การท่าเรือฯ เสนอ 3 ทางเลือก เช่าคอนโด-ที่ดินเปล่า-กลับบ้านเกิด แลกย้าย 1.3 หมื่นครัวเรือนออกจากชุมชนคลองเตย คาดได้พื้นที่คืน 200 ไร่ มูลค่ากว่า 3.2 หมื่นล้านบาท
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยระหว่างเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการพัฒนาพื้นที่เพื่อการอยู่อาศัยในชุมชนคลองเตย (Smart Community) ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ณ องค์การฟอกหนัง (เดิม) ถนนริมทางรถไฟสายเก่า เขตคลองเตย กรุงเทพฯ วันนี้ (9 ม.ค.) ว่า การท่าเรือฯ ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาชุมชนคลองเตยที่มีมานาน 40-50 ปี อย่างเป็นรูปธรรม
ด้วยการเสนอสิทธิประโยชน์ให้แก่ประชาชนที่ต้องการย้ายออกจากชุมชนคลองเตยใน 3 ทางเลือก ซึ่งผู้อยู่อาศัยสามารถตัดสินใจเลือกรับ 1 ในสิทธิประโยชน์ ดังต่อไปนี้
- เช่าห้องชุดขนาด 33 ตารางเมตร ใน Smart Community ซึ่งเป็นที่พักอาศัยแนวสูงและอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับชุมชนคลองเตยปัจจุบัน
- ที่ดินเปล่า ขนาด 19.5 ตารางวา ย่านหนองจอก มีนบุรี จำนวน 2,140 แปลง เพื่อเป็นเจ้าของพื้นที่ของตัวเอง
- เงินทุนพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อเป็นทุนชีวิตก้อนใหญ่ เพื่อใช้กลับไปพัฒนาคุณภาพชีวิต ที่บ้านเกิดของตนเอง
สำหรับโครงการ Smart Community เป็นโครงการก่อสร้างที่พักอาศัยสูง 25 ชั้น จำนวน 4 อาคาร ในพื้นที่องค์การฟอกหนัง (เดิม) กระทรวงกลาโหม ขนาด 58 ไร่ ด้วยวงเงินลงทุนประมาณ 7,500 ล้านบาท ซึ่งการท่าเรือฯ มีสภาพคล่องเพียงพอที่จะลงทุนโครงการทั้งหมดด้วยตัวเอง และในอนาคต จะมีการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Monorail) เพื่อเชื่อมโยงโครงการ Smart Community กับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีคลองเตยด้วย
นายไพรินทร์ กล่าวว่า หลังพิธีเปิดโครงการ Smart Community ในวันนี้แล้ว การท่าเรือฯจะลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นจากประชาชน และสำรวจสำมโนประชากร คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน โดยตนได้กำชับนายสมศักดิ์ ห่มม่วง ประธานกรรมการ (บอร์ด) การท่าเรือฯให้เร่งรัดการก่อสร้าง และเปิดประมูลงานก่อสร้างอาคารหลังแรกให้ได้ภายในปีนี้
เช่าคอนโดราคาถูก-ที่ดินหนองจอกอยู่ฟรี
เรือโทกมลศักดิ์ พรหมประยูร รองผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย สายบริหารสินทรัพย์และพัฒนาธุรกิจ เปิดเผยว่า การท่าเรือฯมีที่ดินบริเวณคลองเตยทั้งหมด 2,353 ไร่ ในจำนวนนี้ประมาณ 200 ไร่ เป็นที่อยู่อาศัยของประชาชนจำนวน 31 ชุมชน รวม 13,000 หลังคาเรือน แบ่งเป็นชุมชนคลองเตย 26 ชุมชน ประมาณ 12,500 หลังคาเรือน และชุมชนใต้ทางด่วนอีก 5 ชุมชน ประมาณ 500 หลังคาเรือน
ผู้อยู่อาศัยในชุมชนทั้ง 31 แห่ง สามารถเลือกรับสิทธิประโยชน์ 1 ใน 3 ทางเลือกตามที่การท่าเรือเสนอฯ โดยผู้ที่ตัดสินใจเลือกเช่าห้องชุดขนาด 33 ตารางเมตร จะได้รับค่าเช่าราคาถูก หรือไม่ต้องจ่ายค่าเช่าเลย แต่ต้องจ่ายค่าส่วนกลางและอื่นๆ ด้วยตัวเอง ด้านระยะเวลาการเช่า จะอ้างอิงกับมาตรฐานกรมธนารักษ์ คือ สัญญา 30 ปี และจะพิจารณาต่อให้อีก 30 ปี ส่วนประชาชนที่เลือกย้ายไปที่ดินเปล่าย่านหนองจอก จะไม่ต้องเสียค่าเช่า แต่จะไม่สามารถซื้อขายที่ดินได้ ยกเว้นจะส่งต่อที่ดินให้ทายาทอยู่อาศัยเท่านั้น
ทั้งนี้ จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่าประชาชนในชุมชน 50% ต้องการอยู่ในอาศัยในอาคารสูง อีก 30% ต้องการย้ายไปที่ดินเปล่าย่านหนองจอก และ 20% ต้องการรับเงินทุนพัฒนาคุณภาพ แล้วกลับไปใช้ชีวิตในบ้านเกิน แต่ก็ยอมรับว่ามีประชาชนบางส่วน ไม่ต้องการย้ายออกจากชุมชนคลองเตย ซึ่งก็ต้องเจรจาต่อรองกันต่อไป
“ในเบื้องต้น ชาวชุมชนบางคนยังคงกังวลใจ เกี่ยวกับการขึ้นอยู่อาศัยอาคารสูง เนื่องจากปัจจุบันอยู่อาศัยในที่ราบและในเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ต้องรับผิดชอบ การท่าเรือฯ จึงจะประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับชุมชน และให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการดำเนินโครงการด้วย พร้อมประสานประโยชน์ของแต่ละฝ่ายได้ จึงคาดว่าโครงการจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์ได้” เรือโทกลมศักดิ์กล่าว
ที่ชุมชน 200 ไร่ มูลค่า 3.2 หมื่นล้านบาท
หลังจากนี้ การท่าเรือฯจะลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นจากประชาชน และสำรวจสำมโนประชากร คาดว่าจะทราบจำนวนประชาชน ที่ตัดสินใจเลือกแนวทางต่างๆ และสรุปวงเงินลงทุนภายในปี 2562 ขณะเดียวกันการท่าเรือฯจะจ้างที่ปรึกษาออกแบบรายละเอียด และเสนอรายงานวิเคราะห์ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการ Smart Community ภายในปีนี้
เบื้องต้นจะเสนอเรื่องของบประมาณก่อสร้างที่พักอาศัยแนวสูงแห่งแรก วงเงินลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท ต่อบอร์ดการท่าเรือฯ, กระทรวงคมนาคม, สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรี(ครม.) ตามลำดับ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างปี 2563 และเริ่มให้ประชาชนเข้าอยู่อาศัยได้จริงในปี 2565 ซึ่งการท่าเรือฯจะทยอยดำเนินการเป็นเฟสๆ และคาดว่าต้องใช้เวลาถึง 10 ปีกว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์
“คาดว่าต้องใช้เวลาเคลียร์พื้นที่ประมาณ 10 ปี จึงแล้วเสร็จ โดยพื้นที่ 200 ไร่ที่ได้รับคืนจากชุมชน มีราคาประมาณตารางวาละ 4 แสนบาท คิดเป็นมูลค่าคร่าวๆ ประมาณ 32,000 ล้านบาท” เรือโทกมลศักดิ์กล่าว
ทั้งนี้ การท่าเรือฯ อยู่ระหว่างทบทวนแผนแม่บท (Master Plan) ในการพัฒนาพื้นที่ย่านคลองเตยทั้งหมด 2,353 ไร่ โดยจะเริ่มพัฒนาจากพื้นที่ว่างเปล่า และไม่มีประชาชนอาศัยอยู่ก่อน จากนั้นจะทยอยพัฒนาพื้นที่ที่รับคืนจากชุมชนต่อไป โดยเบื้องต้นเตรียมการพัฒนาพื้นที่เป็นท่าเรืออัตโนมัติ และพื้นที่เชิงพาณิชย์ริมฝั่งเจ้าพระยายาว 1-1.5 กิโลเมตร เช่น ศูนย์การค้าไอคอนสยาม และเอเชียทีค
เปิดโฉม ‘คอนโดคลองเตย’
สำหรับโครงการพัฒนาพื้นที่เพื่อการอยู่อาศัย ในชุมชนคลองเตย (Smart Community) ตั้งอยู่บริเวณโรงฟอกหนัง กระทรวงกลาโหม จำนวน 58 ไร่ ให้เป็นอาคารที่พักอาศัยทรงสูง สำหรับรองรับชุมชน และหน่วยงานราชการต่างๆ (Smart Community) เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ของชุมชนคลองเตยในอนาคต มีระบบบริหารจัดการสาธารณูปโภค และสาธารณูปการที่ทันสมัย รวมทั้งสภาวะแวดล้อมที่ดี เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตชมชนให้มีมาตรฐาน และมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง สร้างความสุข ลดความเหลื่อมล้ำและเกิดความเสมอภาคในสังคม อีกทั้ง เป็นส่วนหนึ่งของศูนย์กลางเมืองใหม่ในใจกลางเมือง (New Urban Core Development)
ในบริเวณโครงการอาคารที่พักอาศัยทรงสูง ประกอบด้วย อาคารพักอาศัยสูง 25 ชั้น จำนวน 4 อาคาร เป็นห้องขนาด 33 ตารางเมตร อาคารละ 1,536 ยูนิต รวม 6,144 ยูนิต ตั้งอยู่ซอยตรีมิตร ติดถนนริมทางรถไฟสายเก่า ด้านหลังติดริมคลองพระโขนง อาคารส่วนกลาง ที่เป็นสถานที่ราชการสำนักงานต่างๆ รวมถึงพื้นที่ให้เช่าภายในอาคาร เพื่อเป็นศูนย์กลางในการอำนวยความสะดวกกับผู้อยู่อาศัยภายในโครงการฯ พร้อมด้วยอาคารจอดรถส่วนกลาง เพื่อให้บริการแก่ผู้พักอาศัย อาคารตลาดหรือพื้นที่เชิงพาณิชย์ให้เช่าขายสินค้า (Community Mall) โรงเรียน รวมถึง อาคารอเนกประสงค์อื่นๆ และพื้นที่สีเขียวสำหรับการพักผ่อนด้วย
‘ชาวบ้าน’ ขอมีส่วนร่วมออกแบบคอนโด
นางประไพ สานุสันต์ ประธานสภาองค์กรชุมชนคลองเคย เปิดเผยว่า โครงการ Smart Community ของการท่าเรือฯ ได้เสนอห้องพักอาศัยเพียง 1 แบบเท่านั้น ซึ่งไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนส่วนใหญ่ในชุมชน ดังนั้น ชุมชนในพื้นที่การท่าเรือฯ จึงขอยื่นข้อเสนอต่อนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และผู้รับผิดชอบจำนวน 5 ประเด็น ดังนี้
- ขอมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและทุกภาคส่วน เพื่อที่อยู่อาศัยที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตชุมชน
- ขอเสนอตัวอย่างทางเลือก การสำรวจ-การออกแบบที่อยู่อาศัย ที่ได้รับจากการสำรวจความเป็นอยู่ การอยู่อาศัยจริงของชุมชน
- ขอให้มีการนำเสนอข้อมูล แผนงาน กรอบงานที่ดำเนินการ รวมถึงหน่วยงานที่ร่วมดำเนินการและรับผิดชอบโครงการ
- นำเสนอแผนงาน การดูแล การจัดการคุณภาพชีวิต ผู้ได้รับผลกระทบหรือมีส่วนได้เสียในการพัฒนาพื้นที่
- แผนการบริหารจัดการพื้นที่สาธารณะ พื้นที่จัดประโยชน์ ที่จะนำดอกผลมาบริหารโครงการ ให้ก่อประโยชน์ต่อการดูแลและพัฒนาประชากรในโครงการ ไม่ใช่เชิงธุรกิจ
