Telecommunications

ทางรอด’ไทยคม’ ลุยธุรกิจใหม่ – จับมือ Global Player

คุณอนันต์ ไทยคม 3
นายอนันต์ แก้วร่วมวงศ์

แม้ไทยคมจะใช้ชื่อกิจกรรมแนะนำตัวพร้อมแสดงวิสัยทัศน์ของว่าที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่อย่าง “นายอนันต์ แก้วร่วมวงศ์” ไว้เก๋ไก๋ว่า “จิบน้ำชายามบ่าย Say Hi กับคุณอนันต์” แต่สิ่งที่ผู้บริหารคนใหม่ของไทยคม และอดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารของซีเอส ล็อกอินโฟ เปิดเผยออกมา บอกเป็นนัย ๆ ได้ว่า อนาคตของธุรกิจดาวเทียมยักษ์ใหญ่ของไทยก็กำลังเผชิญคลื่นลูกใหญ่ที่ชื่อ Digital Disruption อย่างหนักหน่วงเช่นกัน

โดยนายอนันต์ เผยว่า “ทุกวันนี้ นอกจากทำธุรกิจเดิมให้ดีแล้ว เราต้องมองหาธุรกิจใหม่ด้วย เพราะอย่างที่เรารู้กัน ตอนนี้เราเจอ Digital Disruption กันจนธุรกิจต่าง ๆ แทบจะไปไม่เป็น ทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เจอรถอัตโนมัติไร้คนขับ ธนาคารก็เจอฟินเทค เพราะฉะนั้น เราอยู่ในภาวะที่กิจการเดิมก็ต้องทำ กิจการใหม่ก็ต้องลงทุน”

แม้รายได้หลักของไทยคมจะยังมาจากกิจการดาวเทียม แต่ธุรกิจใหม่ที่ไทยคมจะดึงมาเป็นตัวช่วยเสริมแกร่งให้กับองค์กรในวันที่ธุรกิจเดิมเจอคลื่นแห่งความเปลี่ยนแปลงนั้นก็ไม่ต่างจากหลาย ๆ อุตสาหกรรมทำ นั่นคือ การพัฒนานวัตกรรมดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ โดรน ฯลฯ โดยคุณอนันต์ให้เหตุผลว่า เพราะเทคโนโลยีเหล่านี้เกิดขึ้นมาไม่นานนัก และองค์ความรู้ที่แต่ละองค์กรมียังห่างกันไม่มาก จึงเป็นสิ่งที่สามารถแข่งขันได้

“สำหรับโลกยุคใหม่ ผมบอกได้เลยว่า ไม่มีใครทำธุรกิจอย่างเดียวแล้วได้รายได้มหาศาล คุณต้องทำ 5 – 10 ธุรกิจเพื่อให้ได้รายได้เท่าเดิม แต่ความโชคดีก็คือว่า ถ้าได้การออกแบบระบบดี ๆ คุณก็ใช้งานมนุษย์เท่าเดิม หรือน้อยลงด้วยซ้ำ ซึ่งสำหรับไทยคม ปลายปีคงเห็นภาพชัดขึ้นว่า New Business จะเป็นอย่างไร”

โดยนายอนันต์เปรียบการลงทุนในธุรกิจใหม่ว่าเหมือนกับการปลูกไม้ผล ที่วันนี้ไทยคมเริ่มแล้วไม่ต่างจากอุตสาหกรรมอื่น ๆ

“มันเหมือนกับการปลูกทั้งผักสวนครัว กล้วย มะม่วง ทุเรียน มะพร้าว ถ้าเราปลูกผัก 3 เดือนเราอาจได้กินผัก แต่ถ้าปลูกกล้วยก็ต้องรอ 5 – 6 เดือนถึงจะได้กิน แต่ถ้าเป็นทุเรียนหรือมะพร้าวเราต้องรอ 7 – 8 ปี เพราะงั้นเราต้องปลูกหลาย ๆ อย่าง เนื่องจากกิจการมันต้องเดินต่อไปอีกนาน เราก็ปลูกของเราไปเรื่อย ๆ”

“คืออนาคตทำอย่างเดียวไม่ได้ ทำหลายอย่างแล้วจะหยุดก็ไม่ได้ ต้องเดินต่อ ต้องทำไปเรื่อย ๆ เป็นหน้าที่ของพวกเราที่จะสร้างขึ้นมา แต่คงไม่มีใครกล้าบอกว่า 8 เดือนจะได้รายได้ 600 ล้านจากสินค้า ก.ไก่ อย่างนั้นเขาอาจจะอยู่ไม่นาน หรือไม่ก็โม้เยอะ แต่ก็ขอบอกว่าเราจะพยายามทำอย่างเต็มที่”

ด้านงบลงทุนใน New Business นายอนันต์ชี้ว่าจะมีคอนเซ็ปต์คล้ายสตาร์ทอัป นั่นคือไม่มีลิมิตเรื่องงบลงทุน แล้วแต่ศักยภาพและความจำเป็น ถ้าไปต่อไม่ได้ก็หยุด ไม่ฝืนเช่นกัน

“การลงทุนใน New Business จะไม่ใช่โมเดลธุรกิจแบบอดีตอีกต่อไป แต่เราจะเดินตามแนวทางของสตาร์ทอัป ใส่เงินลงไปตามแต่ศักยภาพของโปรเจ็ค เพราะอย่าลืมว่า กว่าที่อูเบอร์จะโตมาถึงระดับนี้ เขาใส่เงินลงไปตั้งเท่าไร แล้วถ้าบางโปรเจ็คขายได้ มีลูกค้า เราก็ขายเลย ดังนั้นโมเดลธุรกิจจะไม่ใช่ Basic Telecom อีกต่อไปแล้ว”

ส่วนความท้าทายที่ว่า วันหนึ่ง Digital Disruption จะทำธุรกิจดาวเทียมหายไปหรือไม่นั้น นายอนันต์ตอบโดยชี้ให้เห็นภาพหนึ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น นั่นคือการมาถึงของ Global Player กับเงินลงทุนขนาดใหญ่ที่จะพลิกโฉมอินเทอร์เน็ตโลกไปตลอดกาล

“สิ่งที่กำลังจะเกิดกับธุรกิจดาวเทียมทั่วโลกคือจะมีผู้เล่นรายใหญ่เข้ามา แล้วก็ส่งดาวเทียมขึ้นชั้นบรรยากาศทีละเป็นพัน ๆ ดวง เพื่อมาครอบคลุมโลกทั้งโลก ให้กลายเป็นบรอดแบนด์ ซึ่งเราก็หวังว่าเขาจะระดมทุนได้ และยิงดาวเทียมได้สำเร็จ รวมถึงสามารถเปิดให้บริการได้ เพราะถ้าเขาสำเร็จ สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ จะต้องเกิดการทำงาน ร่วมกับ Local Operator เพราะด้วย Regulation ของดาวเทียม มันมีคำว่า Landing Rights อยู่ ใครจะเข้ามาทำมาหากินในนี้ ก็ต้องขออนุญาต ไทยคมที่มีใบอนุญาตอยู่แล้ว ก็มีโอกาสที่จะทำงานกับ Global Operator ซึ่งจะทำให้รูปแบบการทำงานอาจเปลี่ยนไป แต่จะเปลี่ยนไปแบบไหน ยังตอบไม่ได้เหมือนกัน”

“แนวโน้มตอนนี้ก็คือ เรามีดาวเทียมของเราให้บริการอยู่ เรามีลูกค้าของเรา เขาก็ใช้ต่อไป แต่ดาวเทียมใหม่ที่จะเกิดขึ้น เราก็ต้องหาทางทำงานร่วมกับเขาให้ได้” ส่วนภาพของสิ่งที่นายอนันต์กล่าวจะเกิดขึ้นเมื่อไรนั้น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ของไทยคมเผยว่า ปี 2562 ก็จะเริ่มเห็นชัดขึ้นอย่างแน่นอน

 

Avatar photo