นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย รองประธานกรรมการธนาคาร ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เปิดเผยในที่ประชุมสามัญประจำปี ครั้งที่ 25 ว่า กรณีควบรวมระหว่าง KTB และธนาคารทหารไทย (TMB) ว่า เกิดจากแนวคิดของ รมว.คลัง ที่มองว่าธนาคารในประเทศปัจุบันหลายแห่งยังมีขนาดเล็กอยู่ หากควบรวมกันจะทำให้เกิดความแข็งแกร่ง และเกิดประโยชน์ โดยเฉพาะธนาคารขนาดเล็ก แต่ไม่ได้บังคับว่าธนาคารไหนควบธนาคารไหน เพียงแต่ให้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีเอาไว้แค่นั้น ส่วนธนาคารใหญ่จะควบรวมกัน ก็เป็นเรื่องของแต่ละแห่งจะพิจารณากันเอง ซึ่งก็ไม่ได้ปิดกั้น แต่ธนาคารกรุงไทยไม่มีนโยบายควบรวมกับใครทั้งในระดับคณะกรรมการธนาคาร และระดับบริหารรวมถึงการประชุมทุกครั้งไม่มีการพูดคุยกันถึงเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด และไม่เคยนำประเด็นนี้มาพิจารณาว่าจะต้องควบรวมหรือไม่
“เหตุที่ว่าเป็นการจับประเด็นว่าคลังต้องการให้กรุงไทยควบรวมกับทหารไทย เป็นประเด็นที่คิดกันไปเอง เพราะต่างเห็นว่าคลังถือหุ้นทั้ง 2 แบงก์ในจำนวนที่สูง หลายคนจึงจับประเด็นดังกล่าวมาผูกโยงกันเอง”นายไกรฤทธิ์ กล่าว
ส่วนกรณี บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ AQ นั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการประมูลขายที่ดินทั้งหมดในวันที่ 6 มิ.ย.นี้ โดยราคากลางทางกรมบังคับคดีจะเป็นผู้กำหนด ซึ่งมูลหนี้ ณ ตอนนั้นอยู่ที่ 8-9 พันล้านบาท เป็นการปล่อยสินเชื่อตั้งแต่ปี 2547 จนปัจจุบันมูลหนี้มากกว่า 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีดอกเบี้ยจากการผิดนัดชำระ และยังมีคดีอาญาที่ศาลสั่งให้ผู้ต้องหาจ่ายหนี้คืนธนาคาร 1.04 หมื่นล้านบาท
“เราจะได้รับเงินคืนคุ้มกับหนี้หรือไม่ ไม่สามารถตอบได้ เพราะเป็นเรื่องของการประมูล แต่บอกได้ว่าบรรเทาความเสียหายให้กับธนาคารได้ ส่วนจะครอบคลุมหรือไม่ ไม่สามารถตอบได้”นายไกรฤทธิ์ กล่าว
