ในโลกยุคดิจิทัล ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคในทุกด้าน ทั้งไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต การเสพสื่อและคอนเทนท์ เรียกว่าเป็นการย่นระยะเวลาการสื่อสารระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคให้สั้นลง อีกทั้งยังเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถพูดคุยกับผู้บริโภคได้แบบเรียลไทม์
โศรดา ศรประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริลเลียนแอนด์มิลเลียน จำกัด ดิจิทัลเอเยนซี กล่าวว่าในยุคดิจิทัล ทั้งแบรนด์และนักการตลาดได้มีการปรับตัวมาอย่างต่อเนื่อง มุ่งพัฒนากลยุทธ์การสื่อสารด้านดิจิทัล มาร์เก็ตติ้งโดยไม่ได้ทำการตลาดแบบเดิมอีกต่อไป เพื่อเข้าถึงผู้บริโภครายบุคคล ที่มีความต้องการแตกต่างกัน ผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มที่มีหลากหลายเครื่องมือในยุคนี้
“ในโลกออนไลน์ ยุค 1.0 ที่เริ่มต้นจากเว็บไซต์ และกำลังก้าวสู่ยุค 5.0 หรือยุคไอโอที ที่อุปกรณ์ต่างๆ สื่อสารกันเอง ล้วนเป็นความท้าทายแบรนด์และนักการตลาดในการวางกลยุทธ์เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคในยุคนี้”
หากจะพูดถึงเทรนด์“ดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง” ที่มีความสำคัญในปีนี้ โดยทั้งแบรนด์และนักการตลาดต้องจับตามองรวมทั้งนำมาใช้เป็นกลยุทธ์การสื่อสาร มองว่ามี 3 เทรนด์หลัก หรือว่าด้วยกลยุทธ์ 3 C
1.Connected Data ทั้งนักการตลาดและแบรนด์จะต้องมีความเข้าใจเรื่อง “ดาต้า” อย่างถูกวิธี เพื่อนำข้อมูลการใช้งานในโลกดิจิทัลของผู้บริโภคที่เกิดขึ้นจำนวนมากในแต่ละวัน มาวิเคราะห์เพื่อเชื่อมโยงดาต้าตอบสนองความต้องการผู้บริโภคแบบรายบุคคล
พร้อมนำข้อมูลมาสร้างสรรค์คอนเทนท์ ที่ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในแต่ละช่องทางและช่วงเวลาอย่างเหมาะสม ด้วยรูปแบบการสื่อสารแบบเรียลไทม์ ซึ่งสามารถตรวจสอบและวัดผลงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการทำงานยังต้องให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภคโดยไม่ละเมิดสิทธิ์
2.Content ยังคงเป็นเรื่องที่จริงแท้และแน่นอนอยู่เสมอกับเรื่องที่ว่า Content is King แต่การสร้างสรรค์คอนเทนท์ในยุคนี้ ต้องผนวกการทำงานร่วมกับเทคโนโลยี ที่มีความล้ำอย่าง“ปัญญาประดิษฐ์” หรือ AI เข้ามาใช้งาน เพื่อออกแบบงานครีเอทีฟที่เข้าถึงผู้บริโภคแบบรายบุคคลและถูกวิธีการ เพราะในยุคอดีต กลยุทธ์การตลาด มุ่งไปที่คนจำนวนมาก (แมส) จากนั้นเริ่มสื่อสารเฉพาะกลุ่ม (เซ็กเม้นต์) แต่ปัจจุบันเป็นยุคสื่อสารรายบุคคล (Personalize) ดังนั้นนักการตลาดต้องมีความเข้าในเชิงลึกด้านการสร้างสรรค์คอนเทนท์และช่องทางการสื่อสาร
3.Channel ในโลกยุคโซเชียล มีเดีย ซึ่งเป็นช่องทางที่มีอิทธิพลในการเข้าถึงผู้บริโภค สะท้อนได้จากจำนวนผู้ใช้งานแฟลตฟอร์มหลัก ทั้งเฟซบุ๊ก ยูทูบ ไลน์ ที่ระดับ 40-50 ล้านคนต่อแพลตฟอร์ม อีกทั้งประเทศไทยยังติดอันดับโลกจำนวนผู้ใช้เฟซบุ๊ก เรียกได้ว่าผู้บริโภคไทย เป็นระดับตัวพ่อตัวแม่ การใช้สื่อโซเชียลมีเดีย ในหลากหลายรูปแบบทั้งการใช้งานปกติและทำการค้าขาย
ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าช่องทาง “โซเชียล คอมเมิร์ซ” เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มหลักที่ผลักดันตลาดอีคอมเมิร์ซไทยเติบโต มีทั้งการใช้งานระดับผู้บริโภค พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ เอสเอ็มอีก มองว่าปี “ช่องทาง” โซเชียล คอมเมิร์ซ จะมีการขยายตัวอย่างเป็นรูปธรรม และเป็นอีกกลยุทธ์การตลาดที่ต้องจับตามองในปีนี้