับต่อนานาประเทศ และทำให้เกิดความเชื่อมั่น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการดูดทุนเข้าประเทศ

หากย้อนกลับไปดู การขยับตัวของตัวเลขของบีโอไอ(ส่งเสริมการลงทุน)ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จะพบว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างตัวเลขขอบีโอไอ กับสถานการณ์การเมือง ในช่วงที่ผ่านมาพอสมควร

ในปี 2557 ที่เกิดการรัฐประหารนั้น มีโครงการยื่นขอบีโอไอถึง 3,469 โครงการ คิดเป็นมูลค่าถึง 2.1 ล้านล้านบาท ทำสถิติสูงสุดในรอบ 50 ปี เชื่อว่าสถิติการขอบีโอไอที่พุ่งพรวดในปีดังกล่าวนั้น ผลส่วนหนึ่งมาจากมาตรการภาษีที่รัฐบาลคสช.ออกมาจูงใจให้กับผู้ขอบีโอไอ และตัดสินใจลงทุนภายในปี 2560

แต่ปี 2558 ถัดมา ยอดขอบีโอไอกลับลดลงเหลือ 989 โครงการ มูลค่า 8 แสนล้านบาท ผ่านมาถึง ปี 2559 ยอดขอบีโอไอฟื้นตัวกลับขึ้นมาเป็น 1,546 โครงการ มูลค่า 5.8 แสนล้านบาท

ส่วนปี 2560 ซึ่งโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอีซีเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ยอดขอบีโอไออยู่ที่ 1,456 โครงการ มูลค่า 6.4 แสนล้านบาท และปี 2561 ที่เพิ่งผ่านไป มียอดขอบีโอไอ 1,626 โครงการมูลค่า 9.01 แสนล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 25 % และสูงกว่าปีก่อนหน้าถึง 43 %

31479180

ประเด็นคือ ตัวเลขขอบีโอไอที่ปรับขึ้นในช่วง 3 ปีหลังนั้น ได้แรงบวกจากปัจจัยใด

หนึ่ง มาตรการภาษีของรัฐบาล สอง อีอีซี ที่รองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประกาศลั่นว่า “จุดติดแล้ว” หรือ สาม วันเลือกตั้งที่ใกล้เข้ามา

ปลายปีที่แล้ว ดร.สมคิด รองนายกฯเศรษฐกิจ ไปพูดบนเวทีสัมมนาแห่งหนึ่งเกี่ยวกับ  “ความสัมพันธ์ระหว่างการลงทุนกับการเลือกตั้ง” ความตอนหนึ่งว่า  “ต่างประเทศไม่สนว่าเลือก (เลือกตั้ง) หรือไม่เลือก (เลือกตั้ง) แต่สนใจว่า ต่อเนื่องเชิงนโยบายหรือไม่ ไม่อยากไปลงทุนกับประเทศที่มีการจลาจลบนท้องถนน………”

จุดยืนของหัวหน้าทีมเศรษฐกิจรัฐบาลคสช.ชัดเจนว่า ให้น้ำหนัก  “ความต่อเนื่องของนโยบาย” มีผลต่อการลงทุนมากกว่า “จะมีการเลือกตั้ง” แม้ประเทศไทยห่างเหินกับการเลือกมาตั้งแต่ปี 2554 แล้วก็ตาม

มุมมองนี้ คงมีทั้ง คนหนุน และ คนค้าน แต่ถ้าการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้น และการจัดตั้งรัฐบาลไม่ราบรื่น ย่อมส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุน แม้จะมีอีอีซีเป็นกองหนุน ก็ตาม