ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ยื่นความจำนงให้สภาคองเกรสจัดหางบประมาณเพิ่มเติมหลายพันล้านดอลลาร์ เพื่อจัดการกับการเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย แต่ไม่ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ และไม่ได้นำเสนอแผนการใหม่ๆ ที่จะยุติข้อขัดแย้งที่ทำให้การเมืองสหรัฐตกอยู่ในภาวะอัมพาต จากข้อเสนอในการสร้างกำแพงแนวชายแดนเม็กซิโกของเขา
ระหว่างการแถลงนาน 10 นาทีในช่วงไพรม์ไทม์วานนี้ (8 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ผู้นำสหรัฐ ระบุว่า ทางออกทางเดียวสำหรับเรื่องนี้คือ ฝ่ายเดโมแครตต้องผ่านแผนงบประมาณใช้จ่ายสำหรับการสร้างกำแพงดังกล่าว
“ทางออกทางเดียว คือ ฝ่ายเดโมแครตต้องผ่านร่างงบประมาณที่ป้องกันชายแดนของเขา และทำให้หน่วยงานราชการของเราเปิดทำการได้อีกครั้ง”
ครั้งนี้ถือเป็นครั้่งแรก ที่ทรัมป์ใช้วิธีการแถลงผ่านทางโทรทัศน์ที่เผยแพร่ไปทั่วประเทศ ซึ่งตามปกติจะเป็นวิธีที่บรรดาผู้นำสหรัฐใช้ เพื่ออธิบายถึงการปฏิบัติการทหารครั้งใหญ่ๆ หรือเพื่อบรรเทาความตื่นตระหนกของประชาชนในประเทศ ในช่วงเวลาที่เกิดวิกฤติต่างๆ
การแถลงดังกล่าว ยังถือเป็นการเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดในการรณรงค์ของทรัมป์ เพื่อจัดการกับเรื่องที่เขาเรียกว่า วิกฤติที่ชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก ซึ่งเป็นเรื่องที่เขาผลักดัน เพื่อแสดงให้บรรดาผู้สนับสนุนเห็นว่า กำลังต่อสู้เพื่อทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ระหว่างการหาเสียงเมื่อปี 2559
ทรัมป์ยังเรียกร้องโดยตรงไปถึงชาวอเมริกัน ในความพยายามที่จะระดมแรงกดดันจากสาธารณชน เพื่อให้ฝ่ายเดโมแครตเห็นพ้องกับการเพิ่มงบประมาณสำหรับป้องกันชายแดน
“นี่คือวิกฤติมนุษยธรรม วิกฤติแห่งหัวใจ และวิกฤติแห่งจิตวิญญาณ”
ทางด้านแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และชัค ชูเมอร์ แกนนำเดโมแครตในวุฒิสภา ออกมาคัดค้านถ้อยแถลงในเรื่องวิกฤติชายแดนเม็กซิโก
“ประธานาธิบดีทรัมป์จะต้องยุติการใช้ชาวอเมริกันเป็นตัวประกัน ต้องหยุดการสร้างวิกฤติ และต้องเปิดหน่วยงานราชการ” เปโลซี ระบุ
ส่วนชูเมอร์ กล่าวว่า มีแต่ทรัมป์เท่านั้นที่ควรถูกกล่าวโทษสำหรับภาวะชัตดาวน์ที่เกิดขึ้น
“ประชาธิปไตยอเมริกันไม่ได้ทำงานแบบนี้ เราไม่ได้บริหารประเทศด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ประธานาธิบดีไม่ควรที่จะมาทุบโต๊ะ พร้อมเรียกร้องในสิ่งที่เขาต้องการด้วยวิธีการของเขาเอง ไม่อย่างนั้นหน่วยงานราชการก็ต้องปิดตัวลง ส่งผลกระทบต่อชาวอเมริกันหลายล้านคน เหมือนกับการหาประโยชน์จากชาวอเมริกันหลายล้านคน”
ทั้งนี้ คาดกันว่า ทรัมป์ และรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ จะรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับ ส.ว.รีพับลิกันในวันนี้ (9 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น และทรัมป์ จะพบหารือกับแกนนำสภาคองเกรสของทั้ง 2 พรรคที่ทำเนียบขาว ทั้งผู้นำสหรัฐ ยังมีกำหนดเดินทางไปยังชายแดนทางตอนใต้ของประเทศในวันพรุ่งนี้ (10 ม.ค.) เพื่อตอกย้ำถึงความต้องการที่จะสร้างกำแพงกั้นชายแดนของเขา
