COLUMNISTS

มอง 3 มุมไม่ผ่าน! ‘บ้านล้านหลัง’

Avatar photo
2606

เปิดจองคึกคักสร้างประวัติการณ์เกรียวกราว ไปเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และกลายเป็นกระแสแรง (เพียงวันเดียว) เมื่อวันอาทิตย์ 23 ธันวาคม 2561 ซึ่งธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) ได้เปิดโครงการสินเชื่อบ้านล้านหลัง วงเงิน 50,000 ล้านบาท ให้ประชาชนจองในวันเดียวคือ 23 ธันวาคม 2561 มีผู้มายืนจองคิวแรกตั้งแต่ 3 ทุ่มครึ่งวันก่อนหน้าคือ 22 ธันวาคม สำหรับธอส.สำนักงานใหญ่

ส่วนธอส.ในต่างจังหวัด มีรายงานข่าวว่า ประชาชนทยอยมาจองคิวกันตั้งแต่ตี 1 เช้ามืดวันที่ 23 ธันวาคมกันเลยทีเดียว ตอกย้ำความสนใจของประชาชน ด้วยยอดจองที่เข้ามาถล่มทลายทั่วประเทศ ปิดยอดจองไปกว่า 1.3 แสนล้านบาท สูงกว่าวงเงินที่ธอส.ประกาศไป 50,000 ล้านบาทเกือบ 3 เท่า!

แต่หลังจากนั้น เมื่อธอส.เปิดให้ยื่นขอสินเชื่อตามโครงการจริง เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2562 กลับไม่มีภาพความคึกคักเหมือนวันจอง อาจจะด้วยเหตุผลที่ต่างคนต่างมีคิวอยู่แล้ว จึงไม่มีบรรยากาศต่อคิวแย่งกันเหมือนวันแรกที่ให้มาจองสิทธิ์ จนกระทั่งปัจจุบัน ก็ยังไม่มีรายงานข่าวความคืบหน้าจากธอส. ว่ามีผู้มาขอสินเชื่อบ้านล้านหลังตามสิทธิ์ที่จองไว้มาก-น้อยเพียงใด ครบ 100% ตามสิทธิ์ที่จองหรือไม่ เงียบหายไปแบบเนียนๆ เหมือนจบสิ้นกระบวนการแล้ว ทั้งที่ในข้อเท็จจริง กระบวนการขอสินเชื่อบ้านล้านหลังเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น!

บ้านล้านหลัง3
ประชาชนจำนวนมากมาต่อคิว จองสิทธิ์สินเชื่อบ้านล้านหลัง เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2561

ในฝั่งเอกชน โครงการไหนที่มีสินค้าเข้าเกณฑ์คือราคาไม่เกินกว่า 1 ล้านบาท ต่างก็มานำเสนอขายในวันจองสิทธิ์ และโปรโมทขายหลังจากนั้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็ไม่ได้หวือหวาหรือคึกคักมากนัก จากรายงานที่พบในแต่ละโครงการ ยอดขายยังคงเดินหน้าตามปกติไม่ได้พุ่งขึ้นพรวดพราด จนน่าประหลาดใจแต่อย่างใด

ที่สำคัญดูเหมือนโครงการบ้าน-คอนโดของเอกชนที่เข้าเกณฑ์ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ในตลาดมีสินค้าไม่มากนัก เทียบได้ไม่ถึง 10% ของตลาดที่อยู่อาศัยที่เปิดขายในภาพรวม โครงการบ้านล้านหลัง ที่รัฐบาลประกาศออกมา จึงดูเหมือนไม่มีเสียงตอบรับจากเอกชนมากนัก

ขณะที่กูรูอสังหาฯ อย่าง “อนันต์ อัศวโภคิน” อดีตซีอีโอแลนด์แอนด์เฮาส์ ก็กล่าวถึงโครงการบ้านล้านหลังของรัฐบาลในทำนองว่า ไม่เข้าใจว่ารัฐบาลประกาศโครงการนี้ด้วยจุดประสงค์อะไร เพราะการที่ประชาชนจะไปยื่นขอสินเชื่อบ้าน นั้นย่อมหมายความว่า เขาต้องซื้อบ้านหรือคอนโดไว้อยู่แล้วจึงมาขอสินเชื่อ

มันเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจตรงไหน ถ้าคนที่ซื้อบ้าน-คอนโดอยู่แล้วจะมาขอสินเชื่อ

ในมุมมองของกูรูอสังหาฯรายนี้ จึงแสดงความไม่เข้าใจว่า รัฐบาลจัดโครงการนี้ออกมาเพื่ออะไร ต้องการเร่งการขายอสังหาฯ ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ต้องการให้คนซื้อที่อยู่อาศัยหลังแรก หรือต้องการกระแสอะไร

ในขณะที่ “ดร.โสภณ พรโชคชัย” ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย ก็ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้ โดยระบุว่า.. โครงการบ้านล้านหลังทำไปมีแต่เสีย! พร้อมทำคลิปวิเคราะห์โครงการบ้านล้านหลังของทางราชการว่า อาจจะหลงทิศผิดทาง ทำให้เกิดปัญหาในภายหลังได้ พร้อมนำเสนอแนวทางการส่งเสริมการซื้อบ้าน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ถูกทางแก่ราชการอีกด้วย

เนื้อหาในคลิป แสดงความไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้ พร้อมระบุว่า ชื่อโครงการบ้านล้านหลัง กับวงเงินที่เปิดมาผ่านธอส. ในทางปฏิบัติแล้วไม่ตรงกัน วงเงิน 6 หมื่นล้านบาท ถ้าบ้านหลังละล้านก็จะได้บ้านเพียง 6 หมื่นหลังเท่านั้น ยังห่างไกลจากคำว่า “บ้านล้านหลัง” ถ้าตัวเลขนี้คือได้แค่ 6% ของบ้านล้านหลังเท่านั้น

ที่สำคัญสินค้าบ้านหรือคอนโดในตลาด ที่เปิดขายใหม่ส่วนที่ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท มีขายในตลาดไม่ถึง 5,000 ยูนิต เพราะฉนั้น โครงการบ้านล้านหลังย่อมไม่ส่งผลอะไรต่อตลาดเอกชน นอกจากนี้ การนำเสนอแพ็คเกจสินเชื่อบ้าน สัญญาระยะยาว 40 ปี ก็ไม่เป็นการดีสำหรับประชาชน การขอสินเชื่อระยะยาว ผู้ที่ได้ประโยชน์คือสถาบันการเงิน เพราะถึงแม้จะกำหนดดอกเบี้ยไม่สูงมาก แต่ด้วยระยะเวลาที่นานเกินไป ทำให้เป็นภาระในการผ่อนชำระ

นอกจากนี้ การโฆษณาที่ว่ากู้สินเชื่อบ้าน 1 ล้านบาท ผ่อนเดือนละ 3,800 บาท ก็เป็นเฉพาะใน 5 ปีแรกเท่านั้น หลังจากนั้นค่าผ่อนก็ปรับขึ้นตามภาวะดอกเบี้ยลอยตัว กลายเป็นภาระระยะยาวสำหรับประชาชน หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนก่อหนี้ระยะยาวโดยเกินจำเป็นหรือเปล่า!

ในขณะที่ประชาชนเอง ก็ไม่มั่นใจว่าจะได้รับสิทธิ์สินเชื่อบ้านล้านหลัง เพราะเงื่อนไขธนาคารมีหลายข้อที่กำหนดไว้ เช่นต้องมีสเตทเมนท์ มีการแสดงหลักฐานที่มาของรายได้ และต้องเป็นผู้มีรายได้ไม่เกิน 25,000 บาท/เดือน ซึ่งประชาชนที่มาจองสิทธิ์ส่วนใหญ่รายได้ไม่ถึง 25,000 บาท/เดือน แต่เรื่องเอกสารทางการเงินอื่นๆ คนจนส่วนใหญ่ไม่มี จึงคาดว่าจะไม่ได้รับสิทธิ์ตามที่รัฐบาลประกาศไว้

บ้านล้านหลัง2
สำนักงานธอส.ในหลายจังหวัด มีประชาชนมาจองคิวขอสิทธฺิ์บ้านล้านหลังคึกคักเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2561

ทั้งหมดนี้เป็น การมองคนละมุม สำหรับโครงการบ้านล้านหลัง ในมุมเอกชนผู้พัฒนาอสังหาฯ แสดงความไม่สนใจโครงการนี้ เพราะไม่มีสินค้าระดับราคานี้อยู่ในตลาด ขณะที่นักวิชาการด้านประเมินราคาก็มองว่าเป็นโครงการที่ไม่มีประโยชน์ ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรเลย และสินค้าบ้าน-คอนโดต่ำกว่า 1 ล้านในตลาดก็ไม่ได้มีมากพอ ด้านประชาชนก็ไม่มั่นใจว่าจะใช้สิทธิ์ได้แค่ไหน เพราะแบงก์เข้มงวดเรื่องเอกสารทางการเงิน

หากประเมินจากความเห็นของทั้ง 3 ฝ่ายข้างต้นแล้ว โครงการบ้านล้านหลังอาจไปไม่ถึงฝั่งฝัน แม้แต่จะขอให้ได้แค่ 5 หมื่นหลัง ตามวงเงินของธอส. ก็ยังดูเหมือนจะยากในทางปฏิบัติ!