COLUMNISTS

สวัสดีปีแห่งการเลือกตั้ง

Avatar photo
84

ลาทีปีเก่า 2561 สวัสดีปีใหม่ 2562 สิ่งไม่ดีและเลวร้ายต่างๆ ขอให้ผ่านพ้นไปกับปีเก่าๆ วันนี้ปีใหม่แล้วขอให้พบพานแต่สิ่งดีๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเศรษฐกิจ การเมือง  แต่ที่แน่ๆปีใหม่ปี 2562 น่าจะเป็นปีแห่งความคึกคักทางการเมืองอีกปีหนึ่ง เพราะเป็นปีแห่ง“การเลือกตั้ง”ที่กำลังจะมาถึง ที่พรรคการเมืองต่างเฝ้ารอคอย น่าจะเป็นปีที่สร้างความคึกคักในเชิงสร้างสรรค์ ของการเลือกตั้ง 24 กุมภาพันธ์ 2562

เลือกตั้ง ภาพจาก กกต.
ภาพจาก กกต.

หากดูห้วงเวลาตอนนี้ ก็คงจะเหลือเวลาไม่ถึง 60 วัน ที่จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น แต่ก่อนที่จะไปถึงการเลือกตั้ง ที่สำคัญการหาเสียงของพรรคการเมืองแต่ละพรรค ก็ต้องดำเนินการอย่างสร้างสรรค์เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองฝั่งรัฐบาลหรือพรรคการเมืองตรงข้ามรัฐบาล

เราอยากเห็นการหาเสียงที่เต็มไปด้วยแนวนโยบายสร้างสรรค์ นโยบายที่จะสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศชาติ  ไม่อยากเห็นแนวนโยบายการหาเสียงแบบโจมตี  และการหาเสียงแบบเอาประชาชนเป็น “ตัวประกัน” จนเกินไป ที่สำคัญไม่ต้องการเห็นภาพการหาเสียงแบบเกลียดชัง หรือใส่ร้ายกันจนเกินกว่าเหตุ  ไม่ว่านโยบายที่ออกมาจะเป็นอย่างไร ตัวเลือกสุดท้ายอยู่ที่ “ประชาชน” เป็นผู้ชี้ขาดเท่านั้น

สำหรับพรรคการเมืองในเตรียมพร้อมเพื่อการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง จะต้องกำหนดนโยบายและต้องเป็นนโยบายที่เป็นจริง สามารถแก้ปัญหาปากท้องพี่น้องประชาชนได้จริง สามารถแก้ปมปัญหาเศรษฐกิจที่ตกต่ำได้ ไม่ใช่เป็นเพียงนโยบาย“ขายฝัน” ฉะนั้นนโยบายที่จะออกมาของพรรคการเมืองนับจากนี้ไป จะต้องเป็นนโยบายที่ทำให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าทำได้จริง

ไม่เฉพาะแต่นโยบายหาเสียงที่จะต้องประกาศออกมา สิ่งสำคัญอีกอย่างสำหรับพรรคการเมืองในช่วงนี้ นั่นคือการเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของแต่ละพรรคการเมือง ซึ่งน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นในช่วงเดือนนี้ เชื่อว่าการหาเสียงจะให้ได้ผล และประชาชนศรัทธาได้ นโยบายการหาเสียงและชื่อนายกรัฐมนตรี มันต้องไปด้วยกัน ฉะนั้นการที่ใครอยากจะเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ไม่อยากที่จะปรากฎตัวหรือเป็น“อีแอบ”อยู่ ไม่น่าจะทำให้ประชาชนศรัทธาได้

46444445 712671015774363 7851731092225654784 n 1

ฉะนั้นสิ่งที่น่าสนใจนับจากนี้ เราจะเห็นความโดดเด่นของแต่ละพรรคการเมือง กับรายชื่อบุคคลที่เสนอเข้าชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ตรงนี้น่าจะบอกความศรัทธาของประชาชนได้ไม่น้อย

เฉกเช่นเดียวกับรัฐมนตรีที่ยัง“เหยียบเรือสองแคม “ มาถึงวันนี้แล้วน่าจะสร้างความชัดเจนให้กับตัวเองได้แล้วว่า จะยังคงอยู่แบบสภาพเดิมๆ ประเภทที่ว่า“เมื่อถึงเวลาเราก็จะออก” หรือ“ลาออกเมื่องานในตำแหน่งเสร็จสิ้น” เหมือนอย่างที่มีรัฐมนตรีบางคนออกมาบอกบ่อยๆ แบบ“กระต่ายขาเดียว”

คำถามที่ตามมา“ลาออกเมื่องานในตำแหน่งเสร็จสิ้น” จุดที่เสร็จสิ้นอยู่ตรงไหน  ดังนั้นเพื่อความสง่างามของรัฐมนตรีทั้ง 4 คน ในยังอยู่ในมุ้งรัฐบาล ปีใหม่แล้วน่าจะสร้างความชัดเจนให้กับตัวเอง ตรงนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญเหมือนกันในเชิงการเมือง

หากยัง“ดื้อดึง”และ“กระเตง” เกาะไปกับคณะรัฐมนตรีทุกการประชุมคณะรัฐมนตรี มีหวังตกเป็นเหยื่อทางการเมืองของฝ่ายตรงข้ามเป็นแน่นอน เพราะการประชุมคณะรัฐมนตรีแต่ละครั้ง มีการกำหนดนโยบายแบบลดแลกแจกแถมอยู่แล้ว แม้หลายฝ่ายจะมองว่าเป็นนโยบายรัฐบาลที่ช่วยเหลือประชาชน ไม่เกี่ยวกับนโยบายการหาเสียงของพรรคการเมืองอย่างพลังประชารัฐ แต่สิ่งที่ปรากฎตรงกันข้าม กลับเห็นมีการชูนโยบายรัฐบาลหาเสียงทุกพื้นที่ซะแล้ว

อย่างนี้ไม่เอานโยบายรัฐไปหาเสียงแล้วจะเรียกว่าอะไร สิ่งสำคัญที่สุดแนวนโยบายที่ออกมา เป็นการเอาเงินภาษีประชาชนทุกคนไปหาเสียง จนใครๆเรียกว่า“พรรคต้นทุนต่ำ”ไปแล้ว หากยังไม่แยกแยะมีหวังเส้นทาง ทางการเมืองอาจจะไปได้ไม่ไกลนะเจ้าค่ะ !!